ล้านนาคำเมือง ชมรมฮักตั๋วเมือง : จิ๊นบ่เน่าหนอนบ่จี กำบ่มีไผบ่เล่า

ล้านนาคำเมือง

ชมรมฮักตั๋วเมือง

สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “จิ๊นบ่เน่าหนอนบ่จี กำบ่มีไผบ่เล่า”

“จิ๊น” แปลว่า เนื้อสัตว์ จะเป็นเนื้ออะไรก็ได้

“จี” แปลว่า ชอนไช หรือไชให้เป็นรูอย่างเอาสว่านเจาะ

“กำ” นอกจากแปลว่าคำพูดแล้วยังแปลได้ว่า ถ้อยความ หรือเรื่องราวได้ด้วย

“เล่า” แปลว่า บอกเล่า คำนินทา ข่าวลือ

สำนวนล้านนาข้างต้นจึงมีความหมายว่า เนื้อไม่เน่าย่อมไม่มีหนอนไช ถ้าไม่มีเบาะแสของเรื่องราวคนเขาคงไม่พูดกัน แปลว่า หากไม่มีเหตุย่อมไม่มีใครกล่าวขวัญถึง

คำคมล้านนาบทนี้ตรงกันกับคำพังเพยของภาคกลาง “ไม่มีมูลฝอย หมาไม่ขี้” ซึ่งคำพังเพยบทหลัง มักจะมีคำต่อท้ายว่า “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ ไม่มีหนี้เขาไม่ทวง”

และตรงกับสำนวนของอังกฤษ “No smoke without fire” ซึ่งแปลว่า “ไม่มีควันหากไม่มีไฟ” หรือ “ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน”

 

ดูเหมือนว่าคำคมล้านนาบทนี้จะเป็นจริงแบบสากล ขนาดฝรั่งก็มีคำกล่าวในทำนองเดียวกัน

ใช่แล้ว ถ้าไม่มีเนื้อเน่าเป็นเหตุ ย่อมไม่เกิดหนอนมาชอนไช ถ้าไม่มีขยะสกปรก หมาก็คงขี้ที่นั่น และถ้าไม่มีกองไฟ จะเกิดควันได้อย่างไรกัน

เนื้อเน่า เรื่องราว มูลฝอย หนี้ และกองไฟเป็นเหตุ

ส่วนหนอนชอนไช คำนินทา หมาขี้ ทวงหนี และควัน คือผลที่ตามมา

ซึ่งถ้าไม่มีสาเหตุก็คงไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระลอกตามมา

เช่น หนุ่ม-สาวรู้จักคบหาเพียงสามเดือน แล้วรีบแต่งงานกัน ชาวบ้านเล่าลือว่า นี่เป็นเพราะสาวท้องแน่ๆ จึงต้องรีบแต่งงาน แล้วทุกคนก็เฝ้ารอว่าเด็กจะเกิดมาอีกในกี่เดือนถัดไป

อย่างนี้แหละที่คนล้านนากล่าวถึงคำเล่าลือเรื่องสาวท้องนี้ว่า “จิ๊นบ่เน่าหนอนบ่จี กำบ่มีไผบ่เล่า”

เช่น เรื่องที่ว่า เมลานี ทรัมป์ จะหย่ากับทรัมป์หากประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่ง ข่าวจะจริงหรือไม่ เราไม่อาจทราบได้ ต้องรอฟังข่าวกันต่อไป อย่างไรก็ตาม มันต้องมีเหตุความร้าวรานมาก่อนใช่ไหม ข่าวลือจึงจะเกิดหนาหู

 

จะว่าไป เรื่องนี้เป็นเรื่องของสากล

ทั่วทั้งสังคมโลกก็เป็นแบบนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในสังคมล้านนา ข่าวลือ คำซุบซิบนินทา มันต้องมีเหตุจูงใจ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานจริงให้เห็นชัด

แต่บางครั้งข่าวลือก็คือข่าวจริงที่มาก่อนการณ์

กำบ่มี ไผตึงบ่เล่าลอ

แปลว่า ถ้าไม่มีเรื่องราวมาก่อน ใครก็ไม่นินทาต่อหรอก