รายงานพิเศษ

 

นับถอยหลังโผทหาร

จับตา ‘บิ๊กตู่’ ชี้อนาคต ‘บิ๊กเล็ก’

วัดพลัง ตท.21

3 เกลอชิงเลขาฯ สมช.

3 เสือฯ ชิงแม่ทัพฟ้า

 

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ยังหนักหนาสาหัส และการเมืองที่หนักหน่วง มีการจับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเลือกใครมาแทนบิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เกษียณ 30 กันยายนนี้

เพราะในสถานการณ์ที่โควิดยังคงไม่คลี่คลาย แต่ พล.อ.ณัฐพลที่เป็นคีย์แมนหลักของ ศบค. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ทำงานนี้มาต่อเนื่องตั้งแต่โควิดระลอกแรกตอนเป็นรอง ผบ.ทบ. มาจนตอนนี้

เป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ไว้วางใจ และมอบหมายให้รับผิดชอบ จนรู้กันดีว่า เสมือนเป็น “ผอ.ศบต.#2” เลยทีเดียว

ถึงขั้นที่ถูกจับตามองว่า ขบเหลี่ยมกับกระทรวงสาธารณสุขอยู่ จนถึงขั้นที่ลูกพรรคภูมิใจไทยเคยเหน็บแนม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าถนัดใช้ กม.พิเศษ อำนาจพิเศษ แล้วก็ให้น้ำหนักกับฝ่ายความมั่นคง แทนที่จะให้สาธารณสุข หรือเอาตามที่ สธ.เสนอ

อาจเป็นเพราะระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั้นมีเส้นบางๆ กั้นเอาไว้

ในเมื่อนายอนุทินไม่ได้เป็นทายาทอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ แถมยังจะเป็นคู่แข่งชิงเก้าอี้นายกฯ กับ พล.อ.ประยุทธ์ในสมัยหน้า หรือแข่งกับทายาทของ พล.อ.ประยุทธ์ในอนาคต

พล.อ.ณัฐพลจึงทำงานท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งสาธารณสุข และบรรดาคุณหมอ จนบ่อยครั้งที่ พล.อ.ณัฐพลแอบท้อแท้ แต่ก็ต้องอดทนทำงานช่วยนายกฯ ต่อไป

เมื่อนับถอยหลังสู่วันเกษียณ พล.อ.ณัฐพลจึงถูกจับตามองว่าจะสนับสนุนให้ใครขึ้นมาเป็นเลขาฯ สมช.แทนตนเอง

หรือว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพลนั่งตำแหน่งใด เพื่อช่วยงานให้ต่อเนื่อง

ทั้งอาจจะต่ออายุราชการให้ พล.อ.ณัฐพลอีก 1 ปีทำหน้าที่ต่อ เพราะเป็นแนวถนัดของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เคยทำมาหลายคนในยุค คสช. แต่ทว่าในยุคนี้อาจไม่เหมาะนัก

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจตั้ง พล.อ.ณัฐพลเป็น รมต. เช่น เคยมีข่าวว่าจะเป็น รมช.กลาโหม แต่ทว่าบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ก็เป็นน้องรักสายตรงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ที่นายกฯ ยังให้ช่วยดูแลความมั่นคงและกองทัพอยู่

แต่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะเจรจากับ พล.อ.ประวิตรอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ ที่จะดัน พล.อ.ณัฐพลมาเป็น รมช.กลาโหม แล้วให้ พล.อ.ชัยชาญพักผ่อน เพราะเป็นมาหลายปีแล้วตั้งแต่ยุค คสช.

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ชัยชาญคือมือขวาสายตรงของ พล.อ.ประวิตรในงานด้านความมั่นคง และช่วยดูแลกลาโหมและกองทัพแทน พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่ค่อยว่างมาทุ่มเทในเรื่องกองทัพมากนัก จนทำให้ พล.อ.ประวิตรยังติดตามความเคลื่อนไหวในกองทัพได้อยู่

หรือหาก พล.อ.ชัยชาญยังเหนียว พล.อ.ประยุทธ์อาจตั้ง พล.อ.ณัฐพลเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือที่ปรึกษา ผอ.ศบค. แต่ทว่าต้องให้อำนาจเต็มแก่ พล.อ.ณัฐพล เพราะคาดว่าในเวลานั้น ก็ยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่

ส่วนเลขาฯ สมช.คนใหม่ ที่คาดว่าจะมาแทนนั้น ยังไม่ชัดเจน เพราะแผนเดิมที่วางเอาไว้ อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์

ความจริง คนที่จะเป็นเลขาฯ สมช. ก็ต้องครบเครื่อง ทั้งบู๊ บุ๋น เพราะงานความมั่นคงนั้นทั้งกว้างและลึก

แต่จังหวะที่มีสถานการณ์โควิด จึงอาจทำให้เป็นอีกเหตุผลประกอบการตัดสินใจ

จากเดิมที่เคยมีชื่อเสธ.โจ้ พล.อ.ณตฐพล บุญงาม จ่อคิวรอมา 2 ปีแล้ว แต่ก็มีบิ๊กอั๋น พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา รองปลัดกลาโหม ข้ามมาเสียบเสียก่อน

เมื่อ พล.อ.สมศักดิ์เกษียณ พล.อ.ประยุทธ์ก็เลือก พล.อ.ณัฐพล น้องรักที่พลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ. มาเสียบอยู่ทำเนียบรัฐบาล ทำงานใกล้ตัว

ส่ง พล.อ.ณตฐพลไปลงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักปลัดกลาโหม

แรกๆ มองกันว่า เพื่อเตรียมตัวเป็นเลขาฯ สมช.ต่อจาก พล.อ.ณัฐพล แต่ไปๆ มาๆ ก็มีชื่อแคนดิเดตเข้ามาเพิ่มเติม

เนื่องจาก พล.อ.ณตฐพลที่ถูกวางตัวไว้ตั้งแต่แรกนั้นถูกมองว่าบุคลิกลักษณะเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ และมีระยะห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร เรียกได้ว่า ไม่ใช่ลูกน้องสายตรง และอาจจะไม่เข้ากับแนวทางการทำงานใน สมช.ในปัจจุบัน

เพราะจะต้องมาทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรู้มือ รู้แนว รู้ใจนายกฯ และจะต้องได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตรที่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงอีกด้วย

จึงมีข่าวสะพัดใน สมช. ถึงชื่อนายทหารที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณา ที่จะต้องเร่งตัดสินใจภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะจะเกี่ยวโยงกับการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ที่จะต้องทำโผแรกให้เสร็จภายในกลางเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือเขย่าก่อนส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ในกลางเดือนสิงหาคม

มีทั้งชื่อบิ๊กแขก พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) ที่ระยะหลังเข้ามามีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาโควิด ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม นำกำลังพลจิตอาสามาช่วยงานกระทรวงสาธารณสุข

พล.อ.นเรนทร์เป็นนายทหารม้าที่มากคอนเน็กชั่น และทำงานการข่าวกับ พล.อ.ประวิตรด้วย และผ่านงานทั้งสายบู๊ เช่น ทหารม้า ชายแดนภาคเหนือ และสายบุ๋น เคยเป็น ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.)

และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 21 กับบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เป็นทหารม้าด้วยกัน และเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ณตฐพลด้วย

รวมถึงแคนดิเดตอีกคน ตท.21 ที่มีชื่อสะพัดใน สมช. คือบิ๊กโป๊ป พล.อ.ชัชชัย ภัทรนาวิก อดีตผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย (ผบ.ศตก.) และอดีต ผช.ทูตทหารที่รัสเซีย ซึ่งที่เป็นที่ปรึกษา สมช.อยู่ รวมทั้งทำงานการข่าวให้ พล.อ.ประวิตรด้วยเช่นกัน และเป็นน้องรักของบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยด้วย

ท่ามกลางเสียงสะท้อนจาก สมช.ว่า เก้าอี้เลขาฯ สมช.จะต้องเป็นทหารมาเสียบเสมอ ยากที่คนใน สมช.จะได้ขึ้น ยิ่งในยุค พล.อ.ประยุทธ์ด้วยแล้ว เน้นความมั่นคง จึงเลือกทหารมาเป็นเลขาฯ สมช.

อีกทั้งเก้าอี้เลขาฯ สมช.กลายเป็นที่รองรับการแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่ไม่ลงตัว หรือเรียกได้ว่าใช้เป็นตำแหน่งในการแก้ปัญหาในกองทัพมาตลอด

แต่กระนั้นก็ตาม คนใน สมช.ที่จะได้โตขึ้นมาจนเป็นรองเลขาฯ สมช. แล้วมีอายุราชการเหลือ หรือความสามารถเข้าตาฝ่ายทหาร ก็หาได้ไม่ง่าย

หากมองไปที่แคนดิเดตคนใน สมช. ที่มีรองเลขาฯ อยู่ 3 คน แต่ก็ไม่ง่ายที่จะสู้กับทหาร

ทั้ง “รองกร” นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ สิงห์ดำรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อนร่วมรุ่นของนางณิชา ธุวธรรม หิรัญบูรณะ รองเลขาฯ นายกฯ แต่บุคลิกลักษณะอาจไม่ตรงใจฝ่ายทหาร หรือตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง

หรือรองกุ้ง นางศิริวรรณ สุคนธมาน เพื่อนร่วมรุ่นรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ของปลัดฉิ่ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย

และรองฉัตร นายฉัตรชัย บางชวด ที่จบรัฐศาสตร์ เกษตรฯ แต่มีอายุราชการถึง 2570 ก็น่าจับตามองในอนาคต เพราะรับผิดชอบงานสายความมั่นคง ทำงานกับทหารมาตลอด และเป็นคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ รวมทั้งยังเป็นทีมงานด้านการข่าวและความมั่นคงที่ไปประชุมกับ พล.อ.ประวิตรที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เสมอๆ

ตำแหน่งเลขาฯ สมช.จึงเป็นตำแหน่งสายตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจเลือกได้ตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ก็จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากกองทัพ รวมถึง พล.อ.ประวิตรด้วย

นอกจากเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 21 จะชิงเก้าอี้เลขาฯ สมช.กันถึง 3 คนแล้ว เพื่อน ตท.21 ยังชิงเก้าอี้แม่ทัพฟ้ากันอีกด้วย แถมยังต้องชิงกับรุ่นน้อง ตท.22 และ ตท.23 อีกด้วย

ในบรรดา ตท.21 ทัพฟ้า ที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ.นั้น ที่ชาวทัพฟ้าให้น้ำหนักมากสุดคือ บิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. แม้จะไม่ได้อยู่ใน 6 ฉลามอากาศ แต่ถ้าจะเป็น ผบ.ทอ.จริงๆ พลังดีก็ขึ้นได้ เพราะโปรไฟล์นักบิน F16 อดีตผู้การกองบิน 1 ผช.ทูต ทอ. ประจำลอนดอน อังกฤษ และเป็นนายทหารอากาศที่คุ้นหน้าคุ้นเคยกับ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์

และเป็นเพื่อนสนิทของบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน ที่กำลังจะเกษียณในอีก 3 เดือนข้างหน้า

ส่วนบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รอง ผบ.ทหารสูงสุด แม้จะเป็นเพื่อน ตท.21 ของ พล.อ.อ.แอร์บูล แต่ก็คนละก๊วน แต่แค่ว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยหนุนให้เป็น ผบ.ทอ.มาแล้ว แต่ตอนนั้น พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.ไม่ยอม เพราะยืนยันชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูลนั่นเอง

ขณะที่บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. ที่ถือว่ามีอาวุโสสูงสุด เพราะเป็นพลอากาศเอกพิเศษ แต่ทว่าก็ดูแรงแผ่ว

แต่ข่าวที่สะพัดแรงใน ทอ. คือ พล.อ.อ.แอร์บูลคนรักเพื่อน จะดัน พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์เป็น ผบ.ทอ.ก่อน 1 ปี

โดยในโผนี้ ให้จับตาบิ๊กเบิร์ท พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม (ตท.22) เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทอ. ที่ พล.อ.อ.แอร์บูลดันขึ้นมาเมื่อโยกย้ายเมษายนที่ผ่านมา โดยเด้งคนที่ พล.อ.อ.มานัตตั้งไว้ ที่เป็นการเติมเชื้อความขัดแย้ง

พล.อ.ท.อนันตชัยเป็นนักบิน C130 เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.แอร์บูลอีกด้วย แถมมีอายุราชการถึง 2566 ที่คาดกันว่า โผนี้จะขึ้น ผช.ผบ.ทอ. จ่อชิง ผบ.ทอ.ในปีหน้า เพราะ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์เกษียณกันยายน 2565

นั่นเป็นแค่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นใน ทอ. แต่ในทางปฏิบัติจะเป็นไปดั่งใจของ พล.อ.อ.แอร์บูลได้หรือไม่

เพราะคาดกันว่า แม้จะเกษียณไปแล้ว แต่ พล.อ.อ.มานัตก็ยังจะจับตามองอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งพลังของ ตท.20 รุ่นของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ และบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ก็ยังคงฟัง พล.อ.อ.มานัตอยู่ ที่ พล.อ.อ.มานัตยังสนับสนุนเสธ.หนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสธ.ทอ. ตามที่ได้กรุยทางไว้

อีกทั้งมีรายงานข่าวว่า พล.อ.อ.ชานนท์ (ตท.23) นั้น ไม่มีใครปฏิเสธในเรื่องความสามารถ วิสัยทัศน์ และโปรไฟล์ และยังมีกองหนุนทั้งแกนนำรุ่น ตท.23 รวมทั้ง พล.อ.เฉลิมพล ผบ.ทหารสูงสุดด้วย

แม้จะมีการจับตามองกันว่า พล.อ.อ.ชานนท์อาจเจออาถรรพ์ ผู้บังคับการกองบิน 4 ไม่เคยได้เป็น ผบ.ทอ.มาเลย เช่นกรณีโผปลายปีที่แล้วของบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ที่ชวดเก้าอี้ ผบ.ทอ. ทั้งๆ ที่เต็งหนึ่งมา และถูกเด้งไปเป็นรองปลัดกลาโหม

แต่ พล.อ.อ.ชานนท์อาจเป็นผู้การกองบิน 4 คนแรกที่ได้เป็น ผบ.ทอ.ก็เป็นได้

ศึกชิงเก้าอี้แม่ทัพฟ้าในครั้งนี้หนักหนักหน่วงมาก เพราะนอกจากมีแคนดิเดตหลายคน ทั้งรุ่นเดียวกันและต่างรุ่นแล้ว ยังเป็นการวัดพลังของ พล.อ.อ.แอร์บูล กับ พล.อ.อ.มานัตด้วย เพราะความขัดแย้งเริ่มบานปลาย จากปัญหาภายในกองทัพอากาศ ลามไปสู่การเมือง

จากการที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตลูกทัพฟ้า ในฐานะ กมธ.ปปช.สภาผู้แทนฯ จะตรวจสอบ 3 โครงการใหญ่ที่ พล.อ.อ.แอร์บูลเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา สิ่งที่ พล.อ.อ.มานัตเคยทำไว้สมัยเป็น ผบ.ทอ.

โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.แอร์บูลถูกเล่นงานในสื่อบางสำนัก ที่โจมตีว่าไม่สนับสนุนนโยบาย purchase & Development การใช้ภูมิปัญญาไทย หรือการจ้างงานในประเทศ

แต่ พล.อ.อ.แอร์บูลมองว่า ของเดิมเอื้อประโยชน์ให้ก้บบริษัทเอกชนมากกว่า แทนที่ ทอ.จะได้พัฒนาต่อยอด

โดยที่ พล.อ.อ.แอร์บูลนั้นพร้อมที่จะชี้แจง และไม่ต้องการปล่อยให้เป็นไปตามเดิม เพราะเมื่อเกษียณไปแล้ว อาจมาโดนฟ้องร้องได้

สัญญาณความร้อนแรงในทุ่งดอนเมืองจึงเพิ่มมากขึ้น ยิ่งใกล้วันตัดสินว่าใครจะได้เป็น ผบ.ทอ. บรรยากาศก็ยิ่งเข้มข้น

และในระหว่างนี้ กว่าจะถึงวันโผคลอด กองทัพอาจระบมจากการจัดโผทหารครั้งนี้

เพราะนอกจากต้องเลือกปลัดกลาโหม ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ.คนใหม่แล้ว ยังรวมทั้งเลขาฯ สมช.ด้วย ที่ทุกเก้าอี้ล้วนต้องทำศึกด้วยกันทั้งสิ้น