ชีวิตโบกปูน : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ผมเพิ่งไปสัมภาษณ์ คุณมานิต อุดมคุณธรรม มาครับ

สนุกมาก

และสวยมาก

“สวย” เพราะไปสัมภาษณ์ที่โครงการสวอนเลค เขาใหญ่

คุณมานิต เป็นเจ้าของโครงการสวอนเลคที่ดึง “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

พื้นที่ 200 ไร่ ทำเป็นป่าและทะเลสาบ 7 ลูก รวม 140 ไร่

มีพื้นที่ขายแค่ 60 ไร่

เขาใส่ต้นไม้ใหญ่ไป 40,000 ต้น

ก้อนหินใหญ่ๆ อีกไม่รู้เท่าไร

ปลาคาร์พ 20,000 ตัว

หงส์อีกฝูงใหญ่

และอื่นๆ อีกมากมาย

คุณมานิตบอกว่าต้นไม้ใหญ่ต้นละไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท

40,000 ต้น ก็ 800 ล้านบาท

…บ้าไปแล้ว

เรื่องโครงการก็สนุก แต่ที่ผมชอบมากกว่าคือเรื่องชีวิตและวิธีคิดของเขา

คุณมานิตเป็นคนก่อตั้งห้างสรรพสินค้าโรบินสัน

ก่อนที่จะขายให้ “เซ็นทรัล” หลังจากเจอวิกฤตค่าเงินบาทลอยตัวเมื่อปี 2540

ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหาร “โฮมโปร”

คุณมานิตเป็นคนชอบออกกำลังกาย

เคยวิ่งมาราธอนครั้งแรกตอนอายุ 40 ปี

วิ่งมาแล้ว 3 ครั้ง

ตอนที่เขาวิ่งครั้งแรก คุณมานิตสมัครทั้งฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร และมาราธอน 42 กิโลเมตร

เอาป้าย “ฮาล์ฟ” ติดที่เสื้อก่อน

แล้วเอาป้าย “มาราธอน” ติดทับด้านนอก

กะว่าถ้าวิ่งไปสักพักไม่ไหวก็จะเอาป้าย “มาราธอน” ออก

เหลือแค่ “ฮาล์ฟมาราธอน”

21 โลก็พอแล้ว

แต่สุดท้าย “มานิต” ก็ตัดสินใจสู้ต่อ

ช่วงท้ายๆ แรงหมด เหลือแต่ใจ

แต่ก็สามารถเข้าเส้นชัย 42 กิโลเมตร

เขาบอกว่าถ้าใครผ่านการวิ่งมาราธอนได้

คนนั้นจะทำอะไรก็ได้ในโลกนี้

ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้

“จิตใต้สำนึกของเราเหมือนกับอาลาดินกับตะเกียงวิเศษ”

คุณมานิตเปรียบเปรย

เขาบอกว่าใจเราเหมือนกับ “อาลาดิน”

หยิบตะเกียงวิเศษขึ้นมาถูให้ยักษ์ออกมา

ถ้าใจเราบอกว่ากลัว

ยักษ์ก็จะบอกว่านาย…เอาความกลัวไปเลย

ถ้าใจเราบอกว่าไม่มั่นใจ

ยักษ์ก็จะบอกว่านาย…เอาความไม่มั่นใจไปเลย

ถ้าใจเราบอกว่ามั่นใจ

ยักษ์ก็จะให้ “ความเชื่อมั่น” กับเรา

ตอนอายุ 60 ปี คุณมานิตเคยเครียดหนัก จนเส้นเลือดในสมองแตก

นั่งสมาธิอยู่ดีๆ ก้มลงกราบพระ

พอลุกขึ้นมา แขนข้างขวาไม่มีแรง

ขาซ้ายก้าวไปได้

แต่ขาขวาไม่ตาม

“ตอนนั้นเซ็นเช็คยังไม่ได้เลย มือยกไม่ขึ้น”

ทุกคนตกใจมาก กลัวว่าคุณมานิตจะเป็นอัมพาต

แต่มีคนเดียวที่ไม่เชื่อ

คือ คุณมานิต

เขามั่นใจว่าจะต้องหายอย่างแน่นอน

“ผมไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าตัวเองจะพิการ”

กลับมาบ้าน เอาทรายใส่กระบะ ค่อยๆ เอามือแทงเข้าไปในทรายเหมือนการฝึกวิทยายุทธ์ในหนังจีนกำลังภายใน

เขาต้องใช้มือซ้ายประคองมือขวา

แทงเข้าไปในทรายแล้วยกขึ้น

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ และกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง

เชื่อไหมครับ คุณมานิตใช้เวลาแค่ 4-5 เดือน

ทุกอย่างก็กลับมาปกติ

ถามว่าทำไมถึงหายได้

คำตอบของเขา

“เพราะวิ่งมาราธอน”

“อาลาดิน” ในใจของเขาคงบอกกับเจ้ายักษ์

“ข้าเชื่อว่าจะกลับมาเหมือนเดิม”

ยักษ์คงตอบกลับมา

“เจ้าจงเหมือนเดิม”

หลังจากหายป่วย หลักการใช้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป

คติของเขาคือ คำ 3 คำ

easy, simple และ no condition

ทุกอย่างเรียบง่าย สบายๆ

คุณมานิตบอกว่าคนเราชอบสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเอง

เช่น เพื่อนถามว่าไปเที่ยวกันไหม

คำตอบก็มีแค่ “ไป” หรือ “ไม่ไป”

ถ้าว่าง ถ้าอยากไปก็บอกเขาไปเลยว่า “ไป”

ถ้าไม่อยากไป ก็บอกว่า “ไม่ไป”

ไม่ต้องหาเหตุผลดึงเวลา คิดว่าจะรักษาน้ำใจ

ตอนนี้คุณมานิตชีวิตชัดเจนมาก

“ได้” หรือ “ไม่ได้” ตอบทันที

“คนอื่นเขาจะได้วางแผนต่อไปได้ แทนที่จะมาเสียเวลารอคำตอบจากเรา”

หรือ no condition คือ ถ้าตัดสินใจแล้วก็เดินหน้าเลย

ปิด “ประตูหลัง” และโบกปูนทับด้วย

เพราะถ้าไม่โบกปูนทับ เวลาที่เรากลัว กังวล หรือไม่เชื่อมั่น

เราจะหาทางออกด้วยการเปิดประตูหลัง

วิธีคิดของคุณมานิต คือ ให้เลิกคิดไปเลยว่ามี “ประตูหลัง”

…เดินหน้าอย่างเดียว

ตอนนี้คุณมานิตหันมาปั่นจักรยานออกกำลังกายแทนการวิ่ง

บ้านของเขาอยู่ที่ซอยหลังสวน

ไปสำนักงานที่พลาซ่า แอทธินีก็ปั่นจักรยาน

ไปประชุมที่สาทร ก็ปั่นจักรยาน

วันหยุดก็ปั่นจักรยานออกกำลังกายอย่างจริงจังที่ “สวอนเลค”

ลืมบอกไปว่าคุณมานิตตอนนี้อายุ 72 ปีครับ

คืนนั้นหลังจากสัมภาษณ์ทาง “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ live” เสร็จ คุณมานิตเอ่ยปากชวนผมปั่นจักรยานเล่นตอนเช้า

“กี่โลครับ”

“วันนี้ปั่นไปแล้ว 60 โล พรุ่งนี้เช้าจะไปวังน้ำเขียวสัก 40 โล”

ผมตัดสินใจทันที

แบบ easy, simple

และ no condition

“ไม่ว่างครับ”