เผยแพร่ |
---|
การนำ “มาตรา 44” ออกมายับยั้ง “พระราชกำหนด” อันเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวกำลังกลายเป็น “จุดตัด”อย่างสำคัญ
จุดตัดในทาง “เศรษฐกิจ”
จุดตัดอันส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งในทาง “การเมือง” และในด้าน “บริหารจัดการ”
เท่ากับยอมรับบทบาทของ “แรงงานต่างด้าว”
เรื่องนี้ไม่มีเสียงร้องจาก “แรงงานต่างด้าว” ตรงกันข้าม กลับมีเสียงร้องจาก “นักธุรกิจ” ผู้ประกอบการ
เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง
สะท้อนให้เห็นว่ากระทรวงแรงงานมีความเข้าใจในความเป็น จริงของ “แรงงานต่างด้าว” อย่างไม่ลึกซึ้ง เพียงพอ
เพราะหากเข้าใจคงไม่เป็นอย่างนี้
กล่าวในทางการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการน่าสนใจว่าพระราชกำหนดนี้มีความเป็นมาอย่างไร
อาจคิดในเรื่อง “เทียร์”
อาจคิดว่าการออก “พระราชกำหนด” จะมีผลทำให้การจัดอันดับในเรื่องแรงงานและการค้ามนุษย์ดีขึ้น
แต่มองข้าม “ความเป็นจริง”
ความเป็นจริงที่ในปัจจุบัน “แรงงานต่างด้าว” จาก พม่า กัมพูชา และลาว เป็นแรงงานพื้นฐานของสังคมไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ธุรกิจขนาดเล็ก” “ขนาดกลาง”
เสียงร้องที่ดังมาจากธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก มิใช่จากธุรกิจขนาดใหญ่
เจ็บกันถ้วนหน้า
การชักเข้าชักออกอย่างที่เห็นในกรณี “แรงงานต่างด้าว” มิได้เป็นตัวอย่างแรก ตัวอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้คือ กรณี “รถกระบะ”
เริ่มต้นจากความปรารถนาดี แต่ไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยอย่างเพียงพอ
ผลก็คือ เดือดร้อนกันทุกหย่อมย่าน
ผลก็คือ จำเป็นต้องผ่อนปรนเหมือนกับที่ต้องผ่อนปรนในกรณีของ “แรงงานต่างด้าว”
คำสั่งต่างๆต้องเริ่มต้นจาก “ความเป็นจริง”
ความเป็นจริงของรถกระบะ ความเป็นจริงของแรงงาน