‘เฟิด สล็อตแมชชีน’ ฝากถึงนายกฯ เวลาท่านคิด-พูดอะไร ช่วยทำตรงกันข้ามได้ไหม?/เปลี่ยนผ่าน

เปลี่ยนผ่าน

บุญญฤทธิ์ บัวขำ

 

‘เฟิด สล็อตแมชชีน’ ฝากถึงนายกฯ

เวลาท่านคิด-พูดอะไร

ช่วยทำตรงกันข้ามได้ไหม?

 

ท่ามกลางความขัดแย้งของการเมือง รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่นับวันยิ่งทวีความหนักหนาสาหัสขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงภาพรวมการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล จึงไม่แปลกนักที่จะเกิดปรากฏการณ์ “คอลเอาต์” ของประชาชนรวมถึงกลุ่มคนบันเทิง เพื่อเรียกร้องให้รัฐปรับปรุงและเร่งเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ

หนึ่งในคนบันเทิงที่ออกมาคอลเอาต์ คือ “คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์” หรือ “เฟิด” นักร้องนำวง “สล็อตแมชชีน” ที่แม้ว่าก่อนหน้านี้ เจ้าตัวจะเคยออกมาแสดงความเห็นเรื่องบ้านเมืองผ่านช่องทางทวิตเตอร์และโซเชียลมีเดียอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ออกมาเรียกร้องอย่างเต็มตัว

เฟิดเล่าว่า ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ที่ทำกับที่บ้านได้รับผลกระทบมากๆ เพราะเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อตอนโควิดระบาดระลอกแรก ส่วนงานแสดงของวง “สล็อตแมชชีน” ก็ไม่ได้มีคิวขึ้นโชว์อีกเลยตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

“งานอย่างปีที่แล้วเนี่ย กลับมาเริ่มต้นทำงานประมาณช่วงสั้นๆ เอง ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น แล้วก็จุดที่สำคัญที่จำแม่นเลยก็คืองานบิ๊กเมาน์เท่น ที่คิวของเราเนี่ย 5 ทุ่มวันอาทิตย์ แต่ว่ายุติงานตอน 4 ทุ่ม แล้วก็หลังจากนั้นมาก็คือไม่มีงานแสดงอีกเลย”

เมื่อสถานการณ์ความเป็นอยู่ของเพื่อนร่วมอาชีพและตัวเองเริ่มไม่สู้ดี เพราะได้รับผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์แบบไร้มาตรการเยียวยารองรับ

นี่จึงเป็นแรงผลักให้เฟิดต้องออกมาร่วมแสดงจุดยืนกับสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย ในการยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนกรกฎาคม เพื่อหารือและยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐให้ยอมผ่อนปรนหรือออกมาตรการเยียวยารองรับคนกลางคืน

“ท่าน (นายกฯ) ใช้วิธีเดิมกับสถานการณ์ที่มันเปลี่ยนไปจากเดิม มันคือวิธีเดียวกับที่ไอน์สไตน์เคยพูด ซึ่งผมชอบมาก คือมันมีคนบ้าเท่านั้นที่จะหวังผลลัพธ์ใหม่กับวิธีการเดิม

“ผมมีคำพูดง่ายๆ ว่า ตอนเสียภาษีเนี่ยก็คือ (คนกลางคืน) มีตัวตน แต่ตอนที่เยียวยามันเหมือนกับสัมภเวสี เราจะอยู่สถานะไหน? อาชีพอิสระเหรอ? บางทีก็ต้องไปกรอกว่าเราเป็นเกษตรกรหรืออะไรอย่างนี้ แล้วสิ่งที่ทุกคนเรียกร้อง ไม่ได้เรียกร้องว่าให้ออกมา (เปิด) 24 ชั่วโมงหรือเหมือนเดิมตามปกติ

“ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เป็นการเรียกร้อง มันเป็นการหารือโดยระบอบประชาธิปไตยที่มันสมควรจะทำได้”

แม้เฟิดจะเห็นด้วยกับหลายๆ คนที่มองว่าหากปล่อยให้เปิดธุรกิจกลางคืน ก็อาจส่งผลให้การแพร่ระบาดของโควิดเลวร้ายมากขึ้น แต่เขาเห็นว่าภาครัฐควรหาช่องทางเพื่อให้คนที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ หรือหากจะสั่งปิดสถานบันเทิงก็ต้องหามาตรการเยียวยารองรับ เพราะทุกคนล้วนมีภาระทั้งนั้น

หากถูกถามว่าทำไมคนกลางคืนไม่ยอมดิ้นรนหาทางอยู่รอด เฟิดตอบว่าทุกคนล้วนหาทางดิ้นรนมาแล้วทั้งนั้น และใช่ว่าทุกคนจะสามารถเริ่มต้นทำอาชีพใหม่ได้สำเร็จทันที เพราะอย่างน้อยก็ต้องอย่าลืมว่าอาชีพหลักและงานที่ชำนาญที่สุดของพวกเขาคือการเล่นดนตรี

“ในช่วงของปีแรก รู้สึกว่ายังพอที่จะช่วยเหลือกันเองได้ มีการให้หยิบยืมเงินบ้าง ตอนนี้มันมีคนขายมากกว่าคนซื้อ มีช่างฝ่ายเทคนิคในทีมคนหนึ่ง ตอนนี้ปรับตัวมาทำแกร็บ แล้วก็ขายมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปคันหนึ่ง แล้วแอพพลิเคชั่นที่ (รัฐบาล) ออกมาต่างๆ มันไม่ได้ตอบโจทย์คนแบบพวกเราด้วย

“ผมพูดแทนได้เลยว่าเขาไม่ได้ต้องการตรงนี้ แล้วก็ไม่ต้องการที่จะไปแย่งโควต้า (เงินช่วยเหลือ) สำหรับคนที่ลำบากกว่าหรือว่าตรงโจทย์กับแอพพลิเคชั่นที่ทางฝ่ายบริหารออกมา”

 

แม้เฟิดจะยืนยันว่าเขาไม่ได้ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง แต่พยายามแสดงออกเพื่อเป็นปากเสียงให้แก่คนที่ประกอบอาชีพกลางคืนและคนที่ลำบากจากการบริหารงานของรัฐบาล

ทว่า หากใครติดตามโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ ของนักร้องนำวง “สล็อตแมชชีน” ก็จะเห็นว่าเขายืนอยู่ข้างหลักการประชาธิปไตยอย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะสนับสนุนกลุ่มประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว ประณามเหตุการณ์สลายม็อบด้วยความรุนแรง แถมยังเคยออกข้อเรียกร้องเร่งด่วน 2 ข้อ (เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564) ให้รัฐบาล 1.แถลงลาออกและขอโทษประชาชน 2.แถลงแนวทางการชดเชยความเสียหายตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา พร้อมย้ำต่อว่า “ทำให้ได้ก่อน 2 ข้อนี้!!!”

เฟิดอธิบายประเด็นนี้ผ่านการสัมภาษณ์ว่า “อยากให้ท่าน (นายกฯ) แสดงสปิริตมากกว่านี้ ผมจะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรจะเสีย แล้วก็ทางออกมันมีอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้ายิ่งช้า ท่านก็ยิ่งผิดเยอะ ถ้ายิ่งช้าสถานการณ์คนตายก็ยิ่งเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตายจากโควิด-19 หรือจะตายจากพิษเศรษฐกิจ ดังนั้น ตายทั้งเป็นคือสิ่งที่ทุกคนประสบอยู่

“ท่านนายกฯ เองก็ถูกตำหนิ ถูกต่อว่าจากฝั่งประชาชนเยอะ ซึ่งผมดูข่าวติดตาม หลังๆ ท่านก็มีเสียงสั่นนะ แม้ว่าจะใส่หน้ากากอนามัยอยู่ก็ตาม ก็มีท้อ มีเหนื่อย มีน้อยใจ ซึ่งจริงๆ แล้วทางออกที่ง่ายก็คือการยอมรับความจริง แล้วก็รับฟังปัญหาจากทุกๆ คน

“ไม่ว่าท่านจะคิดอะไร จะพูดอะไร หรือท่านจะทำอะไร ทำตรงข้ามได้ไหม? มันอาจจะฟังตลก หรือมันอาจจะฟังแล้วแบบกล่าวหาท่านจนเกินไป แต่ว่ามันได้พิสูจน์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 2 ปี โควิด-19 หรือจะเป็น 7 ปี บริหารมา คือต้องฟัง (ประชาชน) ต้องฟังบ้างอะ”

 

ท้ายสุด ศิลปินดังย้ำว่า ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่าวิกฤตโควิด-19 นั้นเป็นกันทั่วโลก เพราะฉะนั้น ในเมื่อทั่วโลกต่างมีประสบการณ์เรื่องนี้ มันจึงมีตัวอย่างเยอะแยะมากมาย ว่าทั้งโลกเขาใช้วิธีการไหนหรือจัดการอย่างไรกับสถานการณ์โรคระบาด และเขาสื่อสารอะไรกับประชาชน

“จริงๆ มันมีตัวอย่างหมด ทั้งถูกและผิด หากคิดไม่ออกจริงๆ ช่วยดูประเทศอื่นที่เขาทำถูกและผิดมาแล้วได้หรือไม่ และนำมาปรับใช้ในฐานะผู้บังคับบัญชาหรือจิตวิญญาณของทหารคนหนึ่งก็ได้ ท่านต้องใช้จิตวิญญาณของทหารในการตัดสินใจให้เด็ดขาด

“อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย เพราะว่าไม่ว่าจะเสียน้อยหรือเสียมาก มันคือชีวิตความเป็นจริง มันคือชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ผมคิดว่าทางออกนอกจากลาออก ก็มีการยุบสภาอะไรอย่างนี้”

“เฟิด สล็อตแมชชีน” เสนอทางเลือกไปถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”