ฤทธิ์บ่อน‘หลงจู๊’ระยองแหล่งระบาดโควิด-19ล้างบิ๊กสีกากีตะวันออกเด้งรูดผบช.ภ.2-4ผู้การ

กลายเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเรื่องบ่อนการพนัน ที่ก่อนหน้านี้ก็เปิดกันอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าหน้าที่

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีแบ๊กดี หรือจะมีอะไรบังตา บ่อนการพนันประเภทนี้จึงไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี

แต่เมื่อกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคโควิด-19 และดูว่าสถานการณ์จะรุนแรงจนควบคุมได้ลำบาก ดังเช่นที่เกิดขึ้นที่จ.ระยอง จันทบุรี ตราด และชลบุรี

จนกลายเป็นปัจจัยที่รุนแรงมากยิ่งกว่าแรงงานข้ามชาติเสียอีก

แม้ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิเสธ อ้างว่าเป็นแค่โกดังเก็บของ แต่ในที่สุดก็ยอมรับ

ตามมาด้วยการสั่งย้ายผบก.จว.รูดถึง 4 จังหวัด และถึงที่สุดแล้วผบช.ภาค 2 ก็รักษาเก้าอี้เอาไว้ไม่ได้
ต้องดูว่ามาตรการล้อมคอกครั้งนี้ จะมีผลอย่างไรหรือไม่

– ระทึกบ่อนพนันแพร่โควิด

เหตุการณ์นี้ถูกเปิดโปงเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2563 เมื่อนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าฯ ระยอง แถลงผลการติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จ.ระยอง ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อนับสิบคนโดยมีต้นเหตุมาจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งใกล้บขส.ระยอง พร้อมสั่งปิดสถานบันเทิง สนามชนไก่ และเตรียมดำเนินคดีเด็ดขาดกับบ่อนการพนัน

ทั้งนี้การปิดบังข้อมูลของผู้ติดเชื้อว่าไปเล่นการพนันในบ่อน ทำให้ไม่สามารถสืบสวนหาไทม์ไลน์ได้ทันท่วงที

ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามว่าทำไมจังหวัดใหญ่อย่างระยอง จึงปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันกลางเมือง และในช่วงที่โรคโควิดระบาด ยังปล่อยให้เป็นพื้นที่แพร่เชื้ออีกด้วย
หลังจากข่าวปรากฏออกไป พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบช.ภาค 2 ก็รุดเดินทางมาที่จ.ระยอง เพื่อประชุมหารือร่วมกับพล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ขณะที่พล.ต.ต.ปภัชเดชระบุว่า จ.ระยองไม่มีบ่อนการพนัน แต่อาจมีผู้ลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมายเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับตลอด มีสถิติผลการจับกุมเป็นที่ประจักษ์

ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธ.ค. 2563 พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน ผกก.สภ.เมือง ระยอง นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานที่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นบ่อนการพนันภายใน ซอยจิตรพันธ์ ข้างบขส.เก่าระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง

พบด้านหน้าอาคารคล้ายโกดังขนาดใหญ่ชั้นเดียวปิดมิดชิดทุกด้าน ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 20 เมตร ยาว 20 เมตร ไม่ีสิ่งของวางอยู่ มีเพียงแอร์ขนาด 2 ตัน 2 ตัว ติดตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังพบการกั้นห้องขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร อีก 2 ห้อง ตบแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายที่สวยงาม ไม่พบอุปกรณ์เกี่ยวกับการพนันอยู่เลย

พ.ต.อ.พรัชต์ศรุตระบุว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเป็นบ่อนการพนัน น่าจะเป็นโกดังเก็บสินค้ามากกว่า!??
ทั้งนี้ข้อมูลของตำรวจระยองที่ออกมาปฏิเสธล้วนสวนทางกับการรับรู้ของประชาชน โดยเฉพาะคนในพื้นที่ ที่ทราบกันดีว่าบ่อนการพนันข้างบขส.เก่านั้นมีอยู่มานานแล้ว เข้าขั้นบ่อนถาวรประจำเมืองเลยทีเดียว แถมเมื่อเสิร์ชแผนที่ในกูเกิ้ลก็ยังพบ

โดยมีเจ้าของคือ ‘หลงจู๊’ คนดังของเมืองระยอง ผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกงานสังคมนับไม่ถ้วน มีภาพถ่ายยืนยันความแนบแน่นของคนระดับบิ๊กๆ ทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ

ไม่เพียงแค่นั้นยังพบว่า มีชายอายุ 26 ปี ที่ติดโควิด เป็นลูกชายของ ‘หลงจู๊’ คนดัง มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ติดตามของอนุกรรมาธิการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร และมีไทม์ไลน์มาร่วมประชุม กมธ.ที่สภาอีกด้วย

ทุกอย่างชี้ชัดแล้วว่าไม่ใช่แค่ ‘โกดัง’ ธรรมดาๆ แน่นอน

– นายกฯ-ผบ.ตร.สั่งเข้มงวด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ก็ต้องออกมายอมรับว่ามีบ่อนการพนันในประเทศจริง โดยระบุว่า ทราบดีว่าบ่อนการพนันมีทั้งในประเทศและนอกประเทศ บ่อนขนาดใหญ่ บ่อนวิ่ง จะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดมากที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่ยังมีการเล่นการพนันอยู่ ไม่อยากไปโทษประชาชน มันเป็นเรื่องของทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนต้องร่วมมือกัน สถานที่ใดก็ตามที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ แพร่ระบาด ในประเทศไทย ต้องขจัดให้มากที่สุด พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสืบสวนอยู่ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องการลักลอบออกไปเล่นพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้านด้วย

“ใครรู้ตัวว่าเข้าไปเล่นพนันในบ่อน เราไม่ได้ติดตามเพื่อไปลงโทษ ขอให้ทุกคนเข้าไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรอง เนื่องจากตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมครอบครัวควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเข้าไปแอบเล่นในบ่อนวิ่งหรือบ่อนในต่างประเทศก็ตาม”

ด้านผบ.ตร. ก็ระบุว่า ส่งชุดเข้าไปตรวจสอบแล้ว ยอมรับว่ายังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการเอาผิด ที่ผ่านมาการลักลอบเล่นการพนัน หรือบ่อนพนัน มักกล่าวอ้างบุคคลตัวละครเจ้าของบ่อน อ้างชื่อบุคคลสำคัญ นักการเมือง ให้การสนับสนุน

กรณีนี้ตำรวจทราบดี เท่าที่สื่อมวลชนทราบ แต่การทำงานของตำรวจเมื่อไม่มีพยานหลักฐาน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ฝากไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังบ่อนพนันให้ระวังตัวไว้ หากมีหลักฐานเมื่อใดจะดำเนินคดีทันที

เช่นเดียวกับในพื้นที่กทม. ซึ่งหากจำกันได้เคยมีกรณียิงกันตายถึง 4 ศพ คาบ่อนพระราม 3 โดย 1 ในผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สารวัตร (สอบสวน) สน.แสมดำ ที่ระบุว่าเจ้าของบ่อนคือเฮียตี้ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ

ก็เข้าตรวจสอบกันอย่างคึกคัก ทั้งบ่อนลอยฟ้า ย่านปิ่นเกล้า ที่พบว่ากลายเป็นห้องจัดเลี้ยง รวมทั้งบ่อนดอนเมือง ที่เข้าตรวจสอบพบอุปกรณ์เล่นพนัน แต่ไม่พบนักเล่น พบเพียงผู้ดูแลเป็นชาวกัมพูชา จึงจับกุมเจ้าของสถานที่ดำเนินคดี

ซึ่งคาดว่าคงจะต้องปูพรมตรวจค้นกันอย่างต่อเนื่องต่อไป

ปูพรมล้อมคอกกันอย่างคึกคัก

– เด้งผบช.ภ.2-4 ผู้การฯ
ขณะที่การเอาผิดตำรวจที่ละเลย ก็เกิดขึ้น เมื่อ พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบช.ภ.2 มีคำสั่งของตำรวจภูธรภาค 2 ที่ 421/2563 ลงวันที่ 28 ธ.ค.63 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเล่นการพนัน ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร

พร้อมให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ6(2) และข้อ 8(2) ซึ่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2 โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม และให้อยู่ในการควบคุมกำกับดูแลของผบก.อก.ภ.ภาค 2 4 นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.ท.เกียรติพงศ์ กรมขุนทด รองผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.เมือง ระยอง 2.พ.ต.ท.โกศล เกิดมณี รองผกก.สส.สภ.เมือง ระยอง 3.พ.ต.ท.คำพันธ์ ขวัญทอง สว.สส.สภ.เมือง ระยอง และ 4.พ.ต.ต.ธนา วิเศษชัย สวป.สภ.เมือง ระยอง

ไม่เพียงแค่นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ยังระบุว่าได้ลงนามคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และให้ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผบช.ภาค 2 ไปปฏิบัติหน้าที่แทน

พร้อมให้พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่หรือไม่ โดยให้รายงานผลภายใน 3 วัน ทั้งนี้ที่พล.ต.ต. ปภัชเดชระบุว่า ไม่มีบ่อน แต่เป็นโกดัง ถือเป็นความเห็นส่วนตัว ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

และไม่ใช่ที่ระยองจังหวัดเดียวที่พบว่ามีบ่อนการพนัน และปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด

เพราะต่อมาวันที่ 30 ธ.ค. 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์มีคำสั่ง ตร.ที่ 719/2563 ให้ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มาปฏิบัติราชการที่ศปก.ตร. โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผอ.ศปก.ตร.มอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมให้ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รองผบช.ภาค 1 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

วันที่ 4 ม.ค. 64 พล.ต.ท.วีระ ผบช.ภาค 2 มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และให้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภาค 2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เนื่องจากปล่อยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ โดยให้พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.ภาค 2 รักษาราชการแทน

วันที่ 5 ม.ค. 64 ผบช.ภาค 2 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 2 ที่ 6/2564 ให้พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผบก.ภ.จว.ตราด มาปฏิบัติราชการที่ศปก.บช.ภ.2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมี คำสั่งเปลี่ยนแปลง

6 ม.ค. 64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 2/2564 ให้พล.ต.ท.วีระ ผบช.ภ.2 ไปปฏิบัติราชการที่ศปก.ตร. ให้พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ภ.2

สะเทือนไปถึงเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค!??

ส่วนจะมีใครถูกหางเลขเพิ่มอีกหรือไม่ ต้องติดตาม