รายงานพิเศษ/ระอุ เขย่าโผทหารรอบ 2 เขย่าทัพไทย-ทัพบก-ทัพเรือ จับตาสูตร “เสือข้ามห้วย” จับตาเก้าอี้ “แม่ทัพ 1-ผบ.พล.1 รอ.”

รายงานพิเศษ

ระอุ เขย่าโผทหารรอบ 2

เขย่าทัพไทย-ทัพบก-ทัพเรือ

จับตาสูตร “เสือข้ามห้วย”

จับตาเก้าอี้ “แม่ทัพ 1-ผบ.พล.1 รอ.”

การที่บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายทหารถึงมือบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ตามกำหนด เมื่อ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ไม่ได้หมายความว่า “โผลงตัว”

เพราะว่ากันว่า นั่นเป็นแค่การเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาเท่านั้น

เพราะแม้ในตำแหน่งระดับหัวๆ จะมีการหารือกันก่อนที่จะจัดทำโผโยกย้ายเสร็จแล้วก็ตาม แต่ในระดับรองๆ ลงมา และตำแหน่งสำคัญต่างๆ อาจจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อ พล.อ.ประวิตรได้รับบัญชีรายชื่อของทุกเหล่าทัพแล้ว ไม่ได้เรียกประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายพล หรือ 7 เสือกลาโหม โดยทันใด

พลเอกธงชัย สาระสุข พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม

แต่ พล.อ.ประวิตร ต้องการที่จะเอาบัญชีรายชื่อทั้งหมดมาตรวจดูก่อน

จึงไม่แปลกที่ที่บ้าน ร.1 รอ. ของ พล.อ.ประวิตร จะมีบรรดานายทหารน้องรักถูกเรียกมาพูดคุย

ต้องยอมรับว่าภาพพจน์ของ พล.อ.ประวิตร นั้น น้องๆ ในกองทัพเรียกว่า “พี่ป้อม” และมีฉายา “พี่ชายที่แสนดี” ก็ย่อมเป็นที่ฝากความหวังของน้องๆ

หรือ พล.อ.ประวิตรอาจเห็นว่าใครเหมาะสมกับตำแหน่งไหนมากกว่า ที่ ผบ.เหล่าทัพได้เสนอขึ้นมา

จนอาจตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “พี่ป้อม” ขอมา เกิดขึ้นได้ในบางเก้าอี้

แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตรจะยืนยันว่าจะยึดตามที่ ผบ.เหล่าทัพเสนอมา หรือต้องถาม ผบ.เหล่าทัพก่อนก็ตาม

แต่จากประวัติการจัดทำโผโยกย้ายทหารของ พล.อ.ประวิตร ที่ผ่านๆ มาก็คือ จะมีการเจรจาต่อรองในบางตำแหน่ง บ่อยครั้งที่ ผบ.เหล่าทัพ ยอมเสียตำแหน่งนี้แต่ทว่าได้อีกตำแหน่งหนึ่งแทน

แต่ที่ผ่านมาก็เคยมีประวัติที่ว่า หาก พล.อ.ประวิตร เสนอชื่อนายทหารที่เหมาะสมในบางตำแหน่งมาให้ ผบ.เหล่าทัพพิจารณา แต่ทว่า ผบ.เหล่าทัพไม่เห็นด้วย แต่ไม่อาจขัดพี่ป้อมได้ ก็จะมาบอกบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ในท้ายที่สุด

แต่ยังไม่เคยถึงขั้นที่จะต้องมีการโหวตนับคะแนนเสียงกันใน 7 เสือกลาโหม ที่มี รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ., ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ.

ที่จับตามองกันมากที่สุด คือตำแหน่ง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) ที่คุมกำลังนักรบสีน้ำเงินทั่วประเทศ หลังจากที่มีรายงานว่าบิ๊กปุย พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด เสนอชื่อ พล.อ.ธงชัย สาระสุข หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำฯ ข้ามไปนั่ง ผบ.นทพ. โดยเขาเหลืออายุราชการแค่ปีเดียว

แต่ พล.อ.ประวิตร เห็นว่าบิ๊กเจอร์รี่ พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ผบ.ศรภ.) มีความเหมาะสมกว่า และรู้กันดีว่า พล.ท.ธนะเกียรติ เป็นน้องรัก และมือทำงานการข่าวของบิ๊กป้อม

แต่ดูเหมือนว่างานนี้ พล.อ.ประวิตร ก็จะยอมถอย เพราะ พล.อ.สุรพงษ์ ยืนกรานตามที่เสนอไป

อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร เองก็ยังต้องการให้ พล.ท.ธนะเกียรติ ทำหน้าที่ ผบ.ศรภ. เป็นมือทำงาน มือการข่าวลับให้ต่อไป เพราะหากให้ขยับก็ยังไม่เห็นใครที่จะเหมาะสมและไว้วางใจเท่า

พลเอกณัฐ อืนทรเจริญ พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี พลเอกเทพพงศ์ ทิพยจันทร์ พลเอก วัลลภ รักเสนาะ

แต่ก็จะเป็นการปิดโอกาสลุ้นอนาคตของบิ๊กเจอร์รี่ เพราะถ้ายังไม่ได้ขึ้นเป็นพลเอกปีนี้ โอกาสที่จะลุ้นถึง ผบ.ทหารสูงสุดก็ดับวูบลง เพราะจะเกษียณราชการ 2562 นี้แล้ว

แต่ข้อนี้ก็สอดคล้องกับข่าวที่ว่า บิ๊กป้อมจะส่งบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำ รมว.กลาโหม น้องรัก ข้ามมาเป็นรอง เสธ.ทหาร เพื่อจ่อคิวเป็น เสธ.ทหาร และ ผบ.ทหารสูงสุด ในอนาคตอันใกล้

เพราะ พล.อ.ณัฐ เป็นเตรียมทหารรุ่น 20 ที่มีอายุราชการถึงกันยายน 2564 ก็สามารถมาจ่อเติบโตได้อย่างสวยงาม อีกทั้งที่ บก.ทัพไทย ก็ไม่มีดาวเด่นที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

เพราะมีการวางตัวบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี รอง เสธ.ทหาร ให้ขึ้นเป็น เสธ.ทหาร ในโยกย้ายครั้งนี้ จ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ในอนาคตอันใกล้ไว้แล้ว

พลตรีเจริญชัย หินเธาว์

 

ไม่แค่นั้น ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวที่ทำให้เสือป่าแห่งทัพไทย หวั่นไหวกับสูตรข้ามห้วยที่จะให้บิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผช.ผบ.ทบ. น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ของบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ข้ามมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

แล้วโยกสลับให้บิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เสธ.ทหาร ตัวเต็ง ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่ ข้ามไปเป็นปลัดกลาโหม แทน

เพราะเห็นว่า พล.อ.เทพพงศ์ เป็นนายทหารสายคอมแมนด์ที่โตมาจากหน่วยกำลังรบ อาจจะไม่ถนัดกับงานในตำแหน่งปลัดกลาโหมที่เป็นฝ่ายอำนวยการ เท่าใดนัก

สอดรับกับกระแส “เสือข้ามห้วย” หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เห็นพ้องให้ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ข้ามห้วยมาเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะให้นโยบายไว้แล้วว่า ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ให้ข้ามห้วยก็ตาม แต่ทว่าก็ออกตัวว่าครั้งนี้เป็น “ความจำเป็นอย่างยิ่งยวด” ประกอบกับสถานการณ์บ้านเมืองด้วย จึงต้องเอาทหารมาคุม สมช.

โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ให้เหตุผลว่า พล.อ.วัลลภ มีทักษะความรู้ด้านความมั่นคงแบบ 360 องศา และเป็นคนที่แอ๊กทีฟตลอด โดยแอบดูการทำงานมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และมีความสามารถด้านภาษา เพราะจบ เสธ.อังกฤษ และเคยเป็น ผช.ทูตทหารประจำพนมเปญ

ท่ามกลางการถูกจับตามองว่าน่าจะเป็นสูตรการแก้ปัญหาการโยกย้ายที่ไม่ลงตัว ด้วยเหตุที่หากอยู่ต่อในกลาโหม พล.อ.วัลลภ จะต้องขึ้นเป็นรองปลัดกลาโหม และด้วยอายุราชการถึงตุลาคม 2562 ก็สามารถจ่อคิวขึ้นเป็นปลัดกลาโหมเลย

พลเอกสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี. พลเอกธงชัย สาระสุข

แต่เพราะ พล.อ.ประวิตร มีคนที่เป็นปลัดกลาโหมไว้ในใจแล้ว จึงจะต้องส่ง พล.อ.วัลลภ ไปเป็นเลขาฯ สมช. เพื่อเคลียร์ทางให้น้องรักคนใดคนหนึ่งมาเป็นรองปลัดกลาโหม เพื่อขึ้นเป็นปลัดกลาโหม

โดยเฉพาะ พล.อ.ณัฐ ที่มีข่าวสะพัดว่าจะไปอยู่ บก.กองทัพไทย เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคตก็ตาม

แต่ก็อาจขยับขึ้นรองปลัดกลาโหม เพื่อเตรียมเป็นปลัดกลาโหมในปลายปีหน้าเลยก็เป็นได้ แม้ว่าจะเพิ่งเป็นพลเอกได้ 6 เดือน แล้วขึ้นครองอัตราจอมพลเลยก็ตาม

สูตรจัดวางอำนาจแบบเสือข้ามห้วย จึงถูกจับตามองอีกครั้ง โดยเฉพาะความพยายามในการส่ง พล.อ.เทพพงศ์ ข้ามห้วยมาเสือป่าทัพไทย แล้วขอให้ พล.อ.ธารไชยยันต์ ไปเป็นปลัดกลาโหมแทน

แต่ทว่า ข่าวนี้ก็ถูกสยบโดยบิ๊กปุย พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด คนจัดโผที่ระบุว่า “เป็นแค่ข่าวลือ”

อีกทั้งในเวลานี้บิ๊กปุยเปรยว่ามีกระแสข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายเกิดขึ้นหลายกระแส

แต่ที่ทำให้นายทหารในกองทัพบกหวั่นไหวไม่น้อยก็คือ การจัดโผใหม่ การเขย่าโผใหม่อีกครั้ง หลังจากที่บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้หารือกับ ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพแล้ว

แต่ทว่า มี “สัญญาณ” บางอย่าง ที่ทำให้ต้องมีการเขย่าเก้าอี้ใหม่อีกครั้ง

โดยเฉพาะเก้าอี้ ผบ.พล.1 รอ. จากเดิมที่บิ๊กบี้ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ จะขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อที่จะจ่อคิวโตเป็นความหวังของ “วงศ์เทวัญ” เพราะมีอายุราชการถึงปี 2566

พลโท กู้เกียรติ ศรีนาคา พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ พลตรีณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ พลเรือเอก ลือชับ รุดดิษฐ์ พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ

แต่ด้วยภารกิจของหน่วย ทำให้ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ อาจต้องนั่งเป็น ผบ.พล.1 รอ. ต่อไปก่อน นั่นหมายถึง พล.ต.ณรงค์พันธุ์ ก็จะเติบโตช้าไปอีก 1 ปี

งานนี้เลยทำให้เกิดความหวั่นไหวกันในกองทัพภาคที่ 1 ที่แม้เวลานี้บิ๊กตู่ หรือตู่เล็ก พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 จะเป็นเต็งหนึ่งแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ก็ตาม

แถมได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตร ที่เลิฟ ที่ต้องการคืนความชอบธรรมจากที่เคยพลาดเก้าอี้ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แถมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ไม่ขัดใจ พี่ใหญ่

แต่ทว่าก็เกิดความไม่แน่นอนขึ้นมา จนทำให้ชื่อ 2 เพื่อนเกลอ ตท.22 ทั้งบิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี และบิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กลับมาถูกจับตามองอีกครั้ง

โดยเฉพาะ พล.ต.ธรรมนูญ น้องรักของนายกฯ บิ๊กตู่ และบิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี และอดีต ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาคที่ 1

ที่มีรายงานว่า พล.อ.ธีรชัย จะช่วยพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายทหารก่อนส่งให้ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอีกด้วย

คาดกันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่แม้จะถึงมือ พล.อ.ประวิตร แล้ว และจ่อจะส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ภายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้นั้น ก็จะยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก

พลเรือเอกณะ อารีนิจ กับ พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ พลเรือเอก ลือชับ รุดดิษฐ์

เพราะในการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายทหารในยุคนี้ มีปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ มากขึ้น

แม้แต่โผ ทร. ที่บิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. เสนอชื่อบิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผช.ผบ.ทร. เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ ส่วนบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ขยับเป็น รอง ผบ.ทร. เพื่อจ่อคิวเป็น ผบ.ทร. ในปีต่อไปแล้วก็ตาม ก็ยังหวั่นเกรงจะมีแรงเขย่าในโค้งสุดท้าย

จนทำให้มีรายงานข่าวว่า พล.ร.อ.ณะ ต้องมีการหารือกับ พล.อ.ธีรชัย ประกอบการพิจารณาด้วย

จนทำให้ พล.ร.อ.ณะ ยืนกรานเรื่อง “ระบบคุณธรรม” ขณะที่ พล.ร.อ.นริส ก็ดูเหมือนจะได้รับสัญญาณบางอย่าง ที่ทำให้มีความมั่นใจ แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้สำหรับการเขย่าขวดเขย่าโผกันใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ

ด้วยการเขย่าโผกันใหม่อีกครั้งนี่เอง ที่ทำให้นายทหารหลายคนใน ทบ. จากที่ถูกมองว่าจ่อจะเข้าไลน์ เพื่อที่จะขยับขึ้นในอนาคตอันใกล้ ก็จำต้องมีการเปลี่ยนแปลง

จาก พล.ต.ณรงค์พันธุ์ ที่จะกลายเป็นความหวังของวงศ์เทวัญ ในการลุ้นขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. ในอนาคต เพราะมีอายุราชการถึงปี 2566

แต่หากไม่ขยับขึ้นรองแม่ทัพภาค 1 ในโผนี้ ก็จะทำให้นายทหารเสือราชินี บิ๊กต่อ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.พล.ร.2 รอ. แห่ง ตท.21 น้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาถูกจับตามองอีกครั้ง

รวมถึงหน่วยคุมกำลังสำคัญของ ทบ. และ คสช. ที่มีบทบาทอย่างมาก อย่างกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม. 2 รอ.) นั้น ก็ต้องมีการขยับใหม่

จากเดิมที่มีการคาดกันว่าบิ๊กแก้ว พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม. 2 รอ. จะกลับถิ่นกรมยุทธการทหารบก ด้วยการขึ้นเป็นพลโท เจ้ากรมยุทธการทหารบก แต่ก็ดูเหมือนว่าอาจต้องตกอยู่ในสถานภาพเดียวกับ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ ที่จะต้องรับหน้าที่สำคัญนี้ต่อไปก่อน

เพราะในเวลานี้ ทั้ง พล.1 รอ. พล.ร.2 รอ. และ พล.ม.2 รอ. ได้ชื่อว่าเป็นขุมกำลังสำคัญของ ทบ. แต่ทว่าก็มีภารกิจสำคัญในฐานะทหารรักษาพระองค์ด้วย

อาจกล่าวได้ว่า ตอนนี้กองทัพเองก็อยู่ระหว่างการต้องปรับหน่วย ทั้งการปรับโครงสร้างหน่วยและกำลังพล รวมทั้งภารกิจต่างๆ ใหม่ ในยุคเปลี่ยนผ่านด้วยนั่นเอง