สุรชาติ บำรุงสุข | 16 ประเด็น ที่ต้องจับตา และอาจจะทำให้ โลกเปลี่ยน & เปลี่ยนโลก! ในปี 2021

ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข

ยุทธบทความ | สุรชาติ บำรุงสุข
2021 : โลกเปลี่ยน & เปลี่ยนโลก!
“โลกยุคหลังการระบาดกำลังมา… โลกที่อุบัติขึ้นหลังจากการระบาดจะมีการปรับเปลี่ยนในด้านต่างๆ ทั้งในแบบค่อยเป็นค่อยไป และในแบบที่น่าตื่นเต้น”
Derek Thompson
The Atlantic (December 2020)


หากมองโลกในปี 2021 เราอาจคาดคะเนอนาคตถึงความเปลี่ยนแปลงใหญ่ใน 16 ประเด็น

ดังนี้

1)การต่อสู้เพื่อครองความเป็นใหญ่ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน (hegemonic struggle)

: ทิศทางการต่อสู้ระหว่างสองมหาอำนาจใหญ่ของโลกจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำของสหรัฐ

เพราะสังคมอเมริกันโดยรวมมีทัศนะในเชิงลบต่อจีนมากขึ้น

ฉะนั้น การต่อสู้และแข่งขันในเวทีโลกเช่นนี้จะมีส่วนโดยตรงต่อการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง

ซึ่งน่าสนใจว่า ความสัมพันธ์เช่นนี้ในอนาคตจะแตกต่างไปจากการแข่งขันอย่างเข้มข้นในยุคของทรัมป์อย่างไร

2)การเปลี่ยนแปลงผู้นำใหม่ของทำเนียบขาว และการสิ้นสุด “ยุคของทรัมป์”

: การสิ้นสุดบทบาทของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะมิได้หมายถึงการสิ้นสุดของกระแสขวาสุดโต่ง (far right) ในการเมืองอเมริกัน

กระแสดังกล่าวยังคงอยู่ และจะมีส่วนอย่างมากกับการเมืองภายในของสหรัฐ

โดยเฉพาะในประเด็นของปัญหาสีผิว ปัญหาการใช้ความรุนแรงของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผิว ดังจะเห็นได้ถึงการจลาจลและความรุนแรงที่เกิดในสังคมอเมริกันในปีที่ผ่านมา

จนเป็นคำถามว่าทิศทางของกลุ่มการเมืองแบบ “ขวาสุดโต่ง” (หรือจะหมายถึงพวกขาวจัดก็ตาม) จะดำเนินต่อไปอย่างไรในสภาวะที่ไม่มีทรัมป์เป็นประธานาธิบดี

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งไม่มีทัศนะที่จะสนับสนุนกระแสขวาสุดโต่งเช่นในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา จะสามารถลดทอนความเข้มข้นของกระแสขวาสุดโต่งได้หรือไม่

3)การปรับใหญ่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐใน “ยุคของไบเดน”

: การขึ้นสู่อำนาจที่ทำเนียบขาวของโจ ไบเดน จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่ถูกผลักดันในยุคของทรัมป์อย่างไรหรือไม่

ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า ไบเดนอาจจะปรับยุทธศาสตร์ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ แต่ก็อาจจะมิได้หมายถึงการยกเลิกยุทธศาสตร์ดังกล่าว เพราะยุทธศาสตร์นี้ยังอาจมีความจำเป็นสำหรับ “การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์” ที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐกับจีน

ดังนั้น การขยายแนวคิดและพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ในการสร้างพันธมิตรเพื่อการรับกับการขยายอิทธิพลของจีน จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกทั้งนักคิดทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐเองก็มีทัศนะคล้ายคลึงกันในการดึงอินเดียเข้าร่วมเป็นพันธมิตรหลักในยุทธศาสตร์นี้

ควบคู่ไปกับการยืนกับพันธมิตรเดิมคือ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

4)การพัฒนากำลังรบของจีนให้เป็นมหาอำนาจทางทหารในระดับแนวหน้าของโลก

: การปฏิรูปกองทัพจีนในยุคของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในปี 2015 และดำเนินสืบเนื่องมาเป็นลำดับ

โดยเฉพาะการยกระดับขีดความสามารถของกำลังพลในส่วนต่างๆ การเพิ่มขีดความสามารถนี้ยังเน้นถึงการฝึกของนายทหารระดับสูงด้วย

กล่าวคือ จะต้องทำการเพิ่มขีดความสามารถของกำลังพลตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาลงมาจนถึงกำลังพลระดับล่าง เพื่อให้จีนมีกองทัพระดับแนวหน้าของโลก

และการพัฒนาคู่ขนานคือ การยกระดับขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์ ซึ่งจีนให้ความสนใจกับการพัฒนาระบบอาวุธสมัยใหม่ ที่มีพื้นฐานของเทคโนโลยีระดับสูงมาโดยตลอด

เช่น แนวคิดในการขยายจำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินให้มากขึ้น และยังมีความต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์อีกด้วย

การขยายอำนาจกำลังรบเช่นนี้จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญของการแข่งขันกับสหรัฐในปี 2021

5)การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐและรัสเซีย และผลกระทบต่อข้อตกลงจำกัดอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางในยุโรป (INF Treaty)

: สหรัฐในสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตัดสินใจยกเลิกความตกลงนี้ในปี 2019

การยกเลิกดังกล่าวเป็นสัญญาณการเริ่มต้นอีกครั้งของการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย

ดังนั้น จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐคิดเรื่องนี้อย่างไร

และสหรัฐจะดำเนินการอย่างไรกับอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางในเวทีโลกในปี 2021

6)ปัญหาความตกลงในการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ (START) ที่จะหมดอายุลงในปี 2021 และการสร้างตัวแบบใหม่ของการควบคุมอาวุธในศตวรรษที่ 21

: ความตกลงในการลดอาวุธระหว่างสหรัฐกับรัสเซียลงนามในปี 2010 และถึงวาระของการเจรจาครั้งใหม่ในปี 2021 เพื่อลดจำนวน

1) หัวรบนิวเคลียร์

2) ระบบส่งของอาวุธนิวเคลียร์

3) ระบบส่งทั้งที่ประจำการและไม่ประจำการ

ฉะนั้น ปัญหาการเจรจาเรื่องนี้เป็นความท้าทายที่สำคัญประการหนึ่งที่จะมีผลกระทบต่อการเมืองโลกในอนาคต และผู้นำสหรัฐและรัสเซียจะมีท่าทีต่อปัญหาการลดอาวุธประเภทนี้อย่างไร

และจะบรรลุผลการเจรจาเพื่อสร้าง “ตัวแบบใหม่” ได้หรือไม่

7)การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและอิหร่าน

: อีกด้านหนึ่งของปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ในการเมืองโลกคือ กรณีอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและอิหร่าน

ซึ่งในทั้งสองกรณีมีผลต่อการเมืองโลกในอีกแบบ

และคงต้องติดตามว่า ผู้นำใหม่ของสหรัฐจะมีท่าทีต่อปัญหาทั้งสองนี้อย่างไร

และเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท้าทายต่อผู้นำใหม่ของสหรัฐในปี 2021 อย่างมาก

โดยเฉพาะทำอย่างไรที่จะทำให้ “กระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์” ประสบความสำเร็จ (denuclearization)

ไม่ใช่มีแต่เพียงการพบกันระหว่างผู้นำสูงสุด

8)การระบาดของเชื้อโควิด-19 และผลกระทบต่อการเมืองโลก

: ปี 2021 จะเป็นช่วงเวลาที่เห็นผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิดกับประเทศต่างๆ มากขึ้น

ดังนั้น บทบาทของสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกจะยังมีความสำคัญ

ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้การแก้ปัญหามีลักษณะเป็นพหุนิยม

เพราะความร่วมมือระหว่างประเทศจะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรง

และการสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมถึงความปลอดภัยทางด้านชีววิทยา (biosafety)

9)ผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 กับเศรษฐกิจการเมือง

: การระบาดที่เกิดขึ้นส่งผลอย่างมาก จนอาจทำให้ให้ภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2021 ยังอยู่ในภาวะถดถอย และทั้งยังกระทบโดยตรงกับโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอีกด้วย

นอกจากนี้ ผลที่เกิดขึ้นยังก่อให้เกิดการตกงาน และการขยายตัวของความยากจนเป็นไปในวงกว้าง อันเป็นผลจากการปิดตัวของภาคอุตสาหกรรม การหดตัวภาคบริการ รวมถึงการล้มละลายของภาคธุรกิจ

ผลในด้านหนึ่งจะทำให้เกิดการประท้วงและความไม่สงบทางการเมืองมากขึ้น และในอีกด้านจะมีเสียงเรียกร้องให้สร้างความเป็นธรรมและลดช่องว่างทางเศรษฐกิจสังคม พร้อมกับข้อเรียกร้องเรื่องรัฐสวัสดิการ และการฟื้นตัวของกระแสสังคมนิยม (ที่มิได้หมายถึงลัทธิคอมมิวนิสต์ในแบบเดิม) ขีดความสามารถของรัฐในการบริหารจัดการจึงมีความสำคัญอย่างมากในปีหน้า และการแพร่ระบาดที่ยังไม่ยุติในปี 2021 จะส่งผลให้เกิดการหยุดยั้งของกระแสโลกาภิวัตน์ (deglobalization) หรือไม่

หรือโลกาภิวัตน์ในยุคหลังโควิด-19 จะเป็นในรูปแบบใด

10)การแข่งขันในการผลิตวัคซีนต้านโรคระบาดโควิด-19 (Vaccine Race) [คล้ายคลึงกับการแข่งขันสู่อวกาศ (Space Race) ในยุคสงครามเย็น]

: หนึ่งในประเด็นสำคัญของการแข่งขันในเวทีโลกปัจจุบันคือ การสร้างความเป็นมหาอำนาจทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข

ที่จะสะท้อนอย่างมีนัยสำคัญจากความสำเร็จในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19

เพราะการค้นพบสิ่งนี้จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการยับยั้งการแพร่ของโรคระบาดในอนาคต และจะมีส่วนโดยตรงต่อการหยุดการเสียชีวิตที่เป็นจำนวนมากของผู้คนในหลายประเทศ

11)การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กับปัญหาความมั่นคงใหม่

: ความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข (Health Security) จะเป็นประเด็นสำคัญในปี 2021

พร้อมกับจะมีเสียงเรียกร้องให้รัฐให้ความเร่งด่วนในปัญหานี้

อันมีนัยถึงการที่รัฐต้องลดงบประมาณในส่วนอื่น โดยเฉพาะงบประมาณทางทหาร เพื่อนำมาเสริมสร้างความมั่นคงในบริบทนี้

รวมทั้งการฟื้นฟูชีวิตของสังคมและประชาชนในยุคหลังโควิด

12)ความเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตในยุคหลังโควิด-19

: โลกออนไลน์จะเป็นพื้นที่สำคัญของการทำกิจกรรมของมนุษย์ในปี 2021 ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การกีฬา การดนตรี การค้าและธุรกิจ การสันทนาการและความบันเทิง และอาจรวมถึงเรื่องทางศาสนาด้วย

ตัวอย่างเช่น ชีวิตในโลกออนไลน์เช่นนี้ทำให้การเดินทางไม่มีความจำเป็น

คนใช้ชีวิตทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่บ้าน อันส่งผลให้ระบบขนส่งมวลชนในหลายเมืองใหญ่ประสบปัญหาวิกฤต ไม่ต่างจากธุรกิจสายการบิน

ในอีกด้านห้องเรียน ห้องดนตรี สนามกีฬา หรือร้านขายของถูกจับมาไว้ในโลกออนไลน์

ผลจากบททดสอบจริงในปี 2020 จะยิ่งทำให้ชีวิตในปี 2021 เข้ามาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น

และถ้าการระบาดยังควบคุมไม่ได้จริงแล้ว โลกออนไลน์จะเป็นคำตอบสำคัญของชีวิตในปีใหม่นี้

การสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโลกออนไลน์จะเป็นหัวข้อสำคัญในการเรียกร้องทางการเมือง

รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อรับกับโลกยุคหลังโควิด-19

13)การต่อสู้และแข่งขันของเทคโนโลยีสารสนเทศ 5 G

: อีกมิติหนึ่งของการแข่งขันที่สำคัญในเวทีโลกคือ การแข่งเพื่อเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบ 5 จี

ซึ่งการแข่งขันเช่นนี้ด้านหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของการต่อสู้ไม่ใช่เพียงระหว่างสหรัฐกับจีน

แต่อาจมีนัยถึงการแข่งขันระหว่างค่าย “ตะวันตก vs ตะวันออก”

และการแข่งขันนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในปี 2021

อีกทั้งการแข่งขันเทคโนโลยี 5 จี ยังขยายตัวไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

การเลือกใช้เทคโนโลยีของประเทศเล็กจะมีนัยของการเลือกข้างทางการเมืองระหว่างประเทศอีกด้วย

14)ปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (Climate Change)

: ไม่ว่าโลกจะเผชิญกับปัญหาหรือความท้าทายใด แต่หนึ่งในประเด็นสำคัญของการเมืองโลกจะยังคงเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ และปัญหานี้ทวีความสำคัญมากขึ้นในแต่ละปี และปี 2021 จะยังคงเห็นความแปรปรวนของอากาศไม่ต่างจากปีที่ผ่านๆ มา

ดังนั้น ความตกลงปารีสจึงยังคงเป็นหัวข้อสำคัญของการเมืองโลกในปีใหม่

15)ความผันผวนของการเมืองยุโรป
: การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะครบรอบ 1 ปีในวันที่ 1 มกราคม 2021 จะส่งผลอย่างไรกับอังกฤษและกับอียู

และในปีใหม่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเนเธอร์แลนด์และในเยอรมนี

ผลการเลือกตั้งจะมีความสำคัญต่ออนาคตของอียู และต่อการเมืองในประเทศทั้งสอง

ที่กระแสประชานิยมปีกขวายังมีความรุนแรง โดยเฉพาะกับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น

16)การเติบโตของเอเชียในการเมืองโลก
: การฟื้นตัวของรัฐเอเชียในยุคหลังโควิด-19 เป็นประเด็นที่ถูกจับตามมองอย่างมากว่า เอเชียจะฟื้นตัวได้จริงเพียงใดในปี 2021

หรือการฟื้นตัวนี้อาจจะเป็นเฉพาะในส่วนของจีน

แต่สำหรับหลายๆ ประเทศในเอเชียแล้ว การฟื้นตัวในปีใหม่อาจจะยังไม่ใช่เรื่องง่ายนัก!