ลึกแต่ไม่ลับ | ศึกซักฟอกอย่าตายใจ คิดว่าฝ่ายค้านไม่มีของ

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

นับถอยหลัง “ญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี-รายบุคคล” 1 นายกรัฐมนตรี 9 รัฐมนตรี เหลืออยู่ไม่กี่ชั่วยาม ศึกจะระเบิดเถิดเทิงขึ้นแล้ว แม้จะมี “พวกตาขาว” เพียรพยายามเล่นแร่แปรธาตุ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่คงยากพอๆ กับหาทางขึ้นสวรรค์

งานนี้ขอชื่นชม “นายหัวชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่เคารพ ที่ยึดกติกา ไม่สองมาตรฐาน รักษาความเป็นกลาง…น่ารังเกียจมากนะครับ พวกที่อยากเล่นการเมืองกลัวการซักฟอก เหมือนว่ายน้ำกลัวเปียก

ดังที่เคยบอก ศึกอภิปรายในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ ลงมติในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” คงไม่คิคแค่ “เขย่าต้นมะม่วง” หวังลาภลอย หรือเล่นเกมแมวไล่จับหนู ไหลตามน้ำ ขู่กินของฟรี เสียเกียรติหมดศักดิ์ศรี เหมือนคราวก่อน ที่พลันเสร็จศึก มีเสียงดังด่าไล่หลังยังกะงานสวดศพ

ชั่งน้ำหนักจากเนื้อหาญัตติการอภิปรายในคาบนี้ มุ่งกระแทกกลาง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ด้วยข้อกล่าวหาหนักหน่วง รุนแรงมาก แบบไร้ไมตรี ว่า มีพฤติกรรมฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง เป็นอาทิ

คิดว่ารอบนี้ไม่ใช่สงครามจอมปลอมแน่นอน และหลังยื่นญัตติแล้ว ทุกความเคลื่อนไหวสงบเงียบ เยือกเย็นเหมือนภูผา ผิดกับศึกซักฟอกครั้งก่อน หนังคนละม้วน

ดังนั้น “บิ๊กตู่” อย่าตายใจ ทะนงตน ว่าตัวเองยึดกุมเสียงข้างมากในสภา พวกมากลากไปได้ทุกเรื่อง แล้วเกิดอาการเหลิงลม ความประมาท อวดดีคือ “จุดอ่อน”

ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ดูประหนึ่งว่า ข้อกล่าวหาจะไม่ดุเดือดเร้าใจอะไรมาก แค่ “ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตนเอง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองและพวกพ้อง ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

ฝีมือประติมากรรมถ้อยคำที่ฝ่ายค้านนำมาสำเร็จโทษ “บิ๊กป้อม” ดูพื้นๆ ไม่มีลงลึก หรืออะไรรุนแรง ชนิดให้เสียสติได้แต่ประการใด

แต่แกนนำ-ลูกหาบ พปชร.ต้นสังกัดในฐานะหัวหน้าพรรค ดูประหนึ่งว่าจะปอดกระเส่า เทน้ำหนักศึกซักฟอกที่ “พล.อ.ประวิตร” ว่าจะถูกเทสะบักสะบอมมากกว่าใครเพื่อน เนื่องเพราะเจ้าตัวอายุมากก็จริง แต่อ่อนประสบการณ์ ยังอ่อนปวกเปียกไม่เคยเผชิญหน้ากับศึกซักฟอกมาก่อน ชาญฉลาดสัญชาตญาณดีเยี่ยม แต่สุขภาพชำรุด แถมน้ำอดน้ำทนน้อย

เกรงว่า “ลุงป้อม” จะโดนจับขึ้นเขียงขึงพืดนานๆ หนักๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง จะเกิดอาการอิดโรย ต้านอาวุธไม่ไหว

ด้วยเหตุและปัจจัยดังกล่าว พปชร.เมื่ออ่านหมากดูทิศทางลมจากญัตติที่เขียนข้อกล่าวหาว่า พล.อ.ประวิตร ในเบื้องต้น สร้างวาทกรรมขึ้นมาเพื่อใส่ร้าย เสียดสีให้คนเข้าใจผิด

โดยคาดการณ์ว่า ผู้อภิปรายที่ได้รับการวางตัวเพื่อถล่มป้อมค่าย “พล.อ.ประวิตร” จะต้องเต้าข่าวอภิปรายพาดพิงถึง “บุคคลที่สาม” ซึ่งสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น และบิ๊กป้อมเก็บอารมณ์ไม่อยู่ จึงตั้งวอร์รูมขึ้นมาเพื่อสนับสนุนข้อมูลจริง วางแผนเตรียมตอบโต้ มีทีม “องครักษ์” คอยขัดจังหวะทุกระยะทั้งในและนอกสภา

 

ขณะที่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจคาบนี้ “ฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” งวดนี้คงหวัง “ล้างอาย” จากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว ที่มีเสียงเยาะเย้ยถากถาง กลิ่นดูถูกดูแคลนฟุ้งกระจาย ว่าโหลยโท่ย เกี้ยเซียะ “มีงาน” ผลจึงออกมาเป็นมวยล้มต้มคนดู

ศึกซักฟอกรอบที่สอง เพื่อไทยน่าจะขอกอบกู้ชื่อเสียง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีกลับคืน เอาจริงเอาจังแน่นอน มีการแบ่งงาน กระจายขุมกำลัง แจกจ่ายเนื้อหาเพื่ออภิปราย กันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และปกปิดข้อมูลระดับชั้นความลับดีมาก

ตามกรอบเวลา เห็นว่าจะเริ่มพะบู๊กันตั้งแต่ระฆังดัง 9 โมงเช้า ยันตีหนึ่งของทุกวัน

โดยกำหนดผู้ทำหน้าที่อภิปรายไว้ทั้งหมดจำนวน 38 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทยได้สัดส่วน 15 คน ก้าวไกล 13 คน เสรีรวมไทย 5 คน เพื่อชาติ 1 คน พลังปวงชนไทย 1 คน ไทยศรีวิไลย์ 1 คน

กรอบเวลา-ตัวบุคคลในการยำใหญ่ของฝ่ายค้าน วางไว้ในเบื้องต้น แต่สามารถปรับลดเวลาและผู้อภิปรายของแต่ละพรรคได้ อยู่ที่ข้อตกลงของวอร์รูมที่ทำงานกันอย่างใกล้ชิด จริงใจ

สำหรับรายนามผู้อภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน มีทำเนียบนาม อาทิ “เพื่อไทย” นำร่องโดย “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เปิดประเด็นภาพรวมในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ตามด้วย “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาฯ พรรคเพื่อไทย “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ส.ส.กทม. กับ “ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ”

ไฮไลต์ของเพื่อไทยยังอยู่ที่ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.ฝีปากคม จากมหาสารคาม ที่คาบนี้นอกจากเกาะติดเรื่องเดิมๆ ประกบรัฐมนตรีคนเก่าๆ ตอกย้ำจุดเดิม ขยายแผลเก่าแล้ว ยังเป็นผู้ขอจองกฐินเล่นงาน “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการแต่งตั้งคนใกล้ชิดนั่งตำแหน่งสำคัญ มีเรื่อง รูปภาพประกอบ ตามสไตล์

พรรคก้าวไกล มี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-วิโรจน์ ลักขณาอดิศร-รังสิมันต์ โรม-ธีรัจชัย พันธุมาศ-เบญจา แสงจันทร์”

พรรคเสรีรวมไทย “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส-หมอเรวัต วิศรุตเวช”

พรรคประชาชาติ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง”

ศึกอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลคาบนี้ อย่าตายใจ คิดว่าฝ่ายค้านไม่มีของ ไร้น้ำยาเหมือนเดิม

“กลยุทธ์คือการลวงคู่ต่อสู้ให้ตายใจ”

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในฐานะผู้นำรัฐบาล จึงไม่ควรประมาท