มุมมุสลิม

จรัญ มะลูลีม

 

ควันหลงหลังการหยุดยิง

อิสราเอล-ฮามาส (1)

 

การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลปลุกเร้าให้ทั่วโลกออกมาประณามอิสราเอลอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

แต่รัฐบาลฝ่ายขวาสหรัฐก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรออกมา

ในขณะที่ผู้นำเดโมแครตหลายคนในสหรัฐสนับสนุนให้ฝ่ายบริหารปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ผู้คนนับล้านทั่วโลกต่างแสดงความโกรธแค้นในสงครามใหม่ที่อิสราเอลบุกถล่มฉนวนกาซาที่ประชาชนผู้ยากไร้ถูกปิดล้อมอยู่ ฉนวนกาซาคือดินแดนที่มีผู้คนหนาแน่นของโลก

แม้ว่าสหรัฐ แคนาดา และชาติยุโรปส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนอิสราเอลต่อไป แม้ว่าอิสราเอลจะปฏิเสธข้อตกลงออสโล (Oslo Accords) ที่เปิดทางให้มีการสร้างรัฐปาเลสไตน์ก็ตาม อย่างไรก็ตาม มติมหาชนในประเทศเหล่านี้ต่างก็หันมาต่อต้านรัฐยิวกันโดยถ้วนหน้า

มีการเดินขบวนขนาดใหญ่ของโลก ที่แสดงให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม รวมทั้งในนครเบอร์ลิน นิวยอร์ก ปารีส แฟรงก์เฟิร์ต และเมลเบิร์น หลังจากมีการประกาศการหยุดยิง

ผู้คนจำนวนมากซึ่งมารวมตัวกันบนท้องถนนจะมีธงชาติของปาเลสไตน์พาดบ่า ส่วนคนอื่นๆ ก็ถือป้ายผ้าเรียกร้องให้มีการสถาปนา “ปาเลสไตน์อิสระ”

และเรียกร้องให้มีการ “แซงก์ชั่นอิสราเอล” สำหรับอาชญากรรมสงครามซึ่งกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ นับตั้งแต่มีการสร้างรัฐอิสราเอลขึ้นในผืนแผ่นดินของชาวปาเลสไตน์

การเดินทางมารวมตัวกันของผู้คนจำนวนมากเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมถึง 200,000 คน ส่วนในฝรั่งเศสพบว่าในตอนต้นรัฐบาลฝรั่งเศสต้องการให้ยกเลิกการรวมตัวเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์นี้เสียด้วยข้ออ้างเรื่องการระบาดของ Covid-19

ในบรรดาถ้อยคำที่ใช้ในการรวมตัวครั้งนี้ที่ได้รับการกล่าวออกมาจากผู้คนนับพันที่มารวมตัวกันที่กรุงปารีสก็คือ “เราทุกคนเป็นชาวปาเลสไตน์” (We’re all Palestinians) และอิสราเอลคือนักฆ่า และ Macron คือผู้สมรู้ร่วมคิด (Israel assassinated Macron accomplice)

 

Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีอิสราเอลในฐานะนักขยายผืนแผ่นดิน (expansionist) และผู้ใช้นโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติที่เขานำเอามาปฏิบัติกว่าหนึ่งทศวรรษครึ่งมาแล้วได้ขอบคุณ Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ Johnson นายกรัฐมนตรีของอังกฤษที่ยืนหยัดเคียงคู่อิสราเอลในระหว่างที่กาซาถูกถล่มอย่างหนัก

นอกจากนี้ Netanyahu ยังได้ขอบคุณ Alexander Van der Belen ประธานาธิบดีของออสเตรีย ซึ่งตัดสินใจชักธงของออสเตรียคู่กับธงของอิสราเอลในช่วงที่มีความขัดแย้งในกาซา

ออสเตรียในเวลานี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลฝ่ายขวาที่มีอาการ Islamophobic หรือหวาดหวั่นผู้นับถือศาสนาอิสลาม

รัฐบาลฝ่ายขวาในฮังการี สาธารณรัฐเช็ก และสโลวะเกียก็สัญญาว่าจะยืนหยัดอยู่กับอิสราเอล

 

Michelle Bachelet ผู้นำด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ปฏิบัติการในกาซาอาจถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาชญากรรมสงคราม (A War Crime) เธอกล่าวในการประชุมวิสามัญของ UNHRC เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เธอมองไม่เห็นว่าตึกสูงของพลเรือนในกาซาที่ถูกถล่มโดยอิสราเอลจะถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการทหารได้อย่างไร

แม้ว่าจะมีผู้สนับสนุนอิสราเอลเพิ่มขึ้นในประเทศที่ปกครองโดยฝ่ายขวา แต่กลับพบว่าการสนับสนุนที่เคยมีอยู่อย่างหนาแน่นจากประชาชนสหรัฐที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้ปกป้องและยืนหยัดอยู่กับอิสราเอลมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันได้อ่อนยวบลง

นอกจากนี้ ยังเกิดเสียงแตกในพรรคเดโมแครตในประเด็นการสนับสนุนอิสราเอลอีกด้วย เป็นที่รับทราบกันดีว่า Biden และรองประธานาธิบดี Harris (Kamala Harris) นั้นมีความสนิทสนมกับกลุ่มก้อนผู้สนับสนุนชาวยิว (Jewish Lobby) ผู้มีอิทธิพลและความมั่งคั่ง

ทั้ง Biden และ Harris มักจะเป็นผู้กล่าวปาฐกถานำในงานที่จัดโดยคณะกรรมการกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอล (AIPAC) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอิทธิพลอยู่ในสหรัฐ

ในเดือนเมษายน สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสปฏิเสธที่จะลงนามในร่างหนังสือของ AIPAC ที่เรียกร้องให้สหรัฐมอบเงินช่วยเหลือประจำปี 4 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่อิสราเอล “อย่างไม่มีเงื่อนไข”

สมาชิกพรรคเดโมแครตที่ถูกเรียกว่ากลุ่ม “Progressive Democrat” นำโดย Bernie Sanders ในเวลานี้มีอยู่ทั้งในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา

ผู้คนจากพรรคเดโมแครตเหล่านี้แสดงความโกรธเคืองและความไม่พอใจการสนับสนุนอิสราเอลของฝ่ายบริหารของ Biden แม้แต่ในช่วงที่กลไกสงครามของอิสราเอลกำลังถล่มกาซาอย่างหนัก หลังจากเหตุการณ์ในเดือนเมษายน พรรคเดโมแครตก็แตกออกเป็นสองกลุ่มในประเด็นว่าด้วยปาเลสไตน์

กลุ่มเดโมแครตก้าวหน้าได้ตั้งคำถามโดยเปิดเผยว่าอะไรคือความมีเหตุผลที่ฝ่ายบริหารของ Biden มอบให้กับอิสราเอล

 

Biden กล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลที่กาซามิได้เป็นการตอบโต้ที่เกินไปอย่างมีนัยสำคัญในฝ่ายของรัฐยิว แม้ว่าจำนวนพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บที่กาซาจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

มากกว่า 10 วันที่ฝ่ายบริหารของ Biden หยุดยั้งมิให้คณะมนตรีความมั่นคงออกมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิง

ใน New York Times Sanders กล่าวว่า สหรัฐควรหยุดกล่าวว่า “อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง” ได้แล้ว แทนที่จะเป็นเช่นนั้นควรจะมุ่งไปที่ “สิทธิของประชาชนชาวปาเลสไตน์มากกว่า”

เขากล่าวว่า เหตุการณ์ที่มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์จากชานเมืองเยรูซาเลมของชัยค์ ญัรเราะฮ์ นั้น ส่วนหนึ่งเป็นภาพของการกดขี่ขนาดใหญ่ทางการเมืองและเศรษฐกิจ

เขากล่าวต่อไปว่า หลายปีมาแล้วที่สหรัฐได้เฝ้าดูรัฐบาลของ Netanyahu ทำให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอลเป็นคนชายขอบและเป็นผู้ร้าย รวมทั้งนโยบายการสร้างบ้านเรือนและการออกแบบนโยบายที่หยุดยั้งความเป็นไปได้ของการมีสองรัฐ รวมทั้งการออกกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างพลเมืองชาวยิวและชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอล

เขากล่าวต่อไปอีกว่า สหรัฐไม่อาจเป็นผู้คอยแก้ตัวให้อิสราเอลต่อไปได้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาความช่วยเหลือทางทหารประจำปี 4 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่อิสราเอล

 

สมาชิกพรรคเดโมแครตได้เขียนถึง Antony Blenken รัฐมนตรีต่างประเทศเพื่อสนับสนุนให้ฝ่ายบริหารของ Biden หยุดยั้งการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านเรือนของพวกเขา

โดยจดหมายดังกล่าวได้พูดถึงอิสราเอลที่ทำลายบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 5,000 หลังในเยรูซาเลมตะวันออกมาตั้งแต่ปี 1967

จดหมายดังกล่าวได้พูดถึง “เยรูซาเลมตะวันออก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตเวสต์แบงก์ และอิสราเอลใช้ทหารยึดครองดินแดนเหล่านี้

ทั้งนี้ นครเยรูซาเลมตะวันออกในปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลนครเยรูซาเลม

ในบรรดาผู้ลงนามในจดหมายนี้ประกอบด้วยสมาชิกพรรค Democrat ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Alexdria Ocasio-Cortez Premila Jayapal Ayanna Pressly Ilhan Omar และ Rashida Tlaib

ส.ว. Elizabeth Warren ซึ่งสนับสนุนอิสราเอลมาก่อนเมื่อครั้งที่อิสราเอลโจมตีกาซาในปี 2014 ได้เปลี่ยนจุดยืนของเธอเสียใหม่ โดยหันมาให้การสนับสนุนความเข้มงวดต่อการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอล และประณามการใช้กำลังเข้ารื้อถอนครอบครัวชาวปาเลสไตน์จากบ้านเรือนของพวกเขา

กลุ่มก้อนของขาวยิวจำนวนหนึ่งในสหรัฐจะไม่สนับสนุนอิสราเอลอย่างมืดบอดอีกต่อไป ชาวยิวสายกลางอย่างเช่น Jstreel รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ อย่างเช่น If Not Now และ Jewish Voice Peace ได้ออกมาวิพากษ์นโยบายของรัฐบาล Netanyahu

กลุ่มก้อนของ The Black Lives Malter ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่มีความสำคัญในสหรัฐก็กลับมาช่วยภารกิจของชาวปาเลสไตน์

ป้ายผ้า “Patestinian Lives Matter Too” และคำขวัญต่างๆ จะแลเห็นได้อย่างกว้างขวางในสหรัฐและส่วนอื่นๆ ของโลก

ชาวอเมริกันจำนวนมากในเวลานี้ต่างก็รับรู้ว่านโยบายของอิสราเอลที่ต่อต้านชาวปาเลสไตน์นั้นโดยเนื้อแท้แล้วเป็นการเลือกปฏิบัติทางชาติพันธุ์ และเป็นนโยบายคู่ขนานกับการดูแลคนผิวดำและชนกลุ่มน้อยในสหรัฐนั่นเอง