ไทม์เอาต์/ Red Monster/งานหนักอึ้ง! ‘หงส์แดง’ กับภารกิจฝ่าวิกฤตฟอร์มสะดุด

Soccer Football - Premier League - Newcastle United v Liverpool - St James' Park, Newcastle, Britain - December 30, 2020 Liverpool's Mohamed Salah and Roberto Firmino react Pool via REUTERS/Peter Powell EDITORIAL USE ONLY. No use with unauthorized audio, video, data, fixture lists, club/league logos or 'live' services. Online in-match use limited to 75 images, no video emulation. No use in betting, games or single club /league/player publications. Please contact your account representative for further details.

ไทม์เอาต์/Red Monster

งานหนักอึ้ง! ‘หงส์แดง’

กับภารกิจฝ่าวิกฤตฟอร์มสะดุด

 

ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มสะดุดอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง เพราะเมื่อไล่เรียงไทม์ไลน์ นับตั้งแต่ไล่ถล่มคริสตัล พาเลซ ขาดลอย 7-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ผลงานหลังจากนั้นน่ากังวลพอสมควร

ลิเวอร์พูลชนะแค่ 1 จาก 7 เกมหลังสุดทุกรายการ

เสมอเวสต์บรอมวิช 1-1, เสมอนิวคาสเซิล 0-0, แพ้เซาแธมป์ตัน 0-1, ชนะแอสตัน วิลล่า 4-1 (เอฟเอคัพ รอบ 3), เสมอแมนฯ ยู 0-0, แพ้เบิร์นลีย์ 0-1 และล่าสุด แพ้แมนฯ ยู 2-3 (เอฟเอคัพ รอบ 4)

หลังพ่ายศึกแดงเดือดฉบับบอลถ้วย *ไมเคิล โอเว่น* อดีตแข้งดังที่เคยเล่นให้กับทั้งลิเวอร์พูลและแมนฯ ยู ชี้ชัดว่าจุดแตกต่างของสองทีมที่เห็นได้ชัดคือความมั่นใจ เพราะฝ่ายหนึ่งกำลังฟอร์มแผ่ว ส่วนอีกทีมก็ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ เยอร์เก้น คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยอมรับว่าลูกทีมของเขานั้นเล่นไม่ดีพอ มีข้อผิดพลาดเยอะ โดยเฉพาะในเกมรับ ซึ่งจะต้องเรียนรู้และแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม การยิงได้ 2 ลูกถือว่าเป็นผลงานที่พอใช้ได้ และจำเป็นต้องทำงานหนักกันต่อไป

 

ปัญหาหลักๆ ของหงส์แดงนั้นมีอยู่หลายจุด เริ่มจากแผงหลัง ซึ่งทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดก์ และ โจ โกเมซ นั้นต่างได้รับบาดเจ็บหนักพักยาว ส่วน โฌเอล มาติป ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ แถมเจอโรคเดี้ยงเล่นงานเป็นระยะๆ

กองหลังอาชีพที่เหลืออยู่ ส่วนใหญ่ก็เป็นแข้งดาวรุ่ง เช่น รีส วิลเลียมส์ เซ็นเตอร์แบ๊กวัย 19 ปีที่คลอปป์ส่งลงตัวจริงในเกมเอฟเอคัพ ก็เจอความกดดันและฝีเท้าของ *มาร์คัส แรชฟอร์ด* เล่นงาน จนมีส่วนกับการเสียประตู

แน่นอนว่าเด็กยังประสบการณ์น้อย แต่หากมองในระยะยาวก็อาจกระทบถึงการลุ้นแชมป์ต่างๆ ได้ ถ้าสุดท้ายไม่เลือกเสริมทัพอุดหลังบ้านจริงๆ

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ๊กขวาของทีม ซึ่งเคยฟอร์มเฉิดฉายแอสซิสต์มากสุดเป็นอันดับ 2 ในลีกเมื่อซีซั่นที่แล้วถึง 13 ครั้ง มาฤดูกาลนี้เกมลีกผ่านไปแล้ว 19 นัด เพิ่งจะแอสซิสต์ได้ 2 หนเท่านั้น

นอกจากนี้ เทรนต์ยังมีผลงานที่ไม่น่าจดจำในเกมแพ้เซาแธมป์ตัน เมื่อคืนวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา โดยเขาทำเสียบอลให้กับคู่แข่งไปถึง 38 ครั้ง ตลอด 77 นาทีที่อยู่ในสนาม

ขณะที่สามประสานแดนหน้าอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ ต่างปืนฝืดแทบจะพร้อมๆ กัน ยังดีที่ซาลาห์ซัดผีแดงได้ 2 ลูกในเอฟเอคัพ ซึ่งน่าจะช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้บ้าง

หรือบางทีคลอปป์ควรหันมาให้โอกาส ทาคุมิ มินามิโนะ แบบจริงจังเสียที หลังปีกชาวญี่ปุ่นอยู่กับหงส์แดงครบปีแล้ว แต่มักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นตัวสำรอง

ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนซ้อมยังติดขัดอะไร ทำไมยังไม่ถึงเวลาของมินามิโนะเสียที แต่ในเมื่อ 3 แนวรุกฟอร์มไม่แกร่งเหมือนเดิม

บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ดีหากจะหามิติใหม่ๆ ในเกมรุกบ้าง

 

ทว่าหงส์แดงอาจไม่มีเวลาปรับทีมมากขนาดนั้น เพราะโปรแกรมที่รออยู่ข้างหน้ามีเกมใหญ่รอเพียบ

แมตช์ที่น่าสนใจหลังจากโม่แข้งกับ สเปอร์ส ในศึกพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ ต้องเจอทั้ง แมนฯ ซิตี้, เลสเตอร์, ไลป์ซิก (แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก) ต่อด้วยพบ เอฟเวอร์ตัน

และยังไม่ทันได้หายใจหายคอเท่าไหร่ แมตช์น่าสนุกเดือนมีนาคมก็จ่อคิวรอแล้ว ทั้งเกมนัดสองกับไลป์ซิก ต่อด้วยพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน, เชลซี และ อาร์เซนอล เรียกได้ว่าแทบจะมีส่วนสำคัญกับการลุ้นแชมป์ทั้งสิ้น

คงต้องมารอลุ้นกันว่า คลอปป์จะพาทีมฝ่าฟันมรสุมปัญหาในครั้งนี้ไปได้อย่างไรกัน