ครัวอยู่ที่ใจ l ทางรอดอยู่ในครัว : หม้อเดียวทั้งวัน / อุรุดา โควินท์

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: หม้อเดียวทั้งวัน

 

เรากำลังจะย้ายบ้าน (อีกครั้ง) อาจไม่ใช่ในสองสามเดือนนี้ แต่เราต้องย้ายในระยะเวลาอันใกล้ เราได้บ้านใหม่แล้ว เราชอบสถานที่กว้างขวาง ร่มรื่น ชอบบ้านหลังพอเหมาะพอดี เราจะดัดแปลงครัวในบ้านเป็นสตูดิโอกวนสบู่ ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือ สร้างครัวใหม่นอกบ้าน

ใช่-เราเพิ่งจัดห้องทำสบู่ใหม่หมาด ยังเห่อมันไม่หาย แต่เราพร้อมย้ายเพื่อความสะดวกของทุกฝ่าย

เราเพิ่งมาอยู่ไม่นาน ปรับปรุงทีละนิดละหน่อย เราใช้เวลากับที่ดินผืนนี้อยู่สามปี พอเริ่มลงตัวก็เจอโควิด

เวลาเคลื่อนเร็ว แต่ความเปลี่ยนแปลงสิ มาแบบไม่ทันตั้งตัว

โอเค เราจะย้าย

นับแต่ฉันพูดประโยคนี้ออกไป ก็ดูเหมือนว่า ในทุกวัน ฉันแบ่งเวลาส่วนหนึ่งไว้สำหรับการย้ายบ้าน

เรายังต้องจ่ายค่าเช่าบ้านหลังเก่า และเราต้องเก็บเงินสำหรับย้ายบ้าน ซึ่งหมายความว่า เราต้องทำงานมากขึ้น ประหยัดขึ้น

ฉันตื่นเร็วขึ้นวันละหนึ่งชั่วโมง

ฉันพยายามหาเมนูที่ง่าย มีประโยชน์ แน่นอน-เพื่อบริหารเวลาด้วย

ไปตลาดแต่ละหน ฉันคิดเมนูล่วงหน้าหลายวัน ทำให้บริหารวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

เกือบทุกวัน ฉันอยู่ในบ้าน หรือไม่ก็ไปตลาด แต่แปลก ที่ฉันรู้สึกถึงชีวิตชีวาอย่างที่สุด

ก่อนหน้านี้ ฉันเสียดายทุกอย่างที่นี่ และเหนื่อยเกินกว่าจะย้าย ครั้นเอ่ยปากออกไป ฉันกลับได้เรี่ยวแรงมาเพิ่ม

 

“ทําอะไรกินอ่ะวันนี้” เขาเดินมาถาม

“ก๋วยเตี๋ยวไก่” หันไปยิ้มหวาน “ก็มีคนเคยพูด เชียงรายไม่มีก๋วยเตี๋ยวไก่น้ำใสขาย ทำเองเลยโนะ”

บนเตา ฉันกำลังต้มไก่ทั้งตัว โดยใส่หอมหัวใหญ่ลงไปสองลูก หัวผักกาดหนึ่งหัว รากผักชีห้าหกราก ต้มไปเต็มหม้อ ได้ทั้งน้ำซุป และไก่ที่สุก

“ทำหม้อใหญ่ กินทั้งวัน” ฉันบอก

แต่แล้วก็คิดได้ ถาม “จะเบื่อมั้ย กินหลายมื้อติดกัน”

“กินได้สิ สบายมาก” เขาหันไปดูรอบๆ “ตอนที่มาถึง เราปรับปรุงครัวนี่ก่อนเลย”

รู้ว่าเขาเสียดาย ฉันชี้โคมไฟเหนือหัวเรา “เราเอาอันนี้ไปได้อันหนึ่ง”

แล้วเราก็หัวเราะด้วยกัน

 

สําหรับฉัน ยากที่สุดคือการตัดสินใจ หากตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่เสียดายอะไรอีก ฉันพร้อมเคลื่อนไปด้วยหัวใจที่เริงร่า ปล่อยบ้านหลังนี้เป็นอดีตกาล

ตำกระเทียมครึ่งครก กระเทียมเจียวสำคัญนัก ต้องเยอะหน่อย วันนี้ฉันจะเจียวด้วยน้ำมันจากหนังไก่

“บ้านใหม่น่าอยู่จะตาย ไกลจากที่นี่แค่ 5 กิโลเมตร แต่เงียบกว่ามาก เราไม่ต้องฟังเสียงเหิดหุยของข้างบ้านแล้วนะ ดินดี ปลูกผักได้” ฉันบอก

“แต่เราต้องไปทำครัวใหม่อีก” เขาจ้องตาฉัน

ใช่ ฉันใช้ครัวนี้จนคล่องมือ จากวันแรกที่รู้สึกว่ามันไม่สะดวกเอาเลย

จับมือเขา “แต่เราได้ออกแบบพื้นที่ครัวเอง เราจะทำแบบประหยัด ใช้งานได้ครบถ้วน”

ในบ้านหลังนั้นมีครัวเล็กกะทัดรัด แต่เราทำครัวหนักมาก ทำแทบทุกมื้อ ฉันคิดว่า การสร้างครัว คือความคุ้มค่า-อย่างที่สุด

เจียวกระเทียมเสร็จแล้ว ฉันทำพริกน้ำส้มแบบทางเหนือ คือเอาพริกไปนึ่งให้สุก แล้วเอามาปั่นกับน้ำส้ม นิยมใช้พริกชี้ฟ้าแดง แต่ฉันใช้พริกจินดา เพื่อความเผ็ดอย่างถึงใจ

“ตอนแรกพูว่าจะใช้ครัวเดิม แล้วสร้างสตูดิโอทำสบู่ด้านนอก แต่คิดได้ว่า สตูดิโอน่ะ เราไม่ได้แชร์กับใคร อาหารต่างหากที่เราแชร์ เราน่าจะทำครัวข้างนอก ทำโล่งๆ ตั้งโต๊ะใกล้ครัว ให้คนมานั่งกินข้าวได้ ที่สำคัญ ครัวไม่จำเป็นต้องมิดชิด ขอแค่ฝนไม่สาด มันประหยัดกว่าทำสตูดิโอ”

“ได้อยู่กับฮุ่งด้วยโนะ ตอนทำสบู่” เขาว่า

ฉันใช้เวลากับสบู่วันละหลายชั่วโมง ถ้าทำในบ้าน หมาฮุ่งก็ไม่ต้องนั่งรอที่หน้าประตูอีกแล้ว

 

หม้อต้มไก่นั้น หลังจากที่เดือด ฉันเบาไฟลงราวครึ่งชั่วโมง จะเอาไก่ออกมาฉีกรอเลยก็ได้ แต่ฉันอยากได้ไก่ที่เปื่อยหน่อย จึงปล่อยไก่ไว้กับซุปต่อ ผลพลอยได้ก็คือ น้ำซุปย่อมหวานขึ้น

พอถึงเวลากิน ก็ตักไก่ออกมาจากหม้อ ฉีกเอาแต่เนื้อใส่ชามใบใหญ่รอไว้

ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวลงชาม ราดน้ำซุปลงไปให้ท่วม ใส่เลือดไก่สักหน่อย คีบไก่ตามลงไป-มากเท่าไรก็ได้ เพราะทำกินเอง โรยกระเทียมเจียวเยอะๆ โรยต้นหอม-ผักชี ตามด้วยใส่ถั่วฝักยาวลวก

เราใช้ชามใบใหญ่แบบที่กินชามเดียวอิ่ม ไม่ต้องขอเพิ่ม มีเครื่องปรุงรออยู่บนโต๊ะ ทั้งพริกน้ำส้มแบบปั่น น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยดำ และพริกป่นคั่วใหม่

เขาเติมแต่พริกไทยขาว เขาชอบพริกไทยขาวมาก เขาชอบกินก๋วยเตี๋ยวเพราะชอบซุปรสนวล เขาเคยบอกฉันว่า การปรุงเยอะ ทำให้น้ำร้อนน้อยลง

ฉันลองคิดราคาในใจ ไก่หนึ่งตัว 129 บาท ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งกิโลกรัม 20 บาท ต้นหอม-ผักชี 5 บาท เลือด 10 บาท หัวผักกาด 10 บาท

“โห… เราจ่ายไม่ถึงสามร้อย กินได้ตั้งสามมื้อแน่ะ” ฉันบอก

“ทำบ่อยๆ สิ จะได้มีเงินสร้างครัวเร็วๆ” เขาว่า

ครัวใหม่ก็อยากได้ ก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยดี แต่กินบ่อยไป…คงไม่ไหว

ไม่เป็นไร เรามีเมนูที่ย่อมเยาและประหยัดเวลาอีกเยอะ