รายงานพิเศษ

 

ทัพเรืองัดข้อ

ตท.22 แบ๊ก ‘บิ๊กปู’

ตท.20 ผนึกกำลัง

ดัน ‘บิ๊กเฒ่า’

สร้างแผงอำนาจเพื่อน

วัดใจ ‘บิ๊กอุ้ย’ วางทายาท

 

ถึงเวลานับถอยหลัง บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. ที่จะเกษียณราชการในอีกไม่ถึง 3 เดือน แต่บิ๊กอุ้ยจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กองทัพเรือเช่นไร

จะทำให้มี ผบ.ทร.จากเตรียมทหาร 20 อีกคนหรือไม่ หรือจะผ่องถ่ายอำนาจสู่รุ่นน้อง

ด้วยเพราะนายทหารที่จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายเรือ ที่มีความผูกพันกัน ในที่สุดหลังเกษียณ ชีวิตก็จะเหลือแต่เพื่อน

จึงมีการเดาใจ พล.ร.อ.ชาติชาย ว่า อาจจะสนับสนุนบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกลาโหม ให้ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร.คนใหม่

เพราะกระแสข่าวจากกระทรวงกลาโหมแรงมากว่า จะส่งรองเฒ่า รองปลัดทหารเรือกลับไปเป็น ผบ.ทร.

แต่ทว่าโดยประเพณีปฏิบัติแล้ว พล.ร.อ.ชาติชายไม่อาจจะเสนอชื่อนายทหารเรือ “คนนอก” มาเป็น ผบ.ทร.ได้ แต่ต้องเสนอชื่อ “คนใน”

โดยเลือกที่จะเสนอชื่อ 1 ใน 3 แคนดิเดตที่มีอยู่ พอเป็นพิธี ที่คาดว่าระหว่างบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) เสธ.ทร. กับบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ผบ.กองเรือยุทธการ

ส่วนบิ๊กโต๊ะ พล.ร.อ.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ ผช.ผบ.ทร. มีน้ำหนักน้อยที่สุด แม้จะเป็น ตท.22 แต่เหลืออายุราชการปีเดียว เสียเปรียบคนอื่น และยังเป็นคนเงียบๆ ไม่ไปต่อสู้แย่งชิงอะไรกับใคร และรับผิดชอบสายกำลังพล จึงไม่ได้ออกแอ๊กชั่นมากนัก แถมไม่ค่อยได้ออกสื่อ จึงอาจไม่เป็นที่รู้จัก

จึงถูกมองว่าไม่ใช่ตัวเต็ง

น่าจับตามองว่า หาก พล.ร.อ.ชาติชายต้องการจะหนุนเพื่อนรักอย่าง พล.ร.อ.สมประสงค์ เป็น ผบ.ทร. ก็จะต้องไม่เสนอชื่อคู่แข่งที่ดูมีน้ำหนัก มีความแรงพอตัว อย่าง พล.ร.อ.สุทธินันท์ ขึ้นเป็น ผบ.ทร. เพราะจะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ พล.ร.อ.สุทธินันท์

คาดว่า กลยุทธ์ของ ตท.20 ในการดัน พล.ร.อ.สมประสงค์กลับมาเป็น ผบ.ทร. จักต้องอาศัยพลังกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะจากบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม เพื่อน ตท.20 เช่นกัน ที่จะต้องขอส่งตัว พล.ร.อ.สมประสงค์กลับ ทร.ด้วยความอาวุโส ที่ครองอัตราพลเรือเอกพิเศษมา 2 ปี มาเป็น ผบ.ทร.

ที่ พล.อ.ณัฐ และ พล.ร.อ.ชาติชาย อาจต้องขอแรงสนับสนุนจากบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ด้วยอีกเสียง เพื่อให้ พล.ร.อ.ชาติชายกลับไปแก้ชื่อที่เสนอมาให้เป็น พล.ร.อ.สมประสงค์ เป็น ผบ.ทร.คนใหม่

หรืออีกหนทางหนึ่ง พล.ร.อ.ชาติชายไม่ต้องห่วงเรื่องกฎกติกา ก็สามารถเสนอชื่อ พล.ร.อ.สมประสงค์เป็น ผบ.ทร.แทนเลย จะได้ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากนัก

แต่ก็รู้กันดีว่า เหตุผลหนึ่งที่ พล.อ.ณัฐสนับสนุน พล.ร.อ.สมประสงค์เป็น ผบ.ทร. นอกจากเป็นเพื่อน ตท.20 กันแล้ว ยังเป็นเพราะต้องการเปิดทางให้มีการแต่งตั้งปลัดกลาโหมคนใหม่ และรองปลัดกลาโหม ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

เพราะหากหาตำแหน่งให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ลงไม่ได้ และอยู่กลาโหมต่อ ก็จะอาวุโสสูงสุด ขึ้นเป็นปลัดกลาโหมได้เลย แต่ทว่า ตท.20 ได้วางตัวบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสธ.ทบ. ให้ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม แม้จะอาวุโสน้อยกว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ก็ตาม

แต่เพราะเหล่าทหารบกยึดโควต้าปลัดกลาโหมมายาวนาน ไม่ปล่อยให้ทหารเรือ หรือทหารอากาศ นานหลายสิบปีแล้ว เพราะในจำนวนปลัดกลาโหมที่มีมา 60 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารบก เพราะ ทบ.มีบทบาททางการเมืองมาตลอด ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน และเป็นเหล่าทัพใหญ่มีกำลังพลมาก และยังยึดโควต้าสัดส่วน 2:1:1 คือ ทบ.-ทร.-ทอ. มาเสมอในทุกเรื่อง

จนในที่สุด ทบ.ก็ยึดเก้าอี้ทั้งปลัดกลาโหม และ ผบ.ทหารสูงสุด เรื่อยมา นานๆ ครั้งในรอบ 10-20 ปี จึงจะมีทหารเรือ ทหารอากาศ ได้นั่งเก้าอี้เหล่านี้สักคน

แต่หากทหารเรือมีพลัง ก็จะสามารถเจรจาต่อรองให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ได้ขึ้นเป็นปลัดกลาโหม สร้างประวัติศาสตร์ให้กองทัพเรือ ที่จะได้มีทหารเรือเป็นปลัดกลาโหมคนแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ จากที่เคยมีจอมพลเรือ หลวงยุทธศาสตร์โกศล เป็นปลัดกลาโหมคนแรกเมื่อปี 2486 และ พล.ร.อ.จิตต์ สังขดุลย์ เป็นปลัดกลาโหม เมื่อปี 2517

แต่หาก พล.ร.อ.ชาติชายต้องการให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร. ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้ให้ทหารเรือเป็นปลัดกลาโหม แม้จะเป็นรองปลัดกลาโหมที่ อาวุโสสูงสุดก็ตาม

จึงไม่แปลกที่กลาโหมต้องการส่ง พล.ร.อ.สมประสงค์กลับ ทร. และสนับสนุนให้เป็น ผบ.ทร. ไม่เช่นนั้นแล้ว หากยังอยู่กลาโหมต่อไป พล.ร.อ.สมประสงค์ก็จะเป็นรองปลัดกลาโหมที่อาวุโส ค้ำปลัดกลาโหม

แต่สมัยนี้ ไม่ค่อยเป็นปัญหาในการโยกย้ายแล้ว เพราะถึงอย่างไร พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ กับ พล.ร.อ.สมประสงค์ ก็เพื่อนรุ่นเดียวกัน

ดังนั้น สำหรับ ตท.20 แล้ว สามารถเบิ้ลเป็น ผบ.เหล่าทัพได้ คือ พล.ร.อ.ชาติชายเป็น ผบ.ทร.คนหนึ่ง แล้ว พล.ร.อ.สมประสงค์ก็เป็น ผบ.ทร.อีกคนได้ เช่นเดียวกับ พล.อ.ณัฐ ที่เป็นปลัดกลาโหมมา 3 ปี ก็ส่งต่อให้ พล.อ.วรเกียรติ เพื่อนร่วมรุ่นเป็นปลัดกลาโหมต่อได้

แต่ต้องจับตามองไปที่พลังของ พล.ร.อ.สุทธินันท์ แกนนำ ตท.22 ด้วยว่า จะแรงสู้พลัง ตท.20 ได้หรือไม่

เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 ของบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และเป็นนายทหารที่ทำงานโครงการพระราชดำริ และถวายงานพระบรมวงศานุวงศ์มาตลอด

แต่ทว่าฝ่าย ตท.20 ก็ยังมีบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และรองราชเลขาธิการ คอยสนับสนุน พล.ร.อ.สมประสงค์ เพื่อน ตท.20 อยู่แล้ว และหากเป็นการเสนอขึ้นมาของ พล.ร.อ.ชาติชาย

แต่ทว่า สูตรคอมโปรไมส์ ก็อาจถูกหยิบยกขึ้นมาเจรจาต่อรอง ด้วยการให้ พล.ร.อ.สมประสงค์เป็น ผบ.ทร.ก่อน 1 ปี เพราะเกษียณกันยายน 2565 จากนั้น พล.ร.อ.สุทธินันท์ที่มีอายุราชการถึงกันยายน 2566 ก็เป็น ผบ.ทร.ต่ออีก 1 ปี

แต่ใครจะรับประกัน ยืนยันได้ว่า จะรักษาสัญญาสุภาพบุรุษทหารเรือ เพราะเมื่อ พล.ร.อ.สมประสงค์ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. ก็อาจจะเตรียมวางตัวนายทหารเรือคนใดไว้แล้วก็ได้

นาทีนี้ ถ้าขึ้นเป็น ผบ.ทร.ได้เลย และนั่ง 2 ปี พล.ร.อ.สุทธินันท์ก็จะมีเวลาในการทำงานพอสมควร ดีกว่าแค่ปีเดียว ที่สั้นเกินไป 6 เดือนตรวจเยี่ยมหน่วย และอีก 6 เดือนก็อำลา หมดเวลาพอดี

หากมองในแง่พลังรุ่น ตท.22 พล.ร.อ.สุทธินันท์เสียเปรียบ พล.ร.อ.สมประสงค์ ตท.20 อย่างมาก เพราะคีย์แมนของ ตท.20 ล้วนมีเพาเวอร์

พล.อ.ณัฐก็เป็นน้องรักของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ

ส่วน พล.อ.อภิรัชต์นั้นไม่ต้องพูดถึง แถมยังสายตรงถึงบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

แต่แน่นอนว่า กระแสข่าวใน ทร.เวลานี้มีทั้งแรงเชียร์ พล.ร.อ.สมประสงค์ให้กลับมาเป็น ผบ.ทร. และมีทั้งต่อต้าน เพราะพ้นจาก ทร.ไป 2 ปี แล้ว แถมทั้ง ตท.20 เป็น ผบ.ทร.แล้ว ไม่ควรที่จะต้องเป็นถึง 2 คน

ไม่แค่นั้น บรรดาฝ่ายต่อต้าน บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร.มองว่า 3 แคนดิเดตคนใน ทร. ทั้ง พล.ร.อ.ธีรกุลที่ขึ้นมาจากปลัดบัญชี ทร. พล.ร.อ.ทรงวุฒิขึ้นมาจากเจ้ากรมกำลังพล ทร. และ พล.ร.อ.สุทธินันท์ขึ้นมาจาก ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 นั้น เป็นคนที่ พล.ร.อ.ลือชัยปั้นมาเพื่อไว้ให้ พล.ร.อ.ชาติชายเลือกมาเป็น ผบ.ทร.

โดยเป็นที่รู้กันดีว่า พล.ร.อ.สุทธินันท์เป็นน้องเลิฟของ พล.ร.อ.ลือชัย แต่ทว่าระยะห่างระหว่าง พล.ร.อ.ชาติชายกับอดีต ผบ.ทร.ลือชัย จึงส่อเค้าว่า พล.ร.อ.ชาติชายจะไม่เลือก 1 ใน 3 ตัวเลือกที่ พล.ร.อ.ลือชัยวางเอาไว้

หากเกิดปัญหาความไม่ลงตัว สไตล์ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ จะเอาประวัติมาดู และดูบุคลิกลักษณะประกอบ

สําหรับ พล.ร.อ.สุทธินันท์นั้นเส้นทางรับราชการราบเรียบ เคยเป็นทั้งทหารเรือในทะเล จนเป็น ผบ.เรือหลวงกูด

ก่อนที่จะขึ้นบก มาเติบโตจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) เคยเป็นผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11 สอ.รฝ. ผู้การกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 และเสนาธิการ สอ.รฝ. ก่อนไปเติบโตในทัพเรือภาคที่ 1 และข้ามไปเป็นเจ้ากรมการเงิน ทร. ก่อนเข้าไลน์เป็น ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 และ ผบ.กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) คุมกำลังทางเรือ เป็นแคนดิเดตชิง ผบ.ทร.

ขณะที่ พล.ร.อ.สมประสงค์นั้นเคยเป็น ผบ.เรือหลวงตองปลิว และเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือ ประจำกรุงโรม อิตาลี เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพ และเจ้ากรมข่าวทหารเรือ ก่อนขึ้นรองเสนาธิการทหารเรือ แล้วก็ขึ้นเป็นพลเรือเอก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. แล้วส่งข้ามไปกลาโหม เป็นรองปลัดกลาโหมมาเป็นปีที่ 2

แต่บุคลิกภาพนั้น พล.ร.อ.สมประสงค์ ดูเป็นนายทหารมาดนิ่ง สุขุม เงียบๆ ส่วน พล.ร.อ.สุทธินันท์เป็นนายทหารที่อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นที่รักของลูกน้อง เพราะใจดี

 

ที่ผ่านมา ดูเหมือน พล.ร.อ.ชาติชายมีใจให้ พล.ร.อ.ธีรกุล เพราะมอบหมายงานสำคัญเสมอ อาจเป็นเพราะโดยตำแหน่ง เสธ.ทร. และเสธ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จนทำให้กลายเป็นอีกแคนดิเดตที่อาจกลายเป็นตาอยู่

เพราะหากตัดคำว่า “เพื่อน” ที่จะต้องอยู่กันไปตลอดชีวิต หลังเกษียณออกไป พล.ร.อ.ชาติชายก็อาจเลือกเสธ.โต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล ตท.21 มีอายุราชการ 2 ปี เพราะก็ถือว่ามีความสามารถ บุคลิกลักษณะดี เส้นทางรับราชการก็ไม่น้อยหน้าใคร แม้จะเป็นผู้การเรือเล็กๆ เช่น เรือ ต.15, ต.97 เท่านั้น

แต่เคยอยู่สายบู๊ รองผู้การกรมต่อสู้อากาศยาน 1 สอ.รฝ. เป็นรองเสนาธิการฐานทัพเรือพังงา

ก่อนมาสายบุ๋น มีประสบการณ์หลากหลาย ทั้งทำงานประสานงานไทย-มาเลเซีย ผอ.กองแผนและโครงการ กรมจเรทหารเรือ ผู้อำนวยการกองศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง ผู้อำนวยการกองส่งกำลังบำรุง ทัพเรือภาคที่ 3 ก่อนมาโตในสำนักงานปลัดบัญชีทหารเรือ จนเป็นผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ จนปลัดบัญชีทหารเรือ ก่อนขึ้นเสธ.ทร.จากการปั้นของ พล.ร.อ.ลือชัย

แต่บทเรียนจากกองทัพอากาศ อาจทำให้ พล.ร.อ.ชาติชายขยาดที่จะเลือกน้องเป็น ผบ.ทร.

เหมือนที่บิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ตอนเป็น ผบ.ทอ. ที่เลือกบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ มาเป็น ผบ.ทอ.แบบม้ามืด

ยอมเสียเพื่อน ไม่เสนอชื่อบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ.ในเวลานั้น เป็น ผบ.ทอ. แม้จะเป็นเพื่อน ตท.20 แต่ไปเสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูลรุ่นน้อง ตท.21 ที่อยู่นอกไลน์เป็น ผบ.ทอ.

จนทำให้เพื่อนร่วมรุ่น ตท.20 สายทหารอากาศ ถล่มเละ บางส่วนก็เลิกคุย เลิกคบกันไปเลย แต่ พล.อ.อ.มานัตก็ยังมีเพื่อนที่สนิทๆ และเข้าใจกันอยู่

แม้วันนี้จะรู้ว่า ตนเองตัดสินใจผิดพลาด หลังจากที่ พล.อ.อ.แอร์บูลรื้อโครงการต่างๆ ที่ทำไว้ และกลายเป็นความขัดแย้งจนทำให้เกิดการแบ่งขั้วกันอีกครั้งใน ทอ.

 

แต่แน่นอนว่า หาก พล.ร.อ.

เลือกเพื่อน หนุน พล.ร.อ.สมประสงค์เป็น ผบ.ทร.แทน ตท.20 ก็จะถูกรุ่นน้องๆ วิพากษ์วิจารณ์อีกเช่นกัน ที่ ตท.20 ยังไม่ยอมผ่องถ่ายอำนาจให้กับรุ่นอื่น

แต่ต้องไม่ลืมว่า ตท.20 ยังคงถูกจับตามองว่า ยังจะเป็นรุ่นที่ยังคงมีบทบาท แม้จะเกษียณราชการกันไปแล้ว และอาจเตรียมก้าวสู่สนามการเมือง

ภายใต้การนำของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ยังถูกจับตามองว่าจะกลับมาสู่สนามการเมืองในอนาคต เช่นเดียวกับ พล.อ.ณัฐ และบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ที่จะลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. และ พล.อ.อ.มานัตที่ลงสมัครเป็นกรรมการ กสทช.

ตท.20 จึงต้องมีการวางทายาทอำนาจไว้ในกองทัพ ด้วยการดันเพื่อนที่ยังอยู่ในกองทัพ ให้นั่ง ผบ.เหล่าทัพ และนั่งตำแหน่งสำคัญๆ

จึงมีการผลักดัน พล.อ.วรเกียรติให้ข้ามจาก ทบ.มาเป็นปลัดกลาโหม และจะดัน พล.ร.อ.สมประสงค์ เป็น ผบ.ทร. และตำแหน่งสำคัญอื่นๆ

แต่ท้ายที่สุด ต้องวัดใจ พล.ร.อ.ชาติชาย ว่าจะเลือกน้อง หรือจะเลือก… อีกไม่นานเกินรอรู้กัน