การกลับมาของนาวัลนี จุดการเมืองรัสเซียร้อน / บทความต่างประเทศ

A still image taken from video footage shows law enforcement officers speaking with Russian opposition leader Alexei Navalny before leading him away at Sheremetyevo airport in Moscow, Russia January 17, 2021. REUTERS/Reuters TV

บทความต่างประเทศ

การกลับมาของนาวัลนี
จุดการเมืองรัสเซียร้อน

บรรยากาศทางการเมืองในดินแดนหลังม่านเหล็กกลับมาตึงเครียดในทันทีที่อเล็กซี นาวัลนี นักการเมืองฝ่ายค้านฝีปากกล้า ที่มักวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียอย่างดุเดือด ได้เหยียบย่างเท้าถึงสนามบินนานาชาติเชเรเตเยโว ในกรุงมอสโก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังนาวัลนีที่เอาชีวิตรอดกลับมาได้ เดินทางกลับมาจากการไปรักษาตัวอยู่ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มานานถึง 5 เดือน ด้วยอาการป่วยขั้นโคม่าจากการถูกลอบวางยาพิษ
โดยเจ้าตัวเชื่อมั่นว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลปูติน ที่พยายามจะปิดปากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง!
โดยผู้เชี่ยวชาญจากชาติตะวันตกฟันธงว่าสารพิษที่นายนาวัลนีถูกลอบวางยาเป็นสารพิษโนวิชก มีฤทธิ์ทำลายประสาท ที่อดีตสหภาพโซเวียตพัฒนาขึ้น ซึ่งนำมาใช้เป็นสารประกอบในการผลิตอาวุธเคมีได้

นาวัลนีถูกตำรวจรัสเซียเข้าควบคุมตัวในทันทีบริเวณด่านตรวจหนังสือเดินทางในสนามบิน แม้เจ้าตัวจะประกาศอย่างห้าวหาญต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวและกลุ่มผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่มารอต้อนรับให้กำลังใจนายนาวัลนีว่าเขาไม่กลัวจะถูกจับ เพราะตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายกลายเป็นความโกลาหลวุ่นวายจากการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มผู้สนับสนุนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายนาวัลนีถูกตำรวจจับกุมตัวไปมากกว่าครึ่งร้อย
ส่วนนาวัลนีถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ ก่อนถูกนำตัวส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็ว
โดยศาลสั่งจำคุกนายนาวัลนีเป็นเวลา 30 วัน โทษฐานฝ่าฝืนทัณฑ์บนในคดีฉ้อโกงที่เขาถูกตัดสินในปี 2557
ซึ่งแน่นอนว่าในสายตาของหลายฝ่ายมองเกมออกว่านี่เป็นเกมการเมืองในการสกัดฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลปูติน ที่จะเป็นภัยท้าทายทางการเมืองที่จะทำให้ทำเนียบเครมลินของปูตินสั่นคลอนได้ในช่วงเวลาสำคัญ
บทวิเคราะห์ของสตีฟ โรเซนเบิร์ก ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงมอสโกชี้ว่า การตัดสินใจเดินทางกลับรัสเซียของนาวัลนี เป็นการท้าทายอำนาจปูตินโดยตรงและยังสร้างสถานการณ์ลำบากให้กับทำเนียบเครมลินอีกด้วย โดยจะทำให้นาวัลนีกลายเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละทางการเมืองที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้คน
และยังเสี่ยงจะทำให้รัสเซียต้องเผชิญหน้ากับความกดดันจากชาติตะวันตกที่จะงัดมาตรการคว่ำบาตรขึ้นมาเพื่อบีบให้รัสเซียปล่อยมือจากนาวัลนี ที่ถูกมองว่าตกเป็นเหยื่อของผู้กุมอำนาจรัฐที่พยายามจะใช้กฎหมายปิดปากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดยไม่ชอบธรรม
โรเซนเบิร์กยังมองว่า หากปูตินไม่ลงมือทำอะไรเลย บรรดานักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอย่างนาวัลนีจะยิ่งเป็นเสี้ยนหนามคอยสั่นคลอนรัฐบาลในช่วงเวลาสำคัญที่รัสเซียจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปีนี้ที่จะมีผลต่อชะตาการกุมอำนาจปกครองไว้ในมือของปูตินต่อไปอีกด้วย

ขณะที่ข้อเขียนแสดงความคิดเห็นของไมเคิล โบเคอร์คิว จากซีเอ็นเอ็นมองว่าการกล้าตัดสินใจของนาวัลนีในการเดินทางกลับมารัสเซีย แม้จะตระหนักดีว่าตนเองอาจจะเผชิญวิบากกรรมเลวร้ายอะไรได้บ้างนั้น เป็นการเสนอตัวเลือกให้ปูติน 2 ทาง
หนึ่ง คือการปล่อยให้นักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นอย่างนาวัลนี เป็นหอกข้างแคร่ของรัฐบาลต่อไป
หรือไม่ก็จับขังเอาไว้ด้วยหวังให้คนเหล่านั้นกลายเป็นดาวอับแสงที่โลกลืมไปเอง ซึ่งการเข้าจับกุมตัวนายนาวัลนีในทันทีของตำรวจรัสเซียได้แสดงให้เห็นทางที่ปูตินเลือกแล้ว
เป็นที่คาดหมายว่า นาวัลนีในวัย 44 ปี จะได้รับโทษจำคุกอย่างน้อย 3 ปีครึ่ง ในข้อกล่าวหาที่เขาถูกฟ้องร้องดำเนินคดีที่เจ้าตัวยืนกรานว่าเป็นข้อหาที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อปิดปากผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลปูตินที่มุ่งหวังจะเป็นประธานาธิบดีไปตลอดกาล
ตอนนี้นอกจากการกลับมาของนาวัลนีจะปลุกบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองในรัสเซียให้ปั่นป่วนร้อนระอุขึ้นได้แล้ว ยังช่วยปลุกให้โลกตะวันตกพากันออกแรงกดดันรัฐบาลปูตินหนักยิ่งขึ้น ที่มีเสียงแว่วๆ จากหลายชาติที่คุยถึงมาตรการแซงก์ชั่นรัสเซียกันอยู่
เพียงแต่ว่าจะทำให้ปูตินสะทกสะท้านได้หรือไม่!