ยานยนต์ สุดสัปดาห์ : ‘ฮอนด้า ซีวิค’ ใหม่ เจน 11 อัดแน่นระบบไฮเทคกว่าเดิม

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต / [email protected]

 

 

‘ฮอนด้า ซีวิค’ ใหม่ เจน 11

อัดแน่นระบบไฮเทคกว่าเดิม

 

เผยโฉมแล้ว “ฮอนด้า ซีวิค” ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 11 ที่ถือเป็นรุ่นเรือธงของค่าย เรียกว่าออกมาแต่ละเจนประสบความสำเร็จอย่างสูง

โดยเฉพาะเจนที่ 10 ออกแบบได้สวยงามตามท้องเรื่องจนกวาดยอดขายเป็นอันดับ 1 ในเซ็กเมนต์

แม้โดยยอดขายจริงๆ แล้วยังไปได้เรื่อยๆ แต่อายุอานามถือว่าไม่น้อย เมื่อเวลาอันเหมาะสมจึงส่งรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อความสำเร็จ

ดีไซน์ภายนอกออกแบบภายใต้แนวคิด “Exhilarating Exterior” จัดวางโครงสร้างสไตล์ Low & Wide มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ตัวถังกว้างและยาวขึ้นกว่าเดิม

ใช้เทคโนโลยี Roof Braze เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคา ช่วยให้ตัวรถมีเส้นสายที่สวยงามและเฉียบคม

กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟตัดหมอกคู่หน้า

ไฟท้าย LED แบบ C line ออกแบบด้วยเทคนิค Fine Cut ควบคุมการกระจายแสงสว่างอย่างสมํ่าเสมอ

เสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียแบบคู่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่

ช่องเสียบกุญแจที่ย้ายไปไว้ด้านในที่มือจับประตูรถ สอดคล้องกับการทำงานของระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ

ฝากระโปรงท้ายที่สามารถเปิดได้ด้วยเพียงจังหวะเดียว

ก้านปัดน้ำฝนดีไซน์ใหม่ มีช่องฉีดน้ำอยู่ที่ก้านปัดน้ำฝน

ส่วนรุ่นแต่งพิเศษ “RS” เด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS

ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED

กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย

ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Fine Morning” เน้นสีดำตัดกับด้ายแดงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ จัดวางเลย์เอาต์และฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างคล่องตัว

ส่วนบางรุ่นย่อยใช้ภายในสีเบจ

พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri

ติดตั้ง “ฮอนด้า คอนเนกต์” (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟน มี 8 ฟังก์ชั่นการใช้งานหลัก

ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ได้มีการยกระดับการแสดงผลเพิ่มความชัดเจนของภาพและสีให้คมชัดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อย เช่น ปุ่มยกเลิกเส้นทาง และปุ่มปิดเสียงแนะนำ ที่สามารถสั่งการได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัส

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา

เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold

เบาะที่นั่งผู้ขับขี่ปรับปรุงใหม่ โครงสร้างแผ่นเรซิ่นรองรับสรีระแบบเต็มพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงหลังส่วนบน กระดูกเชิงกราน จนถึงต้นขา

ทุกรุ่นย่อยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น

ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที

ระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E85

โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด

ECON Mode – โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น

Normal Mode – โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป

Sport Mode – โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่การทำงานของเครื่องยนต์ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น

มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda SENSING” ใหม่ ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า มีฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ อาทิ

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ช่วยเตือนให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย แจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัย

หากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหต

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ กล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม การขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง

ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และช่วยหน่วง เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ

ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยใช้กล้องจับภาพ และแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 9 นิ้ว

กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ฯลฯ

ระบบไฮเทคต่างๆ ยังมีอีกเยอะครับ จาระไนกันไม่หวาดไม่ไหว

นอกจากนี้ มีชุดแต่งพิเศษหลายแพ็กเกจของ “Modulo” ให้เลือกซื้อพ่วงไปด้วย

“ฮอนด้า ซีวิค” ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย EL, EL+ และ RS

สนนราคาขออนุญาตจริงๆ ครับ เพราะผมเขียนต้นฉบับก่อนวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาจึงไม่ได้ประกาศออกมา แต่ให้เดาน่าจะสูงกว่ารุ่นก่อนไม่มากนัก โดยรุ่นท็อป RS น่าจะล้านต้นๆ