วิชา 1 ซึ่งจะกลายเป็นวิชาสำคัญสำหรับ “นักการเมือง” ในอนาคต คือ วิชาว่าด้วย “ไอที”

เมื่อเป็น “ไอที” ย่อมสัมพันธ์กับ “คอมพิวเตอร์”

แต่เดิม “นักการเมือง” จำเป็นต้องรู้ในเรื่อง “ประวัติศาสตร์” รู้ในเรื่อง “กฎหมาย” รู้ในเรื่อง “รัฐศาสตร์” การปกครอง

รวมถึงรู้ในเรื่องการทำงาน “มวลชน”

เพราะว่าการทำงาน “มวลชน” ทำให้มีความมั่นใจในเรื่องคะแนนเสียงและความนิยม

“ประวัติศาสตร์” เสริมด้านความเข้าใจ “สถานการณ์”

“กฎหมาย” และ “รัฐศาสตร์” ทำให้เข้าใจกระบวนการในด้านนิติบัญญัติและในด้านการบริหาร

แต่ที่เข้ามาใหม่คือในด้าน “ไอที”

 

ไม่ว่านักการเมืองอย่าง บารัก โอบามา ไม่ว่านักการเมืองอย่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ล้วนแต่มีเวบเพจ

มีการสื่อผ่าน”ทวิตเตอร์”

มีการใช้ “เฟซบุ๊ค” เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจร่วมในทางสังคม

ในเมืองไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีเฟซบุ๊ค

น่าสนใจก็ตรงที่เฟซบุ๊คของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีแฟนเพจเป็นล้านและทะลุไปยังหลัก 5 ล้าน

ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถ”สื่อ”โดยตรง

ไม่ว่าจะเป็น “ภาพ” ไม่ว่าจะเป็น “ความรู้สึก” ไม่ว่าจะเป็น “ความเห็น” ล้วนสามารถแสดงออกผ่าน”เฟซบุ๊ค”

แทบไม่จำเป็นต้องแจกข่าว แถลงข่าว

 

ทุกพรรคการเมืองจำเป็นต้องสนใจเรื่อง “ไอที” ทุกนักการเมืองจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่อง “ไอที”

เพื่อนำไปสู่ “สถานีกลาง” ในการ “สื่อ”

โดยพื้นฐานก็คือ สื่อไปยัง “มวลชน” ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นสื่อไปยัง “สื่อมวลชน”

นักการเมืองคนใดไม่รู้ “ไอที”จะกลายเป็นคนล้าหลัง

นักการเมืองคนใดไม่มี “เฟซบุ๊ค” การสื่อสารไปยัง “มวลชน” ก็จะคดเคี้ยว วกวน

หากไม่รู้ “ไอที” ก็ต้องจ้าง “มร.ไอที” มา

นี่คือ “แนวโน้ม” ใหม่ในทางสังคมและในทางการเมือง