เผยแพร่ |
---|
การเกิดกรณี”ต้อม-แป้ง”อันเกี่ยวพันไปถึงบทบาทและการเคลื่อนไหวของ”ทราย บุ๊ง” ในเรื่องของเงินบริจาค
สะท้อนทั้ง”ความเปราะบาง”และ”แข็งแกร่ง”ของขบวนการ
เปราะบางเพราะว่าขบวนการนี้สามารถ”เจาะ”เข้ามาง่ายดายอย่างยิ่ง ภายใต้ความร้อนแรงและการไหวเคลื่อนที่แทบมิได้มีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง
ถือเอา”อุดมการณ์”ที่แสดงออกเป็นเครื่องชี้นำ เพียงแค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วเพราะมีความต้องการพวกพ้องเป็นจำนวนมาก
จึงไม่ปลกที่จะมี “นักฉวยโอกาส” บางคนแฝงตัวเข้ามา อาศัยแต่เพียงการพูด การแสดงออกที่ดุดัน สุดขั้ว ถึงอกถึงใจมวลชน ก็เป็นยี่ห้อเรียกร้องคะแนนนิยม
กระนั้น ภายในความเปราะบางของ”ขบวนการ”ก็ใช่ว่าจะไม่มีความแข็งแกร่งดำรงอยู่เพื่อเป็นเกราะคุ้มกัน
เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมก็จะเกิดการคัดสรร ขจัดออกไป
แทบไม่มีความจำเป็นต้องไปเน้นย้ำว่าการเลือกคนเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวจะต้องเป็นอย่างไร เพราะในท่ามกลางการเคลื่อนไหวนั่นแหละจะเป็นเครื่องตรวจสอบได้เป็นอย่างดี
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าการเคลื่อนไหวที่เริ่มโดย”เยาวชนปลดแอก” หรือที่เป็น”คณะราษฎร 2563”หละหลวมอย่างยิ่ง
หละหลวมเพราะถือว่าการแสดงออกในห้วงเดือนกรกฎาคมมาถึงเดือนตุลาคมเป็นบรรทัดฐานในการยืนยันและสถาปนาการเป็น”แกนนำ”ในการเคลื่อนไหว
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากที่เป็น”แกนนำ”จำนวนหนึ่งแล้วที่เป็น “มวลชน”อันไพศาลก็ดำรงอยู่อย่างเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง แทบไม่ขึ้นต่ออะไรทั้งสิ้น
จึงปรากฏข่าวการแทรกซึมเข้ามาของฝ่ายการข่าวไม่ว่าจะเป็นทหารไม่ว่าจะเป็นตำรวจคอยบ่อนเซาะอยู่ตลอดเวลา
มีความจริงที่ว่าทุกการเคลื่อนไหวอีกฝ่ายย่อมจะต้องส่งคนของตนแฝงเข้ามาเพื่อหาข่าวหรือกระทั่งสามารถเป็น”แกนนำ”ได้ก็จะต้องทำ ขณะเดียวกัน ภายในขบวนก็มีการสกรีนเช่นเดียวกัน
“คำพูด”อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ถึงจะดุดันห้าวหาญแค่ไหนก็ตาม “การปฏิบัติ”ต่างหากชี้ขาดทุกสิ่งทุกอย่าง