บ่อนหรูโผล่กลาง ‘ภูเก็ตแซนด์บอกซ์’ ‘บิ๊กปั๊ด’ สั่งหวดซ้ำ หลังเด้ง 5 เสือ หวั่นซ้ำรอยคลัสเตอร์ ‘หลงจู๊ ตะวันออก’/โล่เงิน

โล่เงิน

 

บ่อนหรูโผล่กลาง ‘ภูเก็ตแซนด์บอกซ์’

‘บิ๊กปั๊ด’ สั่งหวดซ้ำ หลังเด้ง 5 เสือ

หวั่นซ้ำรอยคลัสเตอร์ ‘หลงจู๊ ตะวันออก’

 

ปัญหาบ่อนการพนันเป็นเหมือนขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมของตำรวจทุกพื้นที่ การจับกุมแต่ละครั้งเหมือนประจานส่วยอบายมุข ฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ยิ่งในสถานการณ์โรคร้ายระบาด บ่อนเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชน

ล่าสุด 17 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.ต.พิทยา ธนาวุฒิ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 บก.ป. สนธิกำลังตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เปิดปฏิบัติการจับบ่อนพูลวิลล่า ซึ่งตั้งอยู่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง บริเวณ ม.1 หาดสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาลักลอบเล่นการพนัน (ไพ่เสือมังกร) รวม 28 คน ที่ไม่สนว่าอยู่ในช่วงการแพร่ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน จนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตสั่งปิดสถานที่เสี่ยง อาทิ สถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ เป็นการชั่วคราว

กรณีที่เกิดขึ้น ชาวภูเก็ตวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หละหลวมมาตรการป้องกันปราบปรามอบายมุข ปล่อยให้มีบ่อนกลางเมือง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดคลัสเตอร์ เช่นเดียวกับบ่อนภาคตะวันออกของหลงจู๊ สมชาย

และกังวลว่าจะส่งผลกระทบไปถึง “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” เมืองท่องเที่ยวที่เพิ่งพ้นจากอาการโคม่า และกำลังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเข้าจับกุมในครั้งนี้ เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2564 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา และมีบางส่วนติดทะเล ในพื้นที่ ต.รัษฎา ซึ่งในช่วงดังกล่าวโรงแรมยังไม่เปิดให้บริการ จึงได้ทำบันทึกให้รอง ผกก.สืบสวน ลงตรวจสอบ พบว่ายังปิดให้บริการและมีการซ่อมแซม ไม่พบการเล่นพนันตามรับแจ้ง จึงได้ทำบันทึกลับรายงาน พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ทราบ

“จากนั้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับแจ้งอีกครั้ง จึงร่วมกับตำรวจกองปราบปรามเข้าไปตรวจสอบ และพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง สามารถจับกุมนักพนันได้ 28 คน ในจำนวนดังกล่าวพบว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นระดับ ส.ท.ด้วย 1 คน ส่งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมลักลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตระบุ

ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนพบว่า บ่อนพนันดังกล่าวเป็นของกลุ่มนายทุนที่เคยทำธุรกิจนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อเกิดโควิดระลอก 3 ทำให้บ่อนเปิดไม่ได้ เมื่อมีโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ จังหวัดภูเก็ตเริ่มเปิดเมือง จึงย้ายฐานที่มั่นมาที่โรงแรมดังกล่าว เพราะคิดว่าทำธุรกิจสีเทาได้เสรีมากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเก่าที่ตามมาจากกรุงเทพฯ และจะรับแค่ลูกค้าขาประจำเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวอ้างว่า “บิ๊กตำรวจ” ไฟเขียวให้เปิดได้

 

19 กรกฎาคม 2564 พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 ให้สัมภาษณ์สยบข่าวลือว่า ไม่มีบิ๊กตำรวจไฟเขียวให้เปิดบ่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบ่อนลักลอบเล่น ซึ่งเราก็ตามจับมาหลายครั้ง ตอนนี้ได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวน และจะให้ 5 เสือ สภ.เมืองภูเก็ต ไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 8

ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ห้ามมิให้มีการลักลอบเล่นการพนัน มั่วสุมอยู่แล้ว และเป็นกรณีที่มีหน่วยงานจากส่วนกลางมาจับกุม ต้องดำเนินการตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เมษายน 2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข และไม่มีนโยบายปล่อยให้มีการเล่นการพนันทุกรูปแบบ

ยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ต้องไม่มีการปล่อยให้มีการลักลอบรวมกลุ่ม มั่วสุมเด็ดขาด หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ใดเข้าไปยุ่งเกี่ยว รับผลประโยชน์ ปล่อยปละละเลย หรือมีส่วนรู้เห็น จะลงโทษสถานหนัก

ช่วงเย็นวันเดียวกัน ผบช.ภ.8 เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 5 นาย ดังนี้ 1.พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต 2.พ.ต.ท.จักรกฤช แต้วัฒนา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต 3.พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต 4.พ.ต.ท.บุญชัย เจริญหัตถกิจ สวป.สภ.เมืองภูเก็ต และ 5.พ.ต.ต.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 โดยขาดจากต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 มอบหมาย พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มี พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 เป็นประธานกรรมการ

โดยให้คณะกรรมการทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ และรายงานผลการดำเนินการให้ทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง

 

ขณะที่ “บิ๊กปั๊ด” กล่าวว่า กำชับให้ ผบช.ภ.8 ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใครที่เกี่ยวข้องให้ทำไปตามนโยบายของ ตร. มีระเบียบอยู่แล้ว และรีบสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะใกล้ฤดูกาลแต่งตั้ง จะได้มีเหตุมีผลประกอบการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งแนวโน้มทางการปกครองผู้ที่ถูกสั่งย้ายจากปมบ่อนการพนัน คงไม่ได้กลับไปอยู่ที่เดิม พร้อมสั่งการไปยังทุกพื้นที่กรณีมีการจับกุมบ่อนการพนัน ใครไม่จับและมีเจตนาปล่อยปละละเลยรู้เห็นเป็นใจต้องโดนลงโทษ ส่วนกรณีมีการอ้างถึง “บิ๊กตำรวจ” หากพบว่ามีจริง จะเป็นใครก็ต้องโดนลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาทุกราย

ในภาวะที่ประชาชนยากลำบากจากโรคระบาด ผู้นำองค์กรสีกากีต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน

อย่าให้บ่อนพนันหรูพูลวิลล่า เขย่าความเชื่อมั่น “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ที่เพิ่งทดลองนำร่อง หวังไปสู่การฟื้นเศรษฐกิจจากพิษโควิด