โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 273 นายพล บ่อนโควิด-รีดส่วยลูกน้องเด้งเข้ากรุ จัดทัพนักสืบมือฉมังแก้อาชญากรรม/โล่เงิน

โล่เงิน

 

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 273 นายพล

บ่อนโควิด-รีดส่วยลูกน้องเด้งเข้ากรุ

จัดทัพนักสืบมือฉมังแก้อาชญากรรม

 

สิ้นสุดลงแล้วกับวาระการแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร. ถึง ผบ. วาระประจำปี 2564

หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

มีรายละเอียดว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งจำนวน 273 ราย โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ปีนี้ถือว่า “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้จัดขุมกำลังด้วยตนเองอย่างเต็มไม้เต็มมือเป็นปีแรก

ตรวจรายชื่อไม่พลิกโผ

 

พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.40 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร. ด้าน พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.37 ได้แรงหนุนโค้งสุดท้ายขยับเป็นรอง ผบ.ตร.

ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. สมหวังตามกันมาติดๆ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รอง จตช. (สบ8) ตร. นรต.40 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ9) ตร. นรต.47 สไลด์นั่งผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภ.8 นรต.41 อดีตหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.สตส. นรต.37 อดีตสำนักงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 นรต.42 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นรต.39 สายตรงบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 นรต.41 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 เพื่อนร่วมรุ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรอง จตช. (สบ9), พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. นรต.38 เป็นรอง จตช. (สบ9)

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. นรต.40 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.

 

สําหรับตำแหน่งสำคัญคอยขับเคลื่อนนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อาทิ พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ สัจจพันธุ์ ผบช.สยศ.ตร. นรต.39 โยกเป็น ผบช.สตม., พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตช. (สบ8) นรต.38 และนักเรียนเตรียมทหาร 22 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เป็น ผบช.ภ.1

พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. นรต.50 นายพลหนุ่มที่ยังเหลืออายุราชการอีก 12 ปี เป็น ผบช.น., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. นรต.50 เลื่อนเป็น ผบช.ก.,พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 นรต.41 เป็น ผบช.ปส. เป็นต้น

ส่วนเก้าอี้ ผบก. ที่น่าสนใจ พุ่งเป้าไปที่ผู้การสืบสวนภูธร 1-9 และนครบาล “บิ๊กปั๊ด” จัดทัพนักสืบมือฉมัง มาเป็นมือเป็นไม้ แก้ปัญหาอาชญากรรมทั่วประเทศ

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 นรต.46 กลับถิ่น เป็น ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.ตท. นรต.46 เป็น ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 นรต.47 เป็น ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 เป็น ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รอง ผบก.สส.ภ.7 นรต.43 เป็น ผบก.สส.ภ.7

ส่วน พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 นรต.44, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 นรต.46, พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6 นรต.47, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นรต.38

พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 นรต.39 ยังได้รับความไว้วางใจให้อยู่ที่เดิม

 

20 กรกฎาคม 2564 ก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลสีกากีไม่ถึงเดือน ผบ.ตร.เคยลั่นวาจาหลังพบบ่อนหรูกลางภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ระบุว่า “แนวโน้มทางการปกครองผู้ที่ถูกสั่งย้ายจากปมบ่อนการพนัน คงไม่ได้กลับไปอยู่ที่เดิม พร้อมสั่งการไปยังทุกพื้นที่กรณีมีการจับกุมบ่อนการพนัน ใครไม่จับและมีเจตนาปล่อยปละละเลย รู้เห็นเป็นใจต้องโดนลงโทษ”

ประกาศิตจาก ผบ.ตร. ส่งผลถึงตำแหน่งสำคัญๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ฝ่ากฎเหล็กเรื่องปราบปรามอบายมุข ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ถูกปรับย้ายออกนอกพื้นที่

อาทิ พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง นรต.37 ย้ายเป็น ผบก.สนับสนุนทางเทคโนโลยี, พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผบก.ภ.จว.ตราด เป็น ผบก.ศูนย์ฝึกอบรม ตำรวจภูธรภาค 2, พล.ต.ต.ประกาศ พงษ์พานิช ผบก.สส.ภ.2 นรต.38 เป็น ผบก.กองตรวจราชการ 5 ส่วน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี นรต.37 ได้แรงหนุนอาวุโส 33% เลื่อนเป็นรอง ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี

โดยส่ง พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ศฝร.ภ.2 ไปเป็น ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง นรต.46 เป็น ผบก.ภ.จว.ระยอง, พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ประจำ บช.ส. เป็น ผบก.ภ.จว.ตราด, พ.ต.อ.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นรต.36 เป็น ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ลงไปแก้ไขปัญหาฟื้นภาพลักษณ์พื้นที่ภาคตะวันออก

ส่วน พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นรต.39 แม้ก่อนหน้านี้ถูกเด้งเซ่นปมกองปราบฯ จับบ่อนโรงแรมหรูริมทะเล หมู่ที่ 1 หาดสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต แต่ได้สิทธิอาวุโส 33% เลื่อนเป็นรองจเรตำรวจ (สบ7)

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ชวลิต สุขสุวรรณ์ ผบก.ตชด.ภ.4 นรต.41 ซึ่งถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จกรณีถูกกล่าวหารีดส่วยลูกน้องรายเดือน โยกเป็น ผบก.กมค.ภ.8

และ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 นรต.38 โดนพิษบ่อนแจ้งวัฒนะช่วงโควิดระลอก 2 เป็น ผบก.ศูนย์ฝึกอบรม บช.น.

 

ย้อนกลับไป 2 ตุลาคม 2563 “บิ๊กปั๊ด” ให้นโยบายกับรอง ผบ.ตร.-ผบก. ความตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวไม่ใช่ ผบ.ตร. เป็นแค่ตำรวจคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ ผบ.ตร. และมีเวลาสั้นๆ แค่ 2 ปี ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน อยากให้พวกเรามีความสุขประสบความสำเร็จกับการทำงานมากกว่าได้รับตำแหน่งแห่งที่ ซึ่งมันไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต ก็หวังว่าจะมาช่วยกันทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้น และช่วยถ่ายทอดดีเอ็นเอที่ดี ที่ถูกต้อง ให้ตำรวจรุ่นหลัง

อย่างไรก็ตาม ทัพสีกากีภายใต้การคุมบังเหียนของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อีก 1 ปีข้างหน้า จะช่วยขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงองค์กรได้อย่างที่หวังหรือไม่

คงต้องให้ผลงานหลังจากนี้เป็นเครื่องพิสูจน์