หลังเลนส์ในดงลึก : ‘แมวชรา’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
วัวแดง - วัวแดงตัวผู้ชราตัวนี้ มีร่างกายอันผ่ายผอม แสดงให้เห็นว่า เวลาของมันเหลือไม่มากนัก ริ้วรอยบนตัวบอกให้รู้ว่า มันผ่านวันเวลามาอย่างโชกโชนเพียงไร

‘แมวชรา’

หลังอยู่ในป่ามากว่าสองสัปดาห์ เดินลงจากสันเขา ต้องเกร็งขาบนทางลื่นๆ นานหลายชั่วโมง เมื่อได้กลับมาพักที่หน่วยพิทักษ์ป่า นั่งข้างกองไฟอุ่นๆ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นความสบายอันรื่นรมย์ที่สุดแล้ว

05.50 นาฬิกา ผมนั่งข้างกองไฟ ไอร้อนช่วยให้อุณหภูมิ 8 องศาเซลเซียสอุ่นขึ้นบ้าง

น้ำในกาที่แขวนไว้เหนือกองไฟเริ่มเดือดส่งไอขาว ตัวกาถูกรมด้วยเขม่าดำ

ผมเทน้ำในกา สีชาเป็นน้ำต้มรากไม้อะไรสักอย่าง ที่ใครสักคนใส่ไว้นาน ลงในถ้วย

เป็นถ้วยที่ผมใช้มานาน มันกะดำกะด่างเสียรูปทรงไปบ้าง แต่ใช้งานได้ทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ ผมใช้มาตลอด ไม่ว่าจะเข้าไปทำงานในป่าไหน ยางหุ้มที่จับหลุดล่อนไป ที่จับมีหวายหุ้มอยู่ หวายหุ้มเป็นฝีมือเพื่อนชาวกะเหรี่ยงจัดการให้

น้ำจากกาสีชาเข้ม รสชาติเฝื่อนๆ น้ำต้มนี้คงมีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อย

ขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกเปลี่ยนจากสีชมพูเรื่อๆ เป็นสว่างจ้าขึ้น

กองไฟอยู่หลังครัวติดลำห้วย ถัดจากกองไฟราว 5 เมตร มีไทรต้นหนึ่งกำลังออกลูกสุก

ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี นกโพระดกคอสีฟ้าหลายตัวบินเข้า-ออกอย่างคึกคัก

ผมนั่งบนเก้าอี้พับ บนพื้นข้างๆ มีแมวสีขาว ช่วงหลังเป็นสีน้ำตาลตัวหนึ่งนอนขดอยู่

แมวตัวนี้อยู่ที่นี่มานาน คล้ายเป็นหนึ่งในสมาชิกของหน่วย

ว่าตามจริง มันอยู่อย่างผิดกฎ แมวบ้านอย่างมันไม่มีสิทธิ์อยู่ในป่าอย่างนี้หรอก

มันเป็นแมวที่ชรามากแล้ว ร่างกายค่อนข้างผอม ดวงตาสีเขียวข้างซ้ายดูฝ้าฟาง แมวตัวนี้ไม่มีชื่อ ไม่มีใครตั้งชื่อให้

มันไม่เข้ามาคลอเคลียคน เลือกอยู่เงียบๆ เพียงลำพัง

8 องศา คืออุณหภูมิปกติ เมื่อฤดูฝนจากไป ฤดูแล้งอย่างจริงจังของเหล่าสัตว์ป่าเริ่มต้น เป็นช่วงที่ป่ามีชีวิตชีวา เสียงนกเซ็งแซ่ ท้องฟ้าสีครามเข้ม บนด่านทากลดน้อยลง สิ่งที่เพิ่มมากขึ้นคือเห็บ ถึงฤดูกาลที่คนจะมีจุดแดงๆ ทั่วร่างกาย และคัน

ถ้าเทียบกับช่วงฤดูฝน สำหรับสัตว์ป่า นี่คือช่วงเวลาที่คึกคักมากกว่า

แหล่งอาหารเสริมอย่างโป่งทุกโป่ง มีรอยตีนกระทิง เก้ง กวางเหยียบย่ำไว้เป็นเทือก กระทั่งดูเหมือนคอกสัตว์เลี้ยง

“ที่นี่แหละ จะคึกคักมาก” หลายคนบอก และชี้ให้ดูในแผนที่

พวกเขาเดินลาดตระเวนผ่านและเข้าไปตรวจสอบร่องรอยสัตว์ป่าเพื่อเก็บข้อมูล

“เดินสองวันก็ถึง ไม่ไกลหรอก” พวกเขาบอกอย่างผู้ชำนาญ ผมรู้ดีว่า การไปถึงนั่นไม่ง่ายนักแน่

แต่ถึงวันนี้แล้ว เส้นทางยาวไกลหรือทุรกันดาร ไม่ใช่อุปสรรค รู้จังหวะการเดินของตัวเอง

ก้าวเท้าไปเรื่อยๆ จุดหมายก็อยู่ไม่ไกล

ผมพบว่า เป็นการเดินสองวันที่ไม่ง่ายจริงอย่างที่คาด และโป่งก็คึกคักอย่างที่ควรเป็น

แมวชรานอนนิ่งไม่ขยับ เสียงนกสำเนียงแปลกๆ แต่คุ้นหูดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมเงยหน้าขึ้นมอง ในแสงอ่อนละมุนยามเช้า นกติ๊ดสุลต่านตัวหนึ่งเกาะบนกิ่งไม้แห้งๆ หงอนสีเหลืองสะท้อนแสงสดใส

ติ๊ดสุลต่าน คือนกที่ครั้งหนึ่งผมพยายามตามหาอย่างจริงจัง

ความกระตือรือร้นยามวัยเยาว์ ช่างดูสดใส

ที่สุดผมพบนกตัวนี้ครั้งแรกที่ดอยอินทนนท์ ผมดูมันผ่านกล้องสองตา

วันนี้มันเกาะบนกิ่งไม้แห้ง แสงอ่อนละมุนยามเช้าส่องกระทบ นี่จะเป็นภาพนกอันสวยงาม ผมไม่คิดจะเดินไปเอากล้องเพื่อถ่ายรูป ว่าไปแล้ว ผมไม่เคยถ่ายรูปนกตัวนี้เลยสักครั้ง

เหตุผลเพราะบางอย่างก็อยากเพียงเก็บไว้ในใจ

กลับมาพักในหน่วยพิทักษ์ป่า อาหารการกินดู “หรูหรา” เมื่อเทียบกับการกินในแคมป์ที่ผ่านมา

เมนูหลักคือน้ำพริก พร้อมผัก หรือใบไม้สารพัด

หลายคนเดินรอบๆ หน่วย เก็บผัก เก็บใบไม้มา พวกเขารู้ดีว่า ชนิดไหนต้องต้ม อย่างไหนกินสดจึงได้รสชาติ

หลังข้าวเย็น บางวันมีมันเผา บางวันมีคนกลับจากหมู่บ้าน ค่ำนั้นจะมีถั่วเขียวต้มน้ำตาลหวานจัด

อยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งอาหารสำหรับสัตว์ป่ามาก สำหรับผม นี่ไม่ใช่การทำงานที่ง่าย ฤดูแล้งมีแค่ระยะเวลาสั้นๆ แหล่งอาหารมีทั่วไป ลำห้วยไม่ขาดน้ำ สัตว์ป่าไม่จำเป็นต้องมารวมอยู่ตามแหล่งน้ำที่เหลือไม่กี่แห่ง

หน้าที่ผมคือ ไปรออยู่ในที่อันเหมาะสม

เฝ้ารอ รอเวลาที่สัตว์อนุญาตให้พบ

แสงแดดแรงขึ้น ความคึกคักที่ต้นไทรลดลง กองไฟเริ่มมอด ไร้เปลว เหลือแค่ควันลอยปลิวตามลมเป็นสาย

ผมมองที่ต้นไทร ลูกไทรสุกคืออาหารที่ดีของสัตว์ป่า ในป่าไทรจะทยอยออกลูกสุก ในป่าไม่เคยขาดลูกไทรสุก

ไทรหลายชนิดออกลูกตามเวลาที่สอดคล้องกับความต้องการของสัตว์และนก เพื่อนำไปเลี้ยงลูกเล็ก

แมวชราตัวนั้นหายไปแล้ว มันคงลุกขึ้นเดินไปตอนผมกำลังมองที่ต้นไทร

ผมไม่รู้หรอกว่ามันไปไหน มันไม่เคยเข้ามาคลอเคลียกับคน การอยู่เพียงลำพังคือสิ่งที่มันเลือก

ผมไม่รู้ว่ามันไปไหน หรือจะพบมันอีกเมื่อไหร่

มันเป็นแมวชราธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง ที่อยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่าอย่างผิดกฎ

ผ่านวันเวลามาถึงวันนี้ ผมเข้าใจเหตุผลของ “แมวชรา” ดี