ศึกในรัฐบาล เมื่อ ‘พปชร.’ โนแคร์ ส่งเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ ปชป.ร้องหามารยาทการเมือง

บทความพิเศษในประเทศ

 

ศึกในรัฐบาล

เมื่อ ‘พปชร.’ โนแคร์

ส่งเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ

ปชป.ร้องหามารยาทการเมือง

กลายเป็น ‘ศึกใน’ ของพรรคร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ‘เทพไท เสนพงศ์’ สิ้นสภาพความเป็น ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ปชป. ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. ปี 2557 ทำให้เก้าอี้ว่างลง

แน่นอนว่า ปชป.ในฐานะเจ้าถิ่นย่อมต้องรักษาเก้าอี้ตัวนี้ไว้

ทว่าพรรคพลังประชารัฐกลับแสดงอิทธิฤทธิ์ท้าชิงด้วย

เริ่มจาก ‘สัณหพจน์ สุขศรีเมือง’ ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พปชร. ในฐานะรองโฆษก พปชร. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พปชร.จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3

ทำให้ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. แถลงข่าวโต้กลับว่า ควรมีมารยาททางการเมือง ไม่ควรพูดอะไรส่งเดช เพราะเรื่องนี้ควรจะเป็นมติของพรรคออกมาเสียก่อน การให้สัมภาษณ์เช่นนี้เหมือนเป็น ‘เด็กบริบาล’ ไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล

“มีของฝากให้นายสัณหพจน์ไปรับประทาน คือนมอัดเม็ดและวิตามินซี เพื่อทำให้มีวุฒิภาวะโตขึ้นและคิดให้มากขึ้น ก่อนที่จะพูดอะไรในทางการเมือง ต้องคิดถึงหลักสัจธรรมในทางการเมือง การอยู่ร่วมกันด้วย”

นายชัยชนะกล่าว

 

หากพูดตรงๆ คือเกมนี้ ปชป.ต้องการให้ พปชร.หลีกทางให้

แต่ไม่จบง่ายๆ เพราะ ‘แม่ทัพ พปชร.’ อย่าง ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. ออกโรงประกาศชัด พปชร.จะส่งผู้สมัครลงแน่นอน หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 พปชร.ที่ส่ง ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 แพ้ ‘เทพไท’ ไปเพียง 4,568 คะแนน โดย ‘เทพไท’ ได้ 33,310 คะแนน ส่วน ‘อาญาสิทธิ์’ ได้ 28,742 คะแนน

ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ เชื่อมั่นว่า พปชร.จะได้เก้าอี้ ส.ส.เพิ่ม จึงแสดง ‘อิทธิฤทธิ์’ เรียกได้ว่าไม่เกรงใจ ปชป. แม้ ‘อู๊ดด้า’ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.จะเชือดนิ่ม ‘มารยาทการเมือง’ ก็ตาม

“ถ้าประชาธิปัตย์เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์ก็จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่จะให้เจ้าของที่นั่งเดิมที่เป็นพรรคร่วมเป็นผู้ส่ง ซึ่งประชาธิปัตย์เคยเป็นแกนตั้งรัฐบาลมาหลายครั้ง และได้ปฏิบัติมาเช่นนี้โดยตลอด” นายจุรินทร์กล่าว

ด้าน พล.อ.ประวิตรตอบกลับแบบ ‘โนแคร์’ ปชป. ว่า “อ้าว ก็เป็นเรื่องของเขา ผมจะไปรู้ได้ไง สื่อถามแบบนี้ผมจะตอบยังไง เพราะไม่ได้ถามเรื่องผม” เมื่อสื่อถามย้ำว่า แต่ท่าที ปชป.คือไม่อยากให้ พปชร.ส่งผู้สมัครลงแข่ง พล.อ.ประวิตรตอบว่า “มันเป็นเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งครั้งที่แล้วพรรคพลังประชารัฐก็แพ้ไม่กี่พันคะแนน”

นอกจากนี้ ‘บิ๊กป้อม’ ยังย้อนเกล็ด ปชป.กลับ และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน พร้อมเปิดเผยว่าพูดคุยกับ ‘จุรินทร์’ ทุกวันอยู่แล้ว

“ไม่เกี่ยวกัน คนละเรื่อง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาบอกแล้วว่า ใครสมัครก็ได้” พล.อ.ประวิตรกล่าว

 

สําหรับ ปชป.ได้วางแผนส่ง ‘พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์’ น้องชาย ‘เทพไท’ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมเพื่อรักษาเก้าอี้ เรียกได้ว่าเกมนี้เป็นการ ‘แข่งกันเอง’ ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ ‘ไม่ยอมอ่อนข้อ’ ให้กันง่ายๆ แม้พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ฐานที่มั่นของพรรคฝ่ายค้าน ทว่า 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ทิ้งพื้นที่ โดยมีมติให้พรรคเสรีรวมไทยส่งคนลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช

ทำให้ ปชป.เล่นบท ‘ทวงบุญคุณ’ แต่ ‘คนรู้ทัน’ เพราะสนามเลือกตั้งซ่อมก่อนนี้ 3 จังหวัด ตามที่ ‘ชัยชนะ’ อ้างมา หากพิจารณาแล้ว ไม่ใช่พื้นที่ของ ปชป.เลย ได้แก่ เลือกตั้งซ่อม เขต 7 จ.ขอนแก่น ที่ พปชร.แข่งกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งสุดท้าย ‘สมศักดิ์ คุณเงิน’ จาก พปชร.เอาชนะ ‘ธนิก มาสีพิทักษ์’ จากพรรคเพื่อไทย

การเลือกตั้งซ่อม เขต 2 จ.กำแพงเพชร ที่ พปชร.แข่งกับ พท. โดยผลคือ ‘เพชรภูมิ อาภรรัตน์’ จาก พปชร.เอาชนะ ‘กัมพล ปัญกุล’ จาก พท.ไป

การเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.สมุทรปราการ ที่แข่งกัน 3 พรรค ได้แก่ พปชร. พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ซึ่งผลการเลือกตั้ง ‘กรุงศรีวิไล สุทินเผือก’ จาก พปชร. เอาชนะ 2 พรรคฝ่ายค้าน สามารถรักษาเก้าอี้ ส.ส.ไว้ได้

ทว่าเอาเข้าจริงแล้ว ปชป.กลับไม่ ‘หลีกทาง’ ให้พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อครั้งการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม เป็นการแข่งกันระหว่าง 3 พรรค คือ ปชป. พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคก้าวไกล ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว เจ้าของพื้นที่เดิมคือ ‘ตระกูลสะสมทรัพย์’ แต่พ่ายให้กับพรรคก้าวไกลไปเมื่อเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ทำให้เป็น ‘ศึกแห่งศักดิ์ศรี’ ของ ‘บ้านใหญ่สะสมทรัพย์’

ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้ง ‘เผดิมชัย สะสมทรัพย์’ จากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้คะแนนมาลำดับที่ 1 ตามมาด้วย ‘ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร’ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ และอันดับ 3 คือ ‘สุรชัย อนุตธโต’ จาก ปชป.นั่นเอง

ทว่าความมั่นใจนี้อาจมาจากเมื่อครั้งเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ที่ ปชป.ส่ง ‘สุรชัย’ ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 2 แต่แพ้ที่ 1 อย่าง ‘จุมพิตา จันทรขจร’ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่เกือบครึ่งหนึ่ง ส่วน ‘เผดิมชัย’ ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 4 การมีโอกาสเลือกตั้งซ่อม ถือเป็นการ ‘แก้มือครั้งสำคัญ’ ที่จะพลาดไม่ได้อีก

แน่นอนว่า ‘ความมั่นใจ’ ของ ปชป.เมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม ก็เหมือนกับที่ ‘บิ๊กป้อม’ มีความมั่นใจในการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ที่ย้ำเสมอว่า แพ้ไม่กี่พันคะแนน

 

ทว่าศึกในพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่จบแค่นี้ หลัง ‘อันวาร์ สาและ’ ส.ส.ปัตตานี ปชป. ระบุว่า จะเอาคืนใน ‘ศึกซักฟอก’

“ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่าน (พล.อ.ประวิตร) พูดเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง ดังนั้น ผมจะจำคำพูดนี้ไว้ เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ฝ่ายรัฐบาลต้องไม่เอาคำว่ามารยาททางการเมืองมาใช้เป็นข้ออ้างให้พรรคร่วมรัฐบาลลงมติไว้วางใจกับสิ่งที่ฝืนต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างที่เคยเป็น ควรจะพิจารณาตัดสินกันโดยยึดหลัก ถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด น่าจะเป็นการสร้างศรัทธาให้กับรัฐบาลมากกว่า”

นายอันวาร์กล่าว

 

ด้าน ‘บิ๊กป้อม’ ดูท่าทีแล้วไม่สะทกสะท้านใดๆ ในการออกมาของ ‘อันวาร์’ โดย ‘บิ๊กป้อม’ กล่าวเพียงว่า “ก็แล้วแต่เขาจะคิด” เพราะ พปชร.คุมเกมในสภาได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่รู้ ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาคิดกันอย่างไร แต่พรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมมือกันนั่นแหละ”

ทั้งนี้ ไม่ได้มีเพียง ‘รัฐมนตรี’ จาก พปชร.ที่ถูกซักฟอกเท่านั้น แต่ครั้งนี้มี ‘รัฐมนตรี’ จาก ปชป.ขึ้นเขียงถูกซักฟอกด้วย 2 คน คือ ‘จุรินทร์’ กับ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รมช.มหาดไทย อยู่ด้วย แน่นอนว่าศึกซักฟอกในสภา หากฝั่งรัฐบาล ‘เทกันเอง’ ก็ได้หลุดกันหมด

ดังนั้น ‘คำขู่’ ของ ‘อันวาร์’ จึงไม่สะเทือน พปชร. และ พล.อ.ประวิตร ทำให้ พปชร.ยังคงมีท่าทีดึงดันส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จ.นครศรีธรรมราชต่อไป

รวมทั้งกรณี ‘วิทยา แก้วภราดัย’ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ออกมาเสนอให้ ปชป.ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคร่วมส่งผู้สมัครแข่ง ดีกว่าเลือกตั้งแล้วเขาต้องไล่เราออก พร้อมอ้างถึงธรรมเนียมและมารยาททางการเมือง

ซึ่งเรื่องนี้ท่าที ‘บิ๊กป้อม’ ก็ไม่ได้เป็นกังวล เมื่อสื่อถามว่าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือไม่ จะถึงขั้น ปชป.ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี ไม่เป็น สื่อจะพูดให้เป็น”

 

ด้าน ‘ส.ส.สายใต้’ พปชร. ขึ้นโพเดียมแถลงข่าวที่สภา เปิดตัว ‘อาญาสิทธิ์’ เพื่อแสดงความพร้อมลงเลือกตั้งซ่อม และส่งสัญญาณไปถึงหัวหน้า พปชร. และกรรมการบริหาร พปชร. เพื่อให้รับรองส่ง ‘อาญาสิทธิ์’ ลงเลือกตั้งซ่อม

พร้อมให้ ปชป.กลับไปศึกษามารยาทการเมืองใหม่

โดย ‘รงค์ บุญสวยขวัญ’ ส.ส.เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช พปชร. ในฐานะประธาน ส.ส.ภาค 8 กล่าวว่า

“ภารกิจของเราระดับพรรค ประชาชนเรียกร้องให้มีตัวเลือกมากๆ การบล๊อกคนไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นกระบวนการที่ไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย ดังนั้น มารยาททางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย คือ การเปิดตัวเลือกให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกคนที่เขารัก ไม่ใช่การนิยามของผู้ใดผู้หนึ่งภายใต้ความปรารถนาขอตนเอง และมองว่ามารยาททางการเมืองยังหมายถึงพรรคหรือผู้สมัครคนใด ถ้าทำผิดพลาดแล้วถูกออกจากตำแหน่งไป จะต้องไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอีก”

ทั้งนี้ หาก พปชร.ชนะเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมี ส.ส.เมืองคอน 4 คน เท่ากับ ปชป.ที่มี 4 คนเช่นกัน โดย ‘รงค์’ กล่าวติดตลกว่า “ขอคนละครึ่ง” ล้อตามนโยบายรัฐบาล

ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่า ปชป.พูดเรื่อง ‘มารยาทการเมือง’ แต่กลับ ‘เข้าตัว’ หมด ต้องจับตาว่าจะมีปรากฏการณ์ ‘แค้นนี้ต้องชำระ’ หรือไม่

เพราะระดับ ‘ประชาธิปัตย์’ คงไม่ยอมง่ายๆ!!