E-DUANG : การปะทะ วัฒนธรรม ความคิด ระหว่าง คนรุ่นก่อน กับ รุ่นใหม่

ทำไมดีอีเอสจึงมีท่าทีที่ค่อนข้างแข็งกร้าว เฉียบขาด ต่อการออกมาคอลเอ๊าต์ของบรรดาดาราและนักร้อง

ไม่ว่าจะมองผ่านตัวของ”รัฐมนตรี”หรือ”พลังประชารัฐ”

เห็นได้จากความสามารถกดดันกระทั่งมี”หมายเรียก”ส่งตรงไปยัง”น้องมิลลิ”เพื่อให้ไปรายงานตัว ณ สน.นางเลิ้ง

มาตรการที่กำลังใช้กับ”น้องมิลลิ”แทบไม่มีความแตกต่างไปจากมาตรการที่รัฐบาลเคยงัดเอามาใช้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เลย

จะขาดไปบ้างก็เพียงแต่ยังไม่ขยายไปยังประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เท่านั้น

หากแต่ยังได้ขยับเข้าไปอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา  116

ทั้งๆที่หากกล่าวสำหรับ”น้องมิลลิ” เพียงอายุได้ 18 ปีและยังอยู่กรอบแห่งเยาวชนอย่างเต็มเปี่ยม

นี่จึงไม่เพียงแต่เท่ากับเป็นการเปิดบทใหม่ให้กับ”คนรุ่นใหม่”

ตรงกันข้าม กลับเป็นการหยั่งลงไปภายใต้พื้นที่อันคึกคักหนักแน่นอย่างเป็นพิเศษของแวดวงของคนบันเทิงยุคใหม่อย่างแหลมคม

 

ภายในโฉมหน้าอันแข็งกร้าวเฉียบขาดของรัฐบาลสะท้อนให้เห็นถึงความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในส่วนลึกของความคิดและความรู้สึกอย่างมิอาจปิดบังอำพรางได้

เพราะหากไม่หวาดกลัวก็คงไม่ตื่นตระหนกตกใจถึงกับคว้าเอามีดไม้ที่อยู่ใกล้มือออกมาใช้อย่างนี้

ทั้งหมดนี้เท่ากับสะท้อนให้เห็นถึง”ช่องว่าง”ที่ปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด ไม่เพียงในเรื่องของวัย หากแต่ที่แหลมคมเป็นอย่างยิ่งก็คือในเรื่องของความคิดที่ปะทะกันอย่างรุนแรง

วัฒนธรรมของคนในยุคของ”น้องมิลลิ”สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับวัฒนธรรมของคนในยุคเก่าสิ้นเชิง

คนในยุคเก่าอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทน

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้ทำให้ภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลอยเด่นอยู่บนสภาวะอันปั่นป่วน สะเปะสะปะ กระทั่งมีคนตายกลางถนน

นี่คือภาพที่เด็กรุ่น”น้องมิลลิ”สามารถมองเห็นได้ไม่ยาก

มีความพยายามไม่เพียงแต่จะปิด”ตา”มิให้น้องได้เห็น หากแต่ยังพยายามปิด”ปาก”มิให้น้องได้ร้องขึ้นมา

ทั้งๆที่มีภาพ”คนตาย”ปรากฏอยู่ ณ เบื้องหน้า ตำตา ตำใจ