นับถอยหลัง ‘บิ๊กตู่’ นับ 1 ‘บิ๊กป้อม’ ลั่นไม่คิดเป็นนายกฯ แผนสำรอง 3 ป. วางทายาทกองทัพ โค้งสุดท้ายโผทหาร ทัพฟ้าแรง-ทร.ระอุ : รายงานพิเศษ

แม้สถานการณ์การเมืองจะร้อนระอุ ทั้งม็อบรายวันที่รุนแรง มีทั้งเผา และยิง รวมทั้งสงครามในโซเชียล เพื่อกดดันให้บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังนิ่ง เก็บตัวในทำเนียบรัฐบาล ประชุมผ่านระบบ VTC และเข้าถ้ำบ้านพักใน ทม.ร.1 รอ. เวิร์กฟรอมโฮม ทำงานต่อไป โดยยังไม่มีทีท่าจะลาออก

แม้จะถูกจับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะทานทนไปได้อีกนานแค่ไหน

ท่ามกลางการปล่อยกระแสข่าวลือว่า พล.อ.ประยุทธ์จะถอดใจในไม่ช้า แล้วจะลาออก เพื่อให้บิ๊กป้อม พล. อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ รักษาการ ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่

รวมถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะถอดใจยาว โบกมือลาการเมืองไปพักผ่อน ไม่ไปต่อในสมัยหน้าแล้วด้วย

แต่ พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ถอดใจ ต้องทำงานช่วยประชาชน แก้ปัญหาโควิดให้สำเร็จให้ได้

“ไม่มี ไม่เคยคิดหวังจะเป็นนายกฯ” พล.อ.ประวิตรยืนยัน

แต่ทว่า ในอนาคต ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ไม่มีใครรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอย่างไร จะไปต่อ หรือจะพอแค่นี้

“ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่า จะไปต่อไหวมั้ย” บิ๊กป้อมเปรยสั้นๆ

ท่ามกลางกระแสข่าว ก่อนหน้านี้ ที่ว่า พล.อ.ประวิตรเตรียมมองหาคนที่เหมาะสมจะมาเป็นนายกฯ คนต่อไป หาก พล.อ.ประยุทธ์ถอดใจ ถอยไปอยู่เบื้องหลัง

แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ รมว.กลาโหม ต้องจัดวางขุมกำลัง ฐานอำนาจให้มั่นคง รองรับอนาคต หากตนเองไม่อยู่

แต่ถึงอย่างไร พี่น้อง 3 ป.ก็ยังไม่ไปไหน เพราะรู้ดีว่า ถ้าจะถอย พล.อ.ประวิตรจะถอยทีหลัง เพราะต้องจัดการพรรคพลังประชารัฐให้เข้มแข็งก่อน แล้วค่อยไปเป็นเงาอยู่เบื้องหลัง ยังไม่อาจปล่อยมือ

และต้องมั่นใจในทายาทที่เลือก โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่จะดูแลพรรค และคุมเกมการเมืองแทน

จึงทำให้โผโยกย้ายทหารครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกจับตามองว่าจะจัดวางตัวขุนพลแบบไหน ยึดตาม ผบ เหล่าทัพเสนอ หรือตามความเหมาะสมที่ตนเองเห็น

พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์

โดยเฉพาะใน ทบ. ที่โผนี้ แม่ทัพต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 น้องรัก ทหารเสือฯ ของนายกฯ ที่จะขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทบ.คอแดง ต่อจากบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่จะเกษียณกันยายน 2566

ตอนนี้เข้าโค้งสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด โผแต่งตั้งโยกย้ายทหารแล้ว เพราะโผถูกส่งจากมือผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงมือบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 13 สิงหาคม หลังจากที่ขอเลื่อนมาจาก 9 สิงหาคม 2564 เพราะแต่ละตำแหน่งยังไม่ลงตัว

โดยก่อนหน้านั้น พล.อ.เฉลิมพลได้พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ในวันประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร และ ผบ.เหล่าทัพ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อบ่าย 11 สิงหาคม อีกด้วย

ในส่วนของทัพบกนั้น บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ต้องรอการคัดเลือกนายทหารที่จะย้ายโอนไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยในพระองค์ ช่วง 9-13 สิงหาคม ก่อน เพราะมีระดับผู้บัญชาการกองพลอยู่ในข่ายที่อาจได้รับการคัดเลือกด้วย ก็จะส่งผลต่อตำแหน่งใน ทบ. จึงขอเลื่อนส่ง

แม้ว่าตำแหน่งหลักต่างๆ จะลงตัวแล้ว แต่ก็ต้องรอตำแหน่งสำคัญในกองทัพภาคที่ 1 และที่เกี่ยวข้องกับทหารคอแดง และคอเขียว ระดับ ผบ.พล. ทั้ง ผบ.เนี้ยว พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน ผบ.พล.1 รอ. และ ผบ.ปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.พล.ร.11 ที่ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ทั้งคู่ โดยเฉพาะ พล.ต.ทรงพลที่จ่อเข้าไลน์สู่แม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต

รวมทั้ง ผบ.ใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.พล.ร.2 รอ. พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 พล.ต.อุดม แก้วมหา ผบ.พล.ม.2 รอ. และนายทหารชั้นนายพล พันเอกพิเศษ อีกหลายคน จึงต้องรอหน่วย “พระราม 5 ข.” คัดเลือกและประกาศผลก่อน จึงจะจัดโผได้ลงตัว

เพราะหาก พล.ต.ทรงพล และ พล.ต.พนา ถูกคัดเลือก ก็ต้องหาทั้งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ใหม่ และ ผบ.พล.1 รอ.คนใหม่

โดยมี ผบ.ตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.มทบ.11 ที่ถูกคาดหมายว่า จะมาเป็น ผบ.พล.1 รอ . หรือ ผบ.พล.ร.11 ไปคุมกองพลสไตรเกอร์

หรือรองไก่ พ.อ.วรยศ เหลืองสุวรรณ รอง ผบ.พล.1 รอ. ที่ลุ้นขึ้น ผบ.พล.1 รอ. และรองกอล์ฟ พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รอง ผบ.พล.ร.11 ลุ้นขึ้น ผบ.พล.ร.11 แต่หากพลาด อาจไปเป็นพลตรี ผบ.มทบ.11

ดังนั้น กว่าที่โผ ทบ.จะลงตัว ก็ต้องผ่านด่านหน่วยพระราม 5 ข.เสียก่อน

ส่วนกองทัพเรือเท่านั้นที่บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. จัดเสร็จแล้ว พร้อมส่ง แต่ก็ต้องรอ ผบ.เหล่าทัพอื่นด้วย จะได้ส่งพร้อมกัน

เพราะที่ดูจะหนักหนาที่สุดคือ กองทัพอากาศ เพราะบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ต้องแก้ไขบางตำแหน่ง

หลังจากมีข่าวว่า พล.อ.เฉลิมพลได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคน

จึงเป็นที่มาของกระแสข่าวการส่งบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ตท.22) รองเสธ.ทหาร กลับมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.

หลังจากที่โยกย้ายตุลาคม 2563 ถูก พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.ในเวลานั้น ย้ายออกไป บก.ทัพไทย

นั่นหมายถึง การมาเข้าไลน์จ่อชิง ผบ.ทอ.ในอนาคต กับเสธ.หนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสธ.ทอ. รุ่นน้อง ตท.23 ที่โผนี้ คาดว่าจะถูกขยับเป็น ผช.ผบ.ทอ.

แถมยังมีทายาทที่ พล.อ.อ.แอร์บูลวางเอาไว้ คือ เจ้ากรมเบิร์ท พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม (ตท.22) เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทอ. นักบิน C130 เหมิอนกัน ที่โผนี้จะขึ้น พล.อ.อ. ตำแหน่งเสธ.ทอ. คุมงานสำคัญ หัวใจของ ทอ. ที่มีอายุราชการถึงปี 2567 จากเดิมที่จะขึ้น ผช.ผบ.ทอ. แต่คาดว่าต้องมาคุมโครงการสำคัญต่างๆ จึงต้องมาเป็นเสธ.ทอ.

โดยทั้ง พล.อ.อ.ธนศักดิ์ นักบิน OV-10 และ พล.อ.ท.อนันตชัย นักบิน C130 ตท.22 และ พล.อ.อ.ชานนท์ นักบิน F16 มีอายุราชการถึง 2567 เหมือนกันทั้ง 3 คน

พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา

พล.อ.อ.ชานนท์เองนั้น ถูกมองว่าเป็นเด็กปั้นของ พล.อ.อ.มานัต จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกของ พล.อ.อ.แอร์บูลในโผนี้

เพราะแม้จะมี “พลัง” ภายนอก ทอ. และอดีต ผบ.ทอ.สนับสนุนให้ขึ้น ผบ.ทอ.ก็ตาม แต่ พล.อ.อ.แอร์บูลก็ไม่ตอบรับ

พล.อ.อ.ชานนท์จึงกลายเป็นเหยื่อของการวัดพลังกันของ พล.อ.อ.แอร์บูล กับ พล.อ.อ.มานัต ที่ทวีความขัดแย้งกันหนักขึ้น ลามไปถึงการเมืองที่ดึงนักการเมืองฝ่ายค้านมาร่วมวงตรวจสอบ ทอ.ด้วย ในเรื่องการปรับเปลี่ยนสัญญาโครงการต่างๆ และเดินเกมในหน้าสื่อด้วย แม้แต่เล่นกันถึงขั้นฟ้อง ป.ป.ช.

จนเรียกได้ว่า ความขัดแย้งรุนแรงถึงขีดสุด จนเกิดกระแสข่าวลือว่า จะเด้ง พล.อ.อ.ชานนท์ไปเป็นรองปลัดกลาโหม แทนบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ที่จะเกษียณ ด้วยความช้ำใจที่พลาดเก้าอี้ ผบ.ทอ.เมื่อโผปลายปีที่แล้ว

แต่เพราะความสามารถ การทำงาน รวมทั้งเส้นทางรับราชการที่เติบโตมาตามไลน์ แม้จะไม่มี พล.อ.อ.มานัตผลักดันก็ตาม และพลังภายนอกทำให้ พล.อ.อ.ชานนท์ยังคงอยู่ใน 5 เสืออากาศแล้ว ให้ไปลุ้นแข่งกันปีหน้า

ที่ต้องรอดูคือ พล.อ.อ.แอร์บูลจะเสนอชื่อใครเป็น ผบ.ทอ.แทน ระหว่างบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. เพื่อนรัก ตท.21 กับบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. เพื่อนร่วมรุ่นอีกคน ที่อาวุโสสูงสุด เพราะครองอัตราพลอากาศเอกพิเศษ

เพราะหากคนใดคนหนึ่งพลาด ก็จะถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหม แบบไม่ต้องกระทบตำแหน่งอื่น

แต่สาเหตุที่จู่ๆ ชื่อของ พล.อ.อ.นภาเดชมาแรงแซงโค้ง เพราะเป็นแคนดิเดตที่อาวุโสที่สุด และมีการจับจัองไปที่สัมพันธ์ร้าวของ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ กับ พล.อ.อ.อนันตชัย ที่มีมายาวนาน

คนหนึ่งเพื่อนรัก อีกคนน้องรัก พล.อ.อ.แอร์บูลจึงทำใจลำบากที่จะตัดสินใจ

กล่าวกันว่า พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์นั้นเป็นนายทหารที่เข้มงวด เข้าขั้นดุ และเด็ดขาด จึงอาจทำให้ไม่เป็นที่เลิฟของลูกน้องเท่าใดนัก ทั้งๆ ที่เป็นคุณสมบัติหนึ่งของผู้นำ ก็ตาม

แต่หากดูที่ความสนิทสนม พล.อ.อ.แอร์บูลสนิทสนม ซี้ปึ้กกับ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์มากกว่า และถือเป็นเพื่อนสนิทที่สุด และช่วยงานมาตลอด เมื่อมาเป็น ผบ.ทอ.และต้องกรำศึกการเมืองภายใน ทอ.

อีกทั้งคอนเน็กชั่นของ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์เหนียวแน่นมากกว่า ทั้งกับ พล.อ.ประวิตร และโดยเฉพาะบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ขี่จักรยานออกกำลังกายด้วยกันตลอด

แม้แต่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่บิ๊กตั้วเป็นเครือญาติฝ่ายอดีตภรรยา

บรรดาลูกทัพฟ้าจึงเชื่อว่า อย่างไรเสีย พล.อ.อ.แอร์บูลก็ต้องเสนอชื่อเพื่อนตั้วเป็น ผบ.ทอ. และน่าจะได้แรงสนับสนุนจากพี่น้อง 2 ป. ป้อม-ป๊อกด้วย

เพราะในแง่ความรู้ความสามารถ แคนดิเดต แต่ละคนไม่ต่างกัน ทั้งการเป็นนักบิน โดยเฉพาะ F16 เป็นผู้ฝูง ผู้การกองบิน และ ผช.ทูตทหารในต่างประเทศ

บิ๊กตั้วโตจากกองบิน 1 เคยเป็นผู้การกองบิน 1 ผช.ทูตประจำลอนดอน ส่วนบิ๊กป้องโตจากกองบิน 1 แต่ไปเป็นผู้การกองบิน 23 และรอง ผช.ทูตประจำวอชิงตัน ดี.ซี. จึงต้องดูที่คอนเน็กชั่น และสมการอำนาจด้วย

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ

แต่ทว่า การเลือก ผบ.ทอ.ในครั้งนี้ มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้ชื่อของ พล.อ.อ.นภาเดช ลูกชายอดีต ผบ.ทอ.ผู้เกรียงไกร พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ที่ล่วงลับไปแล้ว ถูกพูดถึงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

“แคนดิเดตทุกคนล้วนมีความสามารถ เก่งกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ ผบ.ทอ.คนใหม่จะต้องเป็นคนที่กำลังพลในกองทัพอากาศยอมรับ” พล.อ.อ.แอร์บูลแย้มสเป๊ก

โดยมีข่าวว่า พล.อ.อ.แอร์บูลได้รายงานผู้บังคับบัญชาว่า จะเสนอชื่อแคนดิเดตคนใน ทอ. เพื่อน ตท.21 แน่นอน จึงมีแค่ พล.อ.อ.นภาเดช และ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ เท่านั้น

ที่น่าสังเกตคือ ก่อนที่ ผบ.เหล่าทัพจะส่งโผให้ ผบ.ทหารสูงสุด และมีกำหนดส่งให้กลาโหม 16 สิงหาคมนั้น บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ใช้โอกาสที่พบเจอ ผบ.เหล่าทัพ ในระหว่างรออวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตรล่วงหน้าที่บ้านป่ารอยต่อฯ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ถามไถ่เรื่องโผทหาร และชื่อ ผบ.เหล่าทัพใหม่ ที่คาดว่าจะไปรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ก่อนที่โผจะส่งถึงกลาโหม

นั่นหมายความว่า หากชื่อที่ ผบ.เหล่าทัพเสนอมาไม่ตรงกับที่ พล.อ.ประยุทธ์เล็งเอาไว้ อาจต้องมีการเจรจานอกรอบ ก่อนที่ ผบ.เหล่าทัพจะส่งโผให้กลาโหม แล้วรอนัดประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้าย หรือบอร์ด 7 เสือกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน อีกครั้ง หลัง 16 สิงหาคม

เป็นที่น่าสังเกตว่า การจัดโผโยกย้ายทหารครั้งนี้ เป็นไปท่ามกลางความไม่แน่นอน เนื่องจาก ผบ.เหล่าทัพก็ไม่มั่นใจว่า ชื่อที่เสนอขึ้นไปนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะไฟเขียวหรือไม่ เพราะมีคนที่นายกฯ เล็งเอาไว้ อาจมีการล้วงลูกเกิดขึ้น

ชื่อของ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รอง ผบ.ทหารสูงสุด และ พล.อ.อ.ชานนท์ยังคงไม่ถูกตัดทิ้ง แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม เพราะงานนี้ พล.อ.อ.แอร์บูลแข็งไม่น้อย

พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน

ขณะที่กองทัพเรือนั้น ความนิ่งเงียบของบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. ทำให้ยังคงไม่มีความชัดเจนว่า บิ๊กอุ้ยเลือกใครขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่แทน

เพราะเมื่อถูกถามเรื่องนี้ แม้แต่ผองเพื่อน ตท.20 ไม่ว่าจะใคร บิ๊กอุ้ยได้แต่หัวเราะตามสไตล์

แต่ทว่า จากการทำงานร่วมกันมาระหว่างบิ๊กอุ้ยกับเสธ.โต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสธ.ทร. ตลอดเกือบปี ในฐานะ ผบ.ทบ. และเสธ.คู่ใจ เพราะตอนบิ๊กอุ้ยเป็น ผช.ผบ.ทร. ดูแลโครงการเรือดำน้ำ ก็ทำงานกับเสธ.โต้ง ที่ตอนนั้นเป็นปลัดบัญชี ทร. และเคยอยู่สายปลัดบัญชี ทร.มาด้วยกัน และเป็นคู่ที่พบปะพูดคุยกันบ่อย แม้จะเป็นรุ่นพี่ ตท.20 กับ ตท.21 แต่ก็สนิทกันมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นบางคน

อีกทั้งบื๊กอุ้ยยังมอบหมายให้ พล.ร.อ.ธีรกุลออกงาน ออกสื่อแทน ทำภารกิจต่างๆ แทนเสมอๆ

เหล่านี้ จึงทำให้บรรดาทหารเรือเชื่อมั่นว่า บิ๊กอุ้ยจะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ธีรกุลเป็น ผบ.ทร.คนใหม่

แต่ทว่า ในโค้งสุดท้ายนี้ มีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้บิ๊กอุ้ยถูกจับตามองว่า กำลังปฏิบัติการท่ามกลางความเงียบงัน และอาจทำให้มีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น

เพราะชื่อบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.กองเรือยุทธการ รุ่นน้อง ตท.22 ก็ยังไม่ได้ถูดตัดออกไปเสียทีเดียว

ด้วยเพราะมีข่าวสะพัดใน ทร.ว่า สเป๊ก ผบ.ทร.ของบิ๊กอุ้ย คือ ผบ.ทร. 2 ปี เนื่องจากรู้ดีว่าตนเองเป็น ผบ.ทร. 1 ปี ทำอะไรไม่ได้มากก็หมดเวลาแล้ว ดังนั้น ทั้ง พล.ร.อ.ธีรกุล และ พล.ร.อ.สุทธินันท์ จึงอยู่ในสเป๊ก

แต่หากพิจารณาที่ความใกล้ชิดสนิทสนม บิ๊กอุ้ยจะสนิทกับ พล.ร.อ.ธีรกุลมากกว่า แม้อาจจะไม่ถึงขั้นมองตารู้ใจ แต่ก็ใกล้เคียง แต่บิ๊กอุ้ยกับ พล.ร.อ.สุทธินันท์นั้นอาจห่างกันด้วยระยะทาง เพราะบื๊กปูอยู่สัตหีบ ชลบุรี เป็นส่วนใหญ่

 

แม้จะมีการจับจ้องไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะช่วย พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม น้องรัก ในการเจรจากับบิ๊กอุ้ย เพื่อขอให้พิจารณาบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกลาโหม ให้กลับไปเป็น ผบ.ทร. เพื่อที่กลาโหมจะได้จัดโผได้สะดวกขึ้น ในการเปิดทางให้บิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 ของทั้งบิ๊กณัฐ บิ๊กอุ้ย บิ๊กเฒ่า ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม

แต่ก็เชื่อกันว่า บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ก็จะยืนกรานชื่อที่เสนอไป

จนมีการมองหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ สำรองไว้ ทั้งประธานคณะที่ปรึกษา ทร. อัตราพลเรือเอกพิเศษ รวมทั้งรอง ผบ.ทหารสูงสุด และจเรทหารทั่วไป

แม้ว่าในโค้งสุดท้ายนี้ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดในที่ประชุม ครม. เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ตอนที่มีข่าวว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ จะข้ามมาเป็นปลัดมหาดไทย ว่า ทำไมต้องข้ามไปข้ามมา

ก่อนที่ในที่สุด ครม.ตั้งนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการปกครอง ให้เป็นปลัดมหาดไทย ไม่มีการสลับข้ามไขว้กระทรวง

จนทำให้เกิดกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไฟเขียวให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ขึ้นปลัดกลาโหมเลย เพราะเป็นรองปลัดกลาโหมที่อาวุโสที่สุด แล้วให้ พล.อ.วรเกียรติข้ามมาเป็นแค่รองปลัดกลาโหม เพราะเป็นเพื่อน ตท.20 ด้วยกันอยู่แล้ว และเพื่อให้ทหารเรือได้เป็นปลัดกลาโหมบ้าง เพราะไม่มีทหารเรือเป็นปลัดกลาโหมมานานเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ พล.ร.อ.จิตต์ สังขดุลย์ เมื่อปี 2517

แต่ทว่า ในทางปฏิบัติแล้ว ยากที่ทหารบกจะยอมให้ทหารเรือนั่งปลัดกลาโหม แล้วจะต้องเป็นนายทหารสายตรงของพี่น้อง 3 ป. และเป็นคนที่ พล.อ.ณัฐต้องคุยได้ทุกเรื่อง เพราะปลัดกลาโหมต้องดูแลงานให้ รมว.กลาโหมอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ที่คุมงานความมั่นคงอยู่

ในโผนี้ จึงมีการดันบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ (ตท.24) หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำ รมว.กลาโหม ลูกเลิฟบิ๊กป้อม ขึ้นมาเป็นรองปลัดกลาโหม จ่อเอาไว้ก่อนด้วยแล้ว

ดังนั้น จึงอยู่ที่บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ว่าจะยืนกรานในชื่อที่เสนอขึ้นไปหรือไม่ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะยอมหรือไม่

โค้งสุดท้าย และเฮือกสุดท้าย กำลังใกล้เข้ามา…