มองบ้านมองเมือง/ร้านกาแฟย้อนยุค

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

ร้านกาแฟย้อนยุค

มองบ้านมองเมืองฉบับนี้ จะพาไปมองร้านกาแฟย้อนยุคที่บางแสน ด้วยสถานที่นั้นแปลกตา สวยงาม ไม่เหมือนร้านกาแฟอื่นทั่วไป

ที่ว่าย้อนยุค ไม่ได้หมายถึงร้านกาแฟที่อยู่ในบ้านเก่า ห้องแถวเก่า โรงงานเก่า ตลาดเก่า ที่มีทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ได้หมายถึงร้านกาแฟที่เอาโปสเตอร์เก่า วิทยุ โทรทัศน์ พัดลมเก่า ไม้ฝาประตูหน้าต่างเก่า มาตกแต่ง ที่เห็นอยู่ทั่วไป

ไม่ได้หมายถึงร้านกาแฟที่ขายกาแฟ โอเลี้ยง ชา แบบโบราณที่อ้างกันทั่วไป

แต่ร้านกาแฟนี้ ย้อนยุคสมัยของบ้านเมืองจริงๆ

ใครที่ผ่านไปทำธุระที่ชลบุรี ระยอง หรือท่องเที่ยวที่บางแสน พัทยา คงแวะซื้อของฝากที่หนองมนกันอยู่แล้ว แต่คงไม่รู้จักร้านกาแฟที่ว่านี้ เพราะที่ตั้งไม่ได้อยู่ริมทางหลวง แม้ผู้เขียนจะบอกทางไม่ได้ แต่เชื่อว่า ถามไถ่ชาวบ้าน ก็ไม่มีปัญหา หรือน้องแอพพ์ก็สะดวก

ร้านกาแฟที่ว่านี้ ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ จึงมีที่จอดรถกว้างขวาง จอดได้หลายคัน ยังเหลือพื้นที่หน้าร้านเป็นสนามหญ้าเขียวสวยงาม จึงรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนลิ้มรสกาแฟและขนมหวาน

ตัวอาคารร้านกาแฟอยู่ด้านใน มองเห็นไม่ค่อยชัด ทั้งๆ ที่เป็นรูปวงกลมแปลกตา แต่เมื่อกรุกระจกใสโดยรอบ เลยทำให้มองผ่านเลยไปเห็นทั้งต้นไม้ด้านใน และสะท้อนภาพต้นไม้ที่อยู่โดยรอบ

สถาปนิกและเจ้าของต้องตั้งใจเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้ อาคารที่เป็นรูปวงกลมนั้น จึงมีช่องเปิดโล่งกลาง เว้นที่ให้ต้นไม้ใหญ่

ระหว่างอาคารวงกลมที่มีรูตรงกลางทั้งสอง จะมีหลังคาดาดฟ้าคอนกรีตเชื่อมต่อกัน เพื่อกันแดดกันฝน โดยมีบันไดสำหรับให้ขึ้นไปนั่งเล่นทานกาแฟบนหลังคา แต่อยู่ใต้ต้นไม้

ในบริเวณข้างเคียง ยังมีต้นไม้ใหญ่อีกหลายต้น ทำให้ร้านกาแฟนี้ร่มรื่นกว่าร้านใดๆ ที่เคยพบเห็นมา

วันที่ไปมอง พบว่ามีลูกค้ามากมาย ซึ่งสอบถามแล้วว่าเป็นแบบนี้ทุกวัน และบางวันจะมากกว่านี้ คือ เต็มทั้งในร้านและบนหลังคา จนต้องมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และจัดคิวที่นั่งและแนะนำวิธีสั่งกาแฟ และขนมหวาน

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงได้เรียกขานว่า ร้านกาแฟย้อนยุค

ก็เพราะทุกวันนี้ ไม่มีใครคิดว่า ในอดีตนั้น บริเวณชายฝั่งตะวันออก ที่กำลังจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกในอนาคต เคยเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มาก่อน ทั่วทั้งพื้นที่จากชายฝั่งทะเล ไปถึงเนินเขาที่อยู่ภายใน เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย

อย่างเช่น บริเวณเมืองระยอง เคยมีต้นประดู่ป่าขึ้นหนาแน่น จนผู้คนนำไปเรียกขานเป็นชื่อชุมชนว่า ระหย็อง ที่หมายถึง ต้นประดู่

อย่างเช่น บริเวณศรีราชา เคยเป็นท่าเรือขนส่งไม้ไปขายต่างประเทศ ของบริษัท ศรีมหาราชา จำกัด ด้วยได้รับสัมปทานป่าไม้ ในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ไม้ที่ตัดได้ในป่าภายใน จะขนส่งตามรางรถไฟ มาจนถึงริมทะเล

เพียงแต่ว่า ป่าที่อุดมสมบูรณ์หมดสิ้นไปเกือบหมด กลายเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย ร้านค้า อาคารพาณิชย์ โรงงาน และท่าเรือ ทั่วทุกแห่ง

ดังนั้น บรรยากาศร้านกาแฟ NAMON NOMWAN จึงย้อนยุค ด้วยการเก็บรักษาสภาพป่าที่เคยมีมาก่อน

ต้องขอบคุณเจ้าของร้านและสถาปนิก ที่ร่วมกันอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ไว้ให้คนรุ่นปัจจุบันได้ชื่นชม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์