เครื่องเคียงข้างจอ : ควันหลงสงกรานต์ / วัชระ แวววุฒินันท์

วัชระ แวววุฒินันท์

 

ควันหลงสงกรานต์

 

สงกรานต์ของไทยปีนี้ถูกรัฐบาลกำหนดให้เป็นแบบ New Normal คือเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว ทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวได้ แต่งดการชุมนุมเล่นสาดน้ำประแป้งกัน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายโควิด-19

ก่อนจะปิดสงกรานต์ก็เหมือนมีบททดสอบจากคลัสเตอร์ใหม่ๆ ขึ้นมาหลายแห่ง จนเกิดการกักตัว ตรวจโรค เช็กไทม์ไลน์ผู้เกี่ยวข้องกันจ้าละหวั่น

ในขณะเดียวกันก็เริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วเข้ามาได้ โดยมีจังหวัดท่องเที่ยวดังๆ เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวแบบ New Normal นี้ ที่กำหนดให้กักตัวในโรงแรมแค่ 7 วันแล้วก็ออกไปเที่ยวที่อื่นได้

เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ สนใจ เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะมาอยู่แล้ว

 

บรรยากาศของโควิดทั่วโลกดูไบโพลาร์ยังไงไม่รู้ พอมีข่าวว่าได้มีการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชากรของแต่ละประเทศกันมากขึ้นก็รู้สึกผ่อนคลายลง เดี๋ยวก็คงดีขึ้น ผู้คนรู้สึกกันยังงั้น พร้อมกับการ์ดที่ตกลง ความรู้สึกเริ่มเป็นบวก

แต่โลกก็ได้เห็นตัวเลขการติดเชื้อที่ก็ยังคงสูง จนเกิดการล็อกดาวน์ระลอกใหม่กันในหลายประเทศแล้ว เลยสงสัยว่าตกลงมันดีขึ้นหรือยัง หรือว่ากำลังจะสู่วิกฤตครั้งใหม่จนต้องใช้ยาแรงกันอีกหน ความรู้สึกนั้นกลับติดลบขึ้นมาทันที

หลายคนก็เลยพลอยเป็นห่วงว่าในช่วงสงกรานต์ของไทยเรา อาจจะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นมา

ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีผู้ลี้ภัยจากฝั่งเมียนมาข้ามมาประเทศไทยมากขึ้น เกรงจะเกิดการติดเชื้อจากการเล็ดลอดเข้าประเทศ เพราะยากต่อการควบคุม

สงกรานต์ปีนี้จึงไม่ธรรมดา ทั้งโควิด ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งม็อบการเมืองภายใน และแรงกดดันจากภายนอกจากเรื่องม็อบการเมืองและผู้ลี้ภัย

 

ร้อนไปถึง “นางสงกรานต์” ปีนี้ที่คงจะทำหน้าที่ได้ไม่ค่อยสง่าผ่าเผยนัก ด้วยบรรยากาศที่ไม่ปกติเยี่ยงนี้ ปีหนึ่งมีครั้งหนึ่งก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่นางสงกรานต์ประจำปีได้อย่างสุดสุด น่าอารมณ์เสียนักเชียว

วันสงกรานต์ 13 เมษายนปีนี้ ตรงกับวันอังคาร “นางสงกรานต์” ประจำวันอังคารนี้มีนามว่า “รากษสเทวี” ตามด้วยรายละเอียดว่า

“นางนั้นทรงพาหุรัด ทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนูศร เสด็จนอนหลับตา มาเหนือหลังวรวาหะ (สุกร) เป็นพาหนะ”

เราวาดภาพและคิดตามดู ก็ชวนให้สงสัยว่าทำไมเสด็จมาบนหลังหมู สัตว์อื่นที่ดูดีมีความสง่างามเวลานั่งก็ออกเยอะ ทำไมไม่เลือกนั่ง แล้วเวลานั่งหลังหมูมันคงจะแกว่งไปแกว่งมา เพราะหมูมันไม่นิ่ง เผลอๆ นางรากษสเทวีนั่นแหละจะพลัดตกจากหลังหมูได้เพราะนอนหลับตาด้วย

หากจะให้คิดว่านางสงกรานต์ฉบับ New Normal ควรจะเป็นอย่างไรจึงจะเข้ากับสถานการณ์ คงจะออกมาเป็นแบบนี้

 

นางสงกรานต์ปีนี้ชื่อว่า “โคโรน่าเทวี” นุ่งชุด PPE แบบคลุมทั้งตัว เพื่อป้องกันโควิด-19 ใบหน้าสวมหน้ากากอนามัย มือซ้ายถือเข็มฉีดยา ที่รอวัคซีนล็อตต่อไปอยู่ มือขวาถือโทรศัพท์มือถือ เตรียมโหลดแอพพ์ “คนละครึ่ง” หรือแอพพ์อื่นๆ ของรัฐบาลที่จะทยอยออกมา พาหนะนั้นน่าจะให้นางนั่งบนรถถัง เพราะดูมั่นคงแข็งแรง และคงอยู่ได้ไปอีกนาน

คำทำนายของสงกรานต์ปีนี้บอกไว้ว่า

“จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิงภัยและโจรผู้ร้าย ผู้คนจะเจ็บไข้นักแล, วันพุธเป็น ‘วันเนา’ ข้าวจะแพง คนทั้งหลายจะได้รับความทุกข์ร้อน แม่ม่ายจะพลัดที่อยู่

วันพฤหัสบดีเป็น ‘วันเถลิงศก’ พ่อค้าพาณิชย์ทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่างๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแล, นางสงกรานต์ ไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี”

 

หลายท่านคงได้อ่านได้ฟังกันแล้ว ส่วนจะเชื่อหรือเป็นจริงแค่ไหนก็ต้องดูกันต่อไป

แต่หลายอย่างก็ดูใกล้เคียง อย่าง “ข้าวจะแพง” นั้น จริงๆ มันข้าวยากหมากแพงมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ปีนี้ก็ยังคงแพงอยู่ พูดอีกก็ถูกอีก

“จะเกิดเพลิงภัยและโจรผู้ร้าย” ก็ไม่น่าจะผิดไปนัก เพราะข่าวที่ออกมาให้ได้เห็นกันบ่อยๆ ก็ชกชิงวิ่งราว ปล้นร้านทอง โกงกันทุกสารพัดแบบ ทั้งนี้ก็ด้วยสาเหตุจากเศรษฐกิจไม่ดีนั่นเอง

“ผู้คนจะเจ็บไข้” ก็ที่เฝ้าระวังกันอยู่ทุกวันนี่ไง ว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิดในแต่ละวันจะมากน้อยเท่าไหร่

แต่ที่สงสัยคือที่ว่า “พ่อค้าพาณิชย์ทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่างๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแล”

อันนี้นึกไม่ออกว่าจะเป็นเช่นนั้นได้หรือ เพราะส่งออกของไทยตอนนี้ก็เจ็กอั้กเอาการ เศรษฐกิจบ้านเขาก็กรอบพอกัน มีทั้งยกเลิกออร์เดอร์ กดราคา จนหยุดทำการค้ากันไปหลายส่วน แล้วจะเป็นพ่อค้าพาณิชย์ส่วนไหนกันหรือ

 

นอกจากเรื่องการแต่งกาย เรื่องคำทำนายแล้ว นางสงกรานต์ปีนี้ยังต้องปรับตัวให้ทันยุคทันสมัยด้วย โดยการทำคลิป cover ลง tiktok ตามกระแสนิยมด้วย

นางเลือกเพลงดังของเบิร์ด ธงไชย มาทำ ชื่อเพลง “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” ที่มีเนื้อร้องว่า

“…กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ไปต่อไปก็ไปไม่ถึง

เหมือนมีอะไรที่ดึง ไม่ให้เราเลือกทางใด…”

ที่เลือกเพลงนี้ ด้วยเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ดี เพราะทุกฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอยู่ทางการเมืองก็คงจะรู้สึกกันยังงี้

ฟากรัฐบาลที่ลงทุนทำทุกวิถีทางให้อยู่ในอำนาจมาได้ตั้ง 7 ปีแล้ว จะให้เลิก เก็บกระเป๋ากลับบ้านโดยการยุบสภาง่ายๆ ก็คงไม่ยอมทำ จนกว่าจะถึงตาจนจริงๆ

ส่วนที่จะเดินต่อไปก็รู้อยู่เต็มอกว่ายากเย็นแค่ไหน ทั้งศึกในรัฐบาลเอง ทั้งศึกนอกคือม็อบ ทั้งศึกโควิด ศึกเศรษฐกิจ ศึกความมั่นคง

โอ๊ย…เป็นลมสิบตลบฟื้นมายังไม่มีอะไรดีขึ้น

ฟากม็อบราษฎรและสารพัดม็อบ ที่ก่อตัวจุดไฟทางการเมืองโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ติดขึ้นมาแล้ว แถมมาไกลสุดโต่งเพราะเปิดหน้าไพ่เล่นของแรงทั้งนั้น จู่ๆ จะให้ยูเทิร์นกลับบ้านไปเรียนหนังสือก็คงลำบาก

ครั้นจะเดินหน้าต่อก็ยังไม่รู้ว่าจะสาหัสแค่ไหน ด้วยสารพัดคดีที่รออยู่

ด้วยเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมที่ทำให้ต้อง “เล่นท่ายาก” ขึ้นทุกวัน เป็นลมสิบตลบฟื้นมา ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทะลุฟ้าได้จริงไหม

 

สงกรานต์ปีนี้ ร้อนระอุก็จริง แต่ภาวะทางการเมืองระอุกว่า เรื่องสภาพอากาศยังมีฝนตกลงมาช่วยบรรเทาความร้อนลงได้บ้าง

แต่เรื่องสภาพบ้านเมือง ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาช่วยบรรเทา

การเมืองก็ต้องเข้ม แต่อย่าลืมว่าโควิดก็ต้องข้น ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาใกล้ชิดอยู่ เพราะได้พิสูจน์แล้วว่ามันทำร้ายโลกใบนี้มาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว และยังไม่มีท่าทีอ่อนแรงลงเลย

“การ์ดอย่าตก” ยังคงใช้ได้อยู่ อันนี้พูดถึงโควิดนะครับ ไม่ใช่เรื่องการเมือง…แฮ่ม