นพมาส แววหงส์ : OUR KIND OF TRAITOR “คนทรยศ”

นพมาส แววหงส์

จอห์น เลอ การ์เร เป็นเจ้าแห่งนิยายจารชนในโลกของวงการวรรณกรรมร่วมสมัย ซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน เอียน เฟลมิ่ง เคยครองตำแหน่งในฐานะผู้สร้างสรรค์ เจมส์ บอนด์ ยอดสายลับเจ้าของรหัส ศูนย์ศูนย์เจ็ด ที่คนรู้จักกันทั่วโลก

หนังที่สร้างจากหนังสือของ เลอ การ์เร อาจไม่เข้าถึงตลาดมากเท่า เจมส์ บอนด์ แต่หลายเรื่องก็ได้รับยกย่องในแวดวงนักวิจารณ์และทำให้ศิลปินหลายคนได้รับรางวัลสำคัญๆ ไปพอดู

อาทิ Tinker Tailor Soldier Spy (แกรี่ โอลด์แมน) The Constant Gardener (เรฟ ไฟน์ กับ เรเชล ไวส์) และ The Spy Who Came in from the Cold (ริชาร์ด เบอร์ตัน กับ แคลร์ บลูม) ตลอดไปจนถึง The Tailor of Panama (เพียร์ซ บรอสนัน)

ตอนนี้ The Spy Who Came in from the Cold ก็กำลังนำมาสร้างใหม่หลังจากความสำเร็จเมื่อครึ่งศตวรรษมาแล้ว

ใน Our Kind of Traitor เพอร์รี่ (ยวน แม็กเกรเกอร์) อาจารย์สอนวิชากวีนิพนธ์ในมหาวิทยาลัยที่ลอนดอน กับเกล (เนโอมี แฮร์ริส) กำลังอยู่ในระหว่างการพักผ่อนเพื่อรักษาชีวิตคู่ที่อยู่กันมาสิบปี ที่มาร์ราเคช ประเทศโมร็อกโก

การพักผ่อนครั้งนี้ไกลจากความหวานชื่นของฮันนีมูนครั้งที่สอง และเห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของฝ่ายชาย ซึ่งต้องพยายามมากเป็นพิเศษที่จะเอาใจภรรยา

ต่อคำถามที่ว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยร่ำรวยขนาดมาเที่ยวพักร้อนได้จนถึงโมร็อกโกทีเดียวหรือ เพอร์รี่ตอบว่า ภรรยาเขาเป็นทนายความที่มีรายได้ดี

และการมาครั้งนี้ก็เป็นเรื่องกึ่งงานกึ่งพักผ่อน ซึ่งทำให้เกลต้องทิ้งเพอร์รี่ให้นั่งเหงาอยู่คนเดียวเป็นบางวัน

และทำให้เพอร์รี่ตกเป็นเป้าสำหรับลูกสมุนคนสำคัญของขาใหญ่มาเฟียรัสเซีย ในนาม “เดอะ พรินซ์” เมื่อเปิดเรื่อง เราเห็นพรินซ์สั่งฆ่าล้างครัวคนที่เขาคิดว่าทรยศอย่างเยือกเย็นโหดเหี้ยม ในฉากที่ติดตากลางหิมะขาวโพลน ทั้งพ่อแม่และลูกสาววัยรุ่นที่งงงันจนเปิดประตูรถลุยหิมะหนีไป ทั้งๆ สวมชุดชีฟองบางเบา และสมุนจอมโหดของพรินซ์เดินถือเสื้อโค้ตตามไปถามว่าไม่เอาเสื้อโค้ตไปด้วยเหรอ ก่อนจะจัดการ “เก็บ” เธอซึ่งๆ หน้าโดยไร้อารมณ์อย่างสิ้นเชิง

ฉากนี้บอกให้รู้ว่าแก๊งเจ้าพ่อที่เพิ่งเปลี่ยนมือมาสู่ “เจ้าชาย” นี้ จัดการกับคนทรยศอย่างฆ่าล้างโคตร ซึ่งจะเป็นเครื่องเตือนใจอันน่าหวาดผวาสำหรับคนที่คิดจะทรยศต่อไป

ดีม่า (สเตลลัน สการ์สกอร์ด) ซึ่งทำหน้าที่ฟอกเงินให้มาเฟียแก๊งนี้ คือบุคคลที่กำลังจะต้องเจอกับชะตากรรมแบบนั้น

และนี่ทำให้ดีม่าหมดท่าจะต้องขอความช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าชาวอังกฤษที่เจอกันในระหว่างดินเนอร์ที่มาร์ราเกช เพื่อทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้เขา เพียงแค่รับข้อมูลในแท่งยูเอสบีเล็กๆ ไปส่งให้หน่วยสืบราชการลับเอ็มไอซิกซ์ในอังกฤษ เพื่อขอแลกข้อมูลอันมีค่ามหาศาลกับการลี้ภัยในอังกฤษของเขาและครอบครัว

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เพอร์รี่แอบทำให้ลับหลังภรรยา โดยคิดว่าช่วยเพียงแค่นั้นก็หมดเรื่องกันไป ต่อไปก็เป็นเรื่องของเอ็มไอซิกซ์ที่จะติดต่อกับสมุนมาเฟียที่คิดจะผละเรือหนีเองแล้ว

 

ทว่า ทุกสิ่ง…การกระทำเล็กน้อยเพียงใด…ย่อมมีผลลัพธ์ที่จะตามมาทั้งนั้น ดังที่เกลโมโหโทโสใส่เพอร์รี่ในตอนแรกที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด และพาตัวเองเข้าสู่ความยุ่งยากที่จะเป็นภัยแก่ตัวเอง

แต่นี่คือเรื่องของคนธรรมดาที่มีศีลธรรมและความถูกต้องในใจจนไม่ยอมเบือนหน้าไปทางอื่น ทำไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อเห็นคนเดือดร้อน ดังเช่นในช่วงแรกๆ ที่เพอร์รี่ตรงเข้าช่วยผู้หญิงที่กำลังถูกข่มเหง โดยไม่ได้นึกเลยว่าคู่ต่อสู้เขาตัวใหญ่แค่ไหน

และเป็นเหตุให้ดีม่าไว้ใจยอมวางชีวิตไว้ในมือเพอร์รี่

ซึ่งพาเราไปสู่สายลับของเอ็มไอซิกซ์ ที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเรื่องต่อไป เพอร์รี่นำข้อมูลและข่าวสารไปมอบแก่เฮ็กเตอร์ (เดเมียน ลูวิส ที่โด่งดังจากหนังชุดระทึกใจเรื่อง Homeland ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ที่ผู้เขียนติดตามดูจนถึงปีที่สาม ซึ่งตอนนั้นลูวิสหมดบทบาทไปแล้ว)

แคแร็กเตอร์ของเฮ็กเตอร์อาจเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งในหนังก็ได้ เพราะเขาทำอะไรอย่างบุ่มบ่าม และด้วยประเด็นความแค้นส่วนตัว แม้ว่าจะไม่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการต่อในกรณีของคนฟอกเงินในมาเฟียรัสเซีย ขอแลกข้อมูลลับกับการลี้ภัยและคุ้มครอง แต่เฮ็กเตอร์ก็ทำลงไปด้วยพลการ

และแถมมีฉากที่จารชนที่ได้รับการอบรมมาแบบเขา ไม่น่าจะทำที่สุด คือการเดินเข้าไปอย่างท้าทายในงานเลี้ยงของนักการเมืองอดีตเจ้านายที่ประพฤติมิชอบ ทั้งนี้ ก่อนปฏิบัติการสำคัญที่จะออกหัวออกก้อยก็ยังไม่รู้

ผู้เขียนคิดว่าแคแร็กเตอร์ของ เนโอมี แฮร์ริส ก็น่าจะลึกกว่านี้ได้นะคะ เพราะดูเหมือนจะวางไว้ให้ขยายแคแร็กเตอร์ของพระเอกให้ลุ่มลึกและมีพัฒนาการ แต่เอาเข้าจริง กลับดูเป็นกลางๆ ไม่มีอะไรมาก แกว่งจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลหนุนหลังเพียงพอ

ตัวละครที่ได้ใจคนดูไปมากที่สุด ทั้งๆ ที่มีแบ็กกราวด์เป็นผู้ร้ายชัดเจน คือ ดีม่าที่อยู่ในมือของ สเตลลัน สการ์สกอร์ด หลังจากชีวิตวัยเด็กอันยากลำบากจนต้องเข้าไปอยู่ในแวดวงอุบายของเหล่ามาเฟีย มาจนถึงชีวิตสุขสบายพรั่งพร้อม แต่ต้องเสียวสันหลังวาบอยู่แทบทุกวินาที เขายอมรับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไร้ความหมาย สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขาคือครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่เขามุ่งหวังจะทำให้ได้ กล่าวคือ พาครอบครัวไปอยู่ในโลกที่ปลอดภัย พ้นจากเงื้อมมือของจอมอันธพาล

และดีม่ายังมีทีเด็ดสุดท้าย กลายเป็นจุดตลบกลับอีกครั้งของเรื่อง หลังจากเรื่องราวพลิกผันไปจนดูเหมือนว่าคนชั่วจะยังคงลอยนวลครองเมืองอยู่

แม้ว่าจะยังมีช่องโหว่ในบทที่ดูเป็นจุดอ่อนที่ท้าทายต่อเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็เป็นหนังที่โดยรวม สนุกเร้าใจแบบหายใจไม่ทั่วท้อง นั่งไม่ติดที่พอควร

มีตัวละครที่เดาไม่ได้ว่าจะออกหัวออกก้อย และมีภาพสวยๆ ให้ชื่นชอบในหลายๆ ฉาก

ที่ผู้เขียนชอบอีกตอนคือโลเกชั่นทั้งที่เป็นเซฟเฮ้าส์ของเอ็มไอซิกซ์ในเทือกเขาแอลป์ของสวิส

และฉากที่เลือกให้ตัวละครไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของไอน์สไตน์ในกรุงเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีภาพที่ยังตรึงตราและชวนคิดค่ะ

ไม่เสียเวลาไปดูค่ะ

OUR KIND OF TRAITOR
กำกับการแสดง
Susanna White

นำแสดง
Ewan McGregor
Naomie Harris
Stellan Skarsgard
Damian Lewis
Jeremy Northam
Grigority Dobrygin