วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/ตัวแปร ดับฝัน ลี้มกโช้ว

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

ตัวแปร ดับฝัน ลี้มกโช้ว (90)

เหมือนกับจะมีทางเลือก คือ ใน 3 คนนี้ ลี้มกโช้วจะเลือกคนใดคนหนึ่งให้รอดชีวิต แต่การตัดสินใจในขั้นสุดท้ายกลับไม่เป็นไปเช่นนั้น

“เราจะฆ่าคนผู้หนึ่งก่อน ดูว่าเจ้าปวดร้าวรันทดหรือไม่”

เสียงตวาดครั้งหนึ่งทำลายสายพิณขาดไปอีกเส้น 1 พลางตวัดแส้ปัดเป้าหมายมุ่งหวดลงยังศีรษะของเล็กบ้อซัง

ทันใดเอี้ยก่วยยิ้มและถลันออกมาขวาง

“วันนี้พวกเราทั้ง 3 ตกตายพร้อมกันด้วยความเบิกบานสำราญยังประเสริฐเลิศกว่าท่านที่มีชีวิตอยู่ในโลกด้วยความอ้างว้างเดียวดาย เฮียม่วย ซือม่วย พวกท่านเข้ามา”

เที้ยเอ็ง เล็กบ้อซัง พากันเดินถึงข้างเตียง

เอี้ยก่วยใช้มือซ้ายเกาะกุมเที้ยเอ็ง ใช้มือขวาเกาะกุมเล็กบ้อซังไว้ ยิ้มพลางกล่าว

“พวกเราทั้ง 3 ตกตายด้วยกัน บนเส้นทางปรภพ สนทนาหยอกล้อกัน ไยมิใช่เหนือกว่าสตรีโฉดชั่วนางนี้ 10 เท่า”

“ถูกแล้ว ส่าตั่งอันประเสริฐ ท่านกล่าวไม่ผิดแม้แต่น้อย” เล็กบ้อซังกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

เที้ยเอ็งแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน 2 เปียเจ้ม่วยถูกเอี้ยก่วยเกาะกุมมือจิตใจล้วนเคลิบเคลิ้มดื่มด่ำ แย้มยิ้ม 2 มือฉุดดึงหญิงทั้ง 2 เข้าใกล้ให้แอบอิงกับร่าง

ขณะเดียวกัน ในความครุ่นคิดของลี้มกโช้วดำเนินไปอย่างไร

ในความครุ่นคิดของลี้มกโช้ว คือ เด็กน้อยนี้กล่าวไม่ผิด คนทั้ง 3 ตกตายในลักษณะนี้ยังเหนือล้ำกว่าเราซึ่งยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ในโลกไหนเลยมีเรื่องสะดวกดายเช่นนี้

เราต้องให้พวกเขาก่อนตาย เศร้าโศกเสียใจจนวิญญาณแหลกสลาย

ดังนั้น โบกแส้ปัด ปั้นสีหน้าเคร่งเครียด เย็นชา ร้องเพลงเบาๆ ออกมา ยังคงเป็นบทเพลง “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต”

เสียงเพลงคล้ายดัง คล้ายขาดห้วง

ท่วงทำนองละห้อยหวน คล้ายสตรีที่ถูกทิ้งขว้างสะอื้นรำพัน วิญญาณอนาถาร่ำไห้กลางยามวิกาล

มือทั้ง 4 ข้างของทั้ง 3 เกาะกุมกัน รับฟังอยู่ครู่หนึ่ง

ในใจอดบังเกิดความเศร้าเสียใจมิได้ เอี้ยก่วยมีพลังฝึกปรือลึกล้ำกว่า ควบคุมสติสมาธิไว้ได้บนใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้ม เล็กบ้อซังมีใจแข็งกระด้างยากที่จะสะกดความพลุ่งพล่าน ขณะที่เที้ยเอ็งอดหลั่งน้ำตามิได้

เสียงเพลงของลี้มกโช้วยิ่งร้องยิ่งแผ่วเบา

เมื่อถึงตอนท้ายสุ้มเสียงคล้ายสายใยอันละเอียดอ่อนลอยล่องอยู่ในอากาศ คิดรอจนคนทั้ง 3 หลั่งน้ำตาพร้อมกัน

ก็จะโบกสะบัดแส้ปัด

ปลิดชีวิตของทั้ง 3 พร้อมเพรียงกันขณะที่เสียงเพลงเศร้าสร้อยละห้อยหวน ถึงที่สุดที่นอกกระท่อมพลันมีคนผู้หนึ่งหัวร่อดังๆ

ปรบมือเดินร้องเพลงเข้ามา

เสียงเพลงเปล่งจากปากสตรีฟังดูสมควรมีอายุไม่อ่อนเยาว์ แต่ที่ร้องขับขานกลับเป็นบทเพลงเห่กล่อมเด็กทารก

“โยกเยกเอย โยกเยกถึงสะพานท่านยาย

ท่านยายชมข้าแสนวิเศษ

นำขนม นำผลไม้มาแจก

ทานแล้วเสร็จ หยิบติดมือไป”

เสียงเพลงเต็มไปด้วยความหรรษา สำเนียงอันเศร้าโศกของลี้มกโช้วถูกรบกวนในบัดดล

นี่คือตัวแปร นี่คือสภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นอกเหนือความคิด นอกเหนือความคาดหมายของลี้มกโช้ว

ยิ่งร้องยิ่งใกล้ ลดเลี้ยวอยู่หลายครา

เดินเข้าประตูมากลับเป็นสตรีกลางคน ผมกระเซิง เสื้อผ้ายับย่นนางหนึ่ง เบิกตากลมกว้างหัวร่ออย่างโง่งม

มือถือสามง่ามเหล็กที่ใช้เสียบสิ่งของปิ้งย่างเล่มหนึ่ง

“เหตุใดนางสามารถอ้อมผ่านกองหินเข้ามาทางประตูใหญ่” นี่คือความสงสัยของลี้มกโช้ว