ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 มกราคม 2564 |
---|---|
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
Facebook: @PITSANUOFFICIAL
สุขภาพฟันของนักฟุตบอล
เรื่องใหญ่ในอังกฤษ
ปัญหาสุขภาพฟันกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 จากสถิติของ British Dental Association หรือสมาคมทัตกรรมแห่งอังกฤษ พบว่า การเข้าตรวจรักษาฟันที่อังกฤษ ลดลงถึง 19 ล้านนัดหมาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมีนาคม-ตุลาคม 2019
เพราะกฎที่เข้มขึ้นมากเพื่อป้องกันการติดโควิด ทำให้คลินิกทำฟันไม่สามารถรับนัดคนไข้ได้มากเหมือนก่อน และขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำฟันก็ใช้เวลานานขึ้น ทำให้เวลารักษาคนไข้ลดลงไปด้วย
ปัญหาที่เกิดก็คือ สุขภาพช่องปากและฟันของคนอังกฤษแย่ลง เมื่อสุขภาพฟันไม่ดี ปัญหาสุขภาพอย่างอื่นก็ตามมา ถ้าฟันมีปัญหา การเคี้ยวอาหารก็มีปัญหาตามไปด้วย
หากเคี้ยวไม่ละเอียด จะเป็นสาเหตุของปัญหาระบบย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหารต่างๆ ให้ร่างกายไม่เต็มที่ สุดท้ายอาจจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
ดังนั้น ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกจึงให้ความสำคัญกับสุขภาพฟันของนักฟุตบอลเป็นอย่างมาก ต้องการมีการตรวจเช็กสุขภาพฟันกันอย่างละเอียดก่อนเซ็นสัญญาซื้อตัวนักเตะเข้าร่วมทีม
ตลาดซื้อขายนักฟุตบอลเดือนมกราคม 2021 ของอังกฤษเปิดทำการในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาอังกฤษ
และจะปิดตลาดในวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 5 ทุ่ม ตามเวลาอังกฤษ หรือ 6 โมงเช้าของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย
หลังจากที่นักฟุตบอลและทีมตกลงเรื่องราคา สัญญาค่าตัวกันได้แล้ว สิ่งสำคัญมากที่ต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ คือการทำ Medical Test
หรือการตรวจสุขภาพของนักฟุตบอล
แม้ทางพรีเมียร์ลีกไม่ได้ตั้งกฎเอาไว้ แต่ทีมที่ซื้อตัวนักเตะทำเองเพราะมีผลได้ผลเสียกับทีมโดยตรง
การตรวจสุขภาพนักฟุตบอลก่อนรับเข้าร่วมทีมนั้นทำกันอย่างละเอียดยิ่งกว่าการตรวจสุขภาพประจำปีซะอีก ส่วนใหญ่จะใช้เวลาตรวจ 2 วัน ทำสแกน MRI, ตรวจข้อต่อทุกส่วนของร่างกาย, ตรวจเลือด, ตรวจปฏิกิริยาตอบสนอง, ตรวจสายตา, ตรวจการได้ยิน และที่ขาดไม่ได้คือ การตรวจฟัน
หากตรวจสุขภาพนักฟุตบอลอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ผ่านตามมาตรฐานที่ทีมฟุตบอลตั้งไว้ นักฟุตบอลก็ไม่ได้รับการเซ็นสัญญาให้ร่วมทีม
หลายคนอาจงงว่าสุขภาพฟันที่แข็งแรง ไปเกี่ยวอะไรด้วยกับการเป็นนักฟุตบอลที่ดี
คำตอบก็คือ เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง เพราะช่วงฤดูกาลแข่งขัน ถ้านักฟุตบอลเกิดมีฟันคุด ฟันผุอย่างรุนแรง และเกิดปวดฟันสุดขีดขึ้นมา ก็อาจลงแข่งขันไม่ได้ หรือหากต้องผ่าฟันคุดก็จะใช้เวลาพักรักษาตัวหลายวัน
ทีมเวสต์แฮม (West Ham United) เป็นทีมฟุตบอลทีมแรกๆ ในอังกฤษ ที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพฟันของนักฟุตบอลทีมอย่างมาก
ย้อนไปเมื่อปี 2012 ราเวล มอร์ริสัน (Ravel Morrison) ซึ่งตอนนั้นเป็นนักเตะของทีม West Ham United เกิดอาการปวดฟันอย่างหนักตอนเดินทางแข่งขันอุ่นเครื่องที่เยอรมนี ช่วง Pre-Season Tour ซึ่งทางทีม West Ham United ต้องส่งตัวมอร์ริสันกลับไปถอนฟันที่อังกฤษ ซึ่งถูกถอนไปถึง 7 ซี่ ทีมต้องออกค่าทำรากฟันเทียมให้ถึง 1 ล้านบาท
นับแต่นั้นมา ทีมเวสต์แฮมให้ความสำคัญกับสุขภาพฟันของนักฟุตบอลในทีมอย่างมาก ตรวจสุขภาพฟันของนักเตะในทีมเป็นประจำทั้งช่วงฤดูกาลแข่งขัน
และหลังจบฤดูกาลไปแล้ว จะได้ไม่มีปัญหาปวดฟันตอนแข่งขันหรือขณะฝึกซ้อม
นอกจากสุขภาพฟันแล้ว ความงามของฟันก็มีความสำคัญต่อภาพลักษณ์ของนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม
ทีมลิเวอร์พูลมีทันตแพทย์ร็อบบี้ ฮิวจ์ส (Dr. Robbie Hughes) ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกทันตกรรม ชื่อ Dental Excellence ในเมืองลิเวอร์พูลเป็นคนทำฟันใหม่ให้ขาววาววับ เรียงเป็นระเบียบสวยให้กับเยอร์เก้น คลอปป์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
คุณหมอร็อบบี้ ฮิวจ์ส เล่าว่า เวลาทำฟันให้กับนักเตะระดับโลก เขาก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเวลาอ้าปากมา ฟันก็คือฟัน
สำหรับการเลือกรูปทรงฟันและสีฟันนั้น คุณหมอร็อบบี้บอกว่าเลือกให้เหมาะกับบุคลิกของเจ้าของฟัน ยิ้มออกมาแล้วฟันดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้า และฟันรับกับรอยยิ้ม
ถามเรื่องฟันอันขาวเป็นประกายของโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
คุณหมอร็อบบี้เล่าว่า ตอนให้ฟีร์มิโน่เลือกสีฟัน คุณหมอนำชาร์ตสีของฟันมาให้เลือก โดยมีระดับ 4, 3, 2 และ 1 โดยระดับ 1 นั้นเป็นสีขาวสุดๆ
ฟีร์มิโน่ดูชาร์ตระดับความขาวของสีของฟัน และตอบว่า “Beyond 1” ขอสีขาวสุดๆ ยิ่งกว่าระดับ 1 อีก
คุณหมอร็อบบี้หัวเราะกับสี “Beyond 1” ที่ฟีร์มิโน่ขอ ซึ่งคุณหมอก็จัดพิเศษให้ ฟีร์มิโน่ถูกใจมาก
ส่วนเยอร์เก้น คลอปป์ หลังจากเห็นฟันชุดใหม่ของฟีร์มิโน่ก็เลยไปทำฟันกับคุณหมอร็อบบี้
โดยบอกคุณหมอว่าชอบฟันของฟีร์มิโน่ แต่ไม่ต้องการสีขาวเว่อร์แบบนั้น!