มองบ้านมองเมือง : ซีรีส์เกาหลี / ปริญญา ตรีน้อยใส

ปริญญา ตรีน้อยใส

 

 

ซีรีส์เกาหลี

 

เมื่อนานมาแล้ว ในที่ประชุมพิจารณาผลงานวิจัยเกี่ยวกับผู้สูงอายุ มีรายงานว่า สาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ จนถึงเสียชีวิตของผู้สูงวัยนั้น จะเริ่มจากการหกล้ม ผู้วิจัยได้เสนอแนะให้หาหนทางแก้ไข ป้องกันการหกล้มของผู้สูงวัย

ผู้เขียนจึงเสนอความคิดเห็นว่า ให้ติดต่อดาราอาวุโสเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ อย่างเช่น พิสมัย วิไลศักดิ์ ให้ถือร่มสวยๆ และนิรุตติ์ ศิริจรรยา ถือไม้เท้าทุกครั้งที่เข้าฉาก เพื่อสร้างกระแสการถือร่มและไม้เท้า เครื่องช่วยพยุงผู้สูงวัยไม่ให้หกล้ม

ผู้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้วิชาการเชิงลึก แต่ไม่มีเวลาติดตามกระแส โดยเฉพาะละครทีวีหลังข่าว

นอกจากไม่เข้าใจในข้อเสนอแล้ว ยังทำหน้างงๆ ว่า ตอนนี้อยู่หน้าวิชาการ ทำไมผู้เขียนนำเสนอหน้าบันเทิง

 

เมื่อการอยู่บ้านเป็นการช่วยชาติ ผู้เขียนในฐานะพลเมืองดี จึงต้องอาศัยเน็ตฟลิกซ์ ชมซีรีส์ยาวหลายตอนแก้เบื่อ จนกลายเป็นติ่งเกาหลีไปเรียบร้อย

ซีรีส์เกาหลีนั้น แม้เนื้อหาจะมีเรื่องรักเรื่องใคร่ มีดาราหนุ่ม-สาวสวยใสตามกระแสแล้ว เนื้อเรื่องดูจะร่วมสมัย อย่างเรื่องสตาร์ตอัพ (Start up) ก็เกี่ยวกับธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ลอว์ สคูล (Law school) เกี่ยวกับการเรียนการสอนทางด้านกฎหมาย เป็นต้น

สำหรับเรื่อง มูฟ ทู เฮฟเว่น (Move to heaven) ยังเป็นเรื่องที่จะไม่เคยปรากฏในละครไทยหลังข่าว เพราะเป็นเรื่องราวของพนักงานเก็บทรัพย์สมบัติของคนตาย คล้ายๆ ว่าจะเป็นสัปเหร่อบ้านเรา แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับศพ ยุ่งเฉพาะทรัพย์สินที่ศพทิ้งไว้

แม้เรื่องจะตื่นเต้นด้วยมีคนตาย แต่ก็ไม่ใช่แนวฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนแบบฮอลลีวู้ด หากเป็นเรื่องของลูกชายออทิสติก ที่ต้องสืบทอดกิจการนี้แทนพ่อที่เสียชีวิตกะทันหัน โดยมีอาที่เพิ่งพ้นโทษมาช่วยดูแล

ตัวเอกที่เล่นเป็นหนุ่มมีปัญหาเล่นได้สมบทบาท รวมทั้งตัวละครอื่นๆ ที่ต้องเข้าฉากกับตัวเอกเวลาออกอาการ

นอกจากจะสนุกสนานกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งพล็อตเล็กในแต่ละตอน ยังมีพล็อตใหญ่ที่มาคลี่คลายในตอนสุดท้าย แบบว่า ดูไปลุ้นไปได้ทุกตอนจนจบ

แต่ที่สำคัญ เหมือนได้เรียนรู้วิธีสังเกตอาการ วิธีรับมือกับผู้ป่วยโรคนี้

 

อีกเรื่องคือ Navillera เกี่ยวกับโอปป้าเกาหลี ที่มีพ่อเป็นโค้ชทีมฟุตบอล แต่ตัวเองอยากเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ จึงต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนได้เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ระดับโลกในตอนจบ

แต่เรื่องสนุก กลับเป็นเรื่องของชายสูงวัยอายุ 70 ปี ที่หมอวินิจฉัยว่า เริ่มจะมีอาการของโรคอัลไซเมอร์ ลุงเลยอยากจะทำตามความฝันวัยเด็ก ขึ้นไปเต้นบัลเล่ต์สักครั้งก่อนตาย

เรื่องราวของนักเต้นบัลเล่ต์ของชายหนุ่มกับชายชรา จึงสนุก ดูต่อเนื่องจนจบ พร้อมกับเรียนรู้วิธีรับมือกับโรคนี้ ที่ผู้สูงวัยอย่างผู้เขียนต้องเตรียมตัวรับสภาพ ยังมีข้อแนะนำสำหรับญาติมิตรที่ต้องใส่ใจและรับมือกับผู้ป่วย

 

จึงดูเหมือนว่า ดาราเป็นผู้ให้ความรู้ ให้ข้อแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการดูแลจัดการคนพิการและคนสูงวัย

จึงดูเหมือนว่า การชมซีรีส์เกาหลี ได้ทั้งความสนุกและสาระดี มีประโยชน์

จึงดูเหมือนว่า แนวคิดของผู้เขียนที่เคยเสนอให้ใช้ดาราแก้ปัญหาผู้สูงวัยนั้น ซีรีส์เกาหลีใช้และประสบความสำเร็จ

ยังดูเหมือนว่า ซีรีส์เกาหลีแต่ละเรื่อง มหาวิทยาลัยน่าจะคัดเลือกให้ใช้เป็นบทเรียนออนไลน์ในรายวิชาต่างๆ เช่น รายวิชากฎหมายอาญา ต้องดู Law school รายวิชาการค้าระหว่างประเทศ ต้องดู Misaeng รายวิชาธุรกิจสมัยใหม่ ต้องดู Strat up รายวิชาการบริหารธุรกิจ ต้องดู Itaewon class ฯลฯ

รับรองว่า เรียนออนไลน์แบบนี้ สนุก ตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อ และเข้าใจสาระความรู้มากกว่าอาจารย์บรรยายแบบโอลด์นอร์มอล