นพมาส แววหงส์ : THE SECRET LIFE OF PETS “หนังของคนรักสัตว์”

นพมาส แววหงส์

พวกสัตว์เลี้ยงตามบ้านทำอะไรกันบ้างเวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่

นี่คือชีวิตของพวกมันที่พวกมนุษย์เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายไม่ได้ล่วงรู้

ตัวละครหลักคือ แม็กซ์ (เสียงของหลุยส์ ซี.เค.) หมาพันธุ์เทอร์เรียตัวเล็กๆ ที่ผูกพันเหลือเกินกับเจ้าของ เคที่ แม็กซ์คิดว่าเคที่คือ “เนื้อคู่” ของมัน และไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเคที่ต้องออกจากบ้านไปไหนก็ไม่รู้ทุกวัน ตอนเช้า กว่าจะกลับก็ตกเย็น ทิ้งให้มันอยู่ลำพังในอพาร์ตเมนต์หรูในแมนฮัตตัน

วินาทีที่เคที่เดินออกจากบ้าน ปิดประตูตามหลัง แม็กซ์จะนั่งแหงนหน้าจ้องมองบานประตูเป๋ง รอเวลาให้เคที่ไขกุญแจเปิดกลับเข้ามา

สัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในห้องชุดของอาคารเดียวกัน มีชีวิตของตัวเองในระหว่างเจ้าของไม่อยู่ในลักษณะแตกต่างกันไป เช่น สโนว์บอลล์ แมวตัวอ้วนกลม เอาแต่เปิดปิดตู้เย็นดูไก่อบทั้งตัว หรือขนมเค้กทั้งก้อน เลียปากหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ละเมิดกฎแอบกินอาหารที่เจ้าของไม่ได้ให้ และในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหว ห้ามความยั้งคิด สวาปามเข้าไปจนเรียบวุธ…

ความหวานชื่นของความสัมพันธ์ระหว่างหมากับเจ้าของ ระหว่างแม็กซ์กับเคที่ ต้องสะดุดลง (ในความรู้สึกของแม็กซ์) เมื่อเคที่พาหมาฮาวนด์ตัวเบ้อเริ่มขนรุงรัง ชื่อ ดุ๊ก (เสียงของ เอริก สโตนสตรีต) กลับมาบ้านด้วยจากคอกหมาเร่ร่อนที่เทศบาลจับได้ เพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนกับแม็กซ์

ซึ่งทำให้แม็กซ์หมดความสุข จนคิดหาวิธีกำจัดดุ๊กให้พ้นไปจากชีวิตคู่หนึ่งคนหนึ่งตัวที่อยู่กันอย่างแสนสุข (จากมุมของหนึ่งตัว)

ระหว่างการออกไปเดินและวิ่งเล่นในสวนสาธารณะตามปกติ ด้วยความเลินเล่อของหนุ่มที่รับจ้างพาหมาไปเดิน ซึ่งมีหมาอยู่ในความดูแลกว่าสิบตัว แม็กซ์กับดุ๊กบังเอิญหลุดหายไป

ทั้งสองออกผจญภัยไปด้วยกันในมหานครนิวยอร์ก ฝ่าฟันศัตรูร่วมกัน ทั้งฝูงแมวอันธพาล เจ้าหน้าที่เทศบาลที่คอยจับหมาจรจัดไป และที่ร้ายที่สุดคือ แก๊งสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งมีนิวาสสถานอยู่ใต้ดินในท่อระบายน้ำของเมือง

ในการผจญภัยฝ่าภยันตรายไปด้วยกันนี้ แม็กซ์และดุ๊กก็เริ่มผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นด้วยมิตรภาพที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

ฟังดูคล้ายๆ หนังการ์ตูนหลายๆ เรื่องที่เคยดูมานะคะ ที่นึกออกตอนนี้คือ Toy Story ซึ่งมีความคล้ายคลึงอย่างน่าสะดุดใจ เพียงแต่เปลี่ยนจาก “ชีวิตลับ (ที่มนุษย์ไม่ได้รู้)” ของของเล่นที่มีเจ้าของ เป็นชีวิตลับของสัตว์เลี้ยงในครอบครอง

ของเล่นพูดได้ หมาแมวนกต่างๆ ก็พูดได้เหมือนกัน และทำอะไรอย่างที่มนุษย์ทำกัน

อริสโตเติลเคยพูดไว้ว่าละครเป็น “การเลียนแบบการกระทำ” ซึ่งมองในแง่นี้แล้ว ไม่ว่าตัวละครจะเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือสัตว์ หรือสิ่งของ หรืออะไรที่ไม่ได้มีอยู่จริงในโลก เมื่อมาปรากฏอยู่ในหนังละครแล้ว ก็จะต้องมีการกระทำตามแบบของมนุษย์ทั้งนั้น ดังนั้น เราจึงเห็น “อีที” รักและผูกพันกับเด็กมนุษย์ พวกสัตว์รักและอิจฉากันตามแบบมนุษย์ หรือของเล่นมีความคิดและความรู้สึกเยี่ยงมนุษย์

อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีเรื่องราวคล้ายกันแค่ไหน The Secret Life of Pets ก็ไม่ใช่ Toy Story ซึ่งมีความแปลกใหม่น่าตื่นตาอยู่มาก และอยู่ในกลุ่มผู้บุกเบิกให้วงการหนังการ์ตูนก้าวสู่ยุคใหม่ต่อจากยุคของดิสนีย์

ขอบอกว่าดูหนังตัวอย่างของ Pets ซึ่งออกมาหลายเดือนก่อนหน้า แล้วนึกว่าเรื่องนี้ต้องดูแน่นอน แล้วสำหรับคอลัมน์อาทิตย์นี้ยังเลือกเขียนแทน Suicide Squad ซึ่งเป็นหนังฟอร์มใหญ่โปรโมตแรงกว่ามาก

ทว่า ฉากเด็ดๆ ไปรวมอยู่ในหนังตัวอย่างหมดแล้วค่ะ ความรู้สึกจึงสรุปได้เหมือนสำนวนที่ว่า “ไปมาแล้ว เห็นมาแล้ว” ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบหนังขึ้นกว่าเดิมเลยสักนิด แถมยังมีหลายประเด็นที่ออกจะ “หลุด” หรือไม่น่าจะใส่เข้ามา

ตัวอย่างเช่น ฉากในโรงงานไส้กรอก ที่แม็กซ์กับดุ๊กผู้หิวโหยตามกลิ่นโชยมาตามลมจนเข้าไปสวาปามเสียท้องกาง เป็นต้น ไม่รู้ว่าใส่เข้ามาทำไมให้งงเล่น ขัดจังหวะการเดินหน้าของพล็อตไปพักใหญ่

อีกอย่างคือการที่พวกสัตว์ทำอะไรเหมือนมนุษย์และท่ามกลางมนุษย์ เช่น ขับรถได้ ตรงนี้ “หลุดโลก” เกินไปค่ะ ในเมื่อสมมติฐานของหนังคือ ชีวิตลับของสัตว์ที่มนุษย์ไม่รู้ ไม่น่าจะเลยเถิดไปถึงความสามารถในการขับรถหลบหลีกการจราจรจนเกิดความวายป่วงในบางครั้ง และนั่งรถแท็กซี่ข้ามเมืองเพื่อกลับบ้านให้ทันมารอรับเจ้าของในตอนเย็น

ดูแล้วเลยรู้สึกแปร่งๆ ค่ะ เหมือนคนเขียนบทจะยังคิดได้ไม่ถึงขั้นตกผลึก

แต่ที่ชอบอย่างหนึ่งคือ สารในเรื่องที่บอกว่า สัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งจะกลายเป็นสัตว์ดุร้าย และมุ่งร้ายหมายขวัญต่อพวกมนุษย์ ซึ่งน่าจะทำให้คนที่รักสัตว์ชั่วครู่ชั่วยามคิดได้ว่าถ้าไม่พร้อมและไม่สามารถดูแลเอาใจใส่มันได้ ก็อย่าริเลี้ยงเสียเลย

มีหนังการ์ตูนสั้นเจ็ดนาทีฉายก่อนหนังเรื่องนะคะ และน่ารักมากค่ะ เป็นเรื่องของพวก “มินเนียน” มินเนียนนี้เป็นตัวละครที่เกิดจากหนังการ์ตูนเรื่อง Despicable Me และเกิดฮิตติดตลาดจนกลายเป็นหนังเรื่องในตัวเอง มินเนียนเป็นพวกที่เกิดมาเป็นลูกกระจ๊อก หรือลูกสมุนของผู้ร้าย และมีรูปร่างหน้าตาเหมือนแคปซูลยาที่สวมแว่นตา

ในหนังสั้น เหล่ามินเนียนอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง ดูโฆษณาขายเครื่องปั่นน้ำผลไม้ที่เชิญชวนแบบการขายของทางทีวี มินเนียนรู้สึกอยากได้มาไว้สักเครื่อง ไม่รู้จะไปหาเงิน 19.99 ดอลลาร์ที่ไหนมาซื้อ พวกเขาจึงไปของานทำจากคนแก่ในบ้านใกล้ๆ และเสนอบริการตัดหญ้าจัดสวนให้ ซึ่งสร้างความวุ่นวายโกลาหลและกลายเป็นความบันเทิงสุดๆ แก่คนชราที่ว่าจ้าง

เมื่อจบวัน เหล่าคนชราก็ขอบคุณพวกเขาที่มาสร้างความสนุกสนานให้ และจ่ายค่าจ้างด้วยโหลเศษเหรียญเพนนีสองพันเหรียญ (เท่ากับยี่สิบดอลลาร์) เท่ากับที่พวกมินเนียนต้องการพอดี

ในบ้านมินเนียน เครื่องปั่นน้ำผลไม้มาตั้งอยู่ในบ้าน และพวกเขากำลังใช้ประโยชน์อย่างดีอกดีใจ ขณะนั้นเองจอทีวีก็ปรากฏโฆษณาชวนซื้อสินค้าแบบยากจะต่อต้านอีกอัน เป็นนักขายคนเดิม มาเสนอขายเครื่องปั่นน้ำผลไม้ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม คือมีมือกลค่อยช่วยผ่อนแรงงานมนุษย์

ซึ่งทำให้พวกมินเนียนต้องนึกกันอีกว่าจะหาเงินที่ไหนมาซื้ออีก

นอกจากความวุ่นวายสนุกสนานแบบหนังการ์ตูนแล้ว หนังสั้นๆ เรื่องนี้ยังเป็นคำวิพากษ์สังคมอย่างเจ็บแสบในเรื่องการเชิญชวนล่อให้ผู้บริโภคตาโตอยากได้สินค้าที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย

ผู้เขียนติดใจหนังสั้นนิดเดียวเรื่องนี้มากกว่าหนังใหญ่เสียอีกค่ะ

THE SECRET LIFE OF PETS
กำกับการแสดง

Yarrow Cheney, Chris Renaud

เสียงพากย์
Loius C.K.
Eric Stonestreet
Albert Brooks
Kevin Hart
Jenny Slate