รายงานพิเศษ / ปีใหม่ กับนายกฯ ไม่รู้ล้ม คนเก่า แอบส่อง ‘ลุงเสือ’ นะจ๊ะ ของทีมตึกไทยคู่ฟ้า สไตล์ลายพราง จับตาทัพฟ้า อาถรรพ์ภาค 3

รายงานพิเศษ

 

ปีใหม่

กับนายกฯ ไม่รู้ล้ม คนเก่า

แอบส่อง ‘ลุงเสือ’ นะจ๊ะ

ของทีมตึกไทยคู่ฟ้า

สไตล์ลายพราง

จับตาทัพฟ้า อาถรรพ์ภาค 3

 

แม้จะเผชิญกับปัญหาโควิดครั้งใหม่ ครั้งใหญ่กว่าเดิม หนักกว่าเดิม แต่บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ดูไม่เครียดเท่าการระบาดครั้งแรก

อาจเพราะมั่นใจในระบบสาธารณสุข ความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยจำนวนมากและยาเวชภัณฑ์ และมีประสบการณ์จนนายกฯ ยืนยันว่า เป็นโควิดแล้วไม่ตาย เพราะรักษาได้

ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองก็คลี่คลายลง ทั้งม็อบคณะราษฎรที่แผ่วลง เป็นช่วงพักยก และผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่คณะก้าวหน้าของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.เลยแม้แต่จังหวัดเดียว

ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ได้แค่ 9 จังหวัด ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงในนามพรรค แต่ก็รู้กันว่าพรรคสนับสนุน ก็ได้รับเลือกเข้ามาเป็นส่วนใหญ่

ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์มีสมาธิในการบัญชาการแก้ปัญหาโควิดเต็มที่

ทั้งการติดตามหาตัว จนท.รัฐ และขบวนการลักลอบค้าแรงงานต่างด้าวเถื่อน ที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่นำแรงงานติดเชื้อเข้ามาในประเทศ

โดยมอบหมายให้บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คุมภาพรวม และให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ติดตามความคืบหน้าจากคณะกรรมการพิเศษ ที่บิ๊กปั๊ด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ตั้งขึ้น ในการสืบสวนสอบสวนและเก็บพยานหลักฐาน

ส่วนงานของ ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ก็มอบให้บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ปกติก็เป็นคีย์แมนหลักในการขับเคลื่อนงาน ศบค.อยู่แล้ว แต่เสริมเขี้ยวเล็บด้วยการปรับโครงสร้างให้เป็น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. (ศปก.ศบค.) อีกตำแหน่งหนึ่ง จากที่มี 7 ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.)

ซึ่งเป็นการทำงานแบบทหารที่มีการตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการในด้านต่างๆ และมีผู้อำนวยการศูนย์ดูแลในแต่ละฝ่ายแต่ละด้าน

เหมือนเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ยุค คสช. ก็มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC-Prime Minister Operation Center) ที่มีการใช้มาจนยุคปัจจุบัน และมีนายทหารเป็น ผอ.ศูนย์พีม็อคนี้

นอกจากนี้ ยังคงมีนายทหารฝ่ายเสนาธิการมาทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าหน้าห้อง ที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นทหารที่เคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ในกองทัพ

มีเสธ.เก๋ พล.ต.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชยพงศ์ เป็นลูกเลิฟ ที่ดูแลทุกเรื่องก่อนจะถึงมือนายกฯ และเป็นทีมงานนายกฯ ที่ได้รับคำชื่นชมในความสุขุมรอบคอบ และถ่อมตนเสมอ แม้จะเป็นคีย์แมนสำคัญ

และมีเสธ.มิตต์ พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ ที่ช่วยดูแลเรื่องด้านพลังงาน

ส่วนงานการเมือง ก็มอบ พล.อ.ชัยชาญเป็นตัวแทนรัฐบาล ร่วมในคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ของรัฐสภา ในฐานะที่ พล.อ.ชัยชาญได้เคยเปิดโต๊ะกลมที่กลาโหม พูดคุยกับทุกกลุ่ม หลังรัฐประหารของ คสช. เพื่อทำสัญญาประชาคม แม้ว่าจะไม่ได้ผลอะไรก็ตาม

และยังดูแลกระทรวงกลาโหมให้เต็มที่ ร่วมกับทีมงานหน้าห้อง รมว.กลาโหม ที่นำโดยบิ๊กช้าง พล.อ.สุชาติ หนองบัว เลขานุการ รมว.กลาโหม. และทีม 4 ทหารเสือกลาโหมของบิ๊กตู่

ทั้งเสธ.กวาง พล.อ.ม.ล.กุลชาต ดิศกุล และเสธ.จิ้น พล.ท.ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม และเสธ.ม่อน พล.ต.อมร อมรวิริยะกุล และเสธ.หนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม คนใหม่แต่หน้าเก่า เพราะเป็นน้องเลิฟของ พล.อ.ประวิตร ที่คุ้นเคยกับนายกฯ มายาวนาน

ทั้งหมดยังคงทำงานและดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อยตามเดิมในปีใหม่

 

พล.อ.ประยุทธ์จึงมีอารมณ์ดี ยิ้มแย้ม และพูดคำว่านะจ๊ะๆ บ่อยๆ จนพูดออกสื่อในการไลฟ์สดหลังการประชุมใหญ่ ศบค. ที่มีมติไม่ล็อกดาวน์ประเทศ แต่แบ่งพื้นที่ 4 โซน

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์จะพูดคำว่านะจ๊ะๆ เสมอๆ ที่นักข่าวก็ได้ยินอยู่เนืองๆ เวลาอารมณ์ดี หรือต้องการจะขอความร่วมมือจากนักข่าวในเรื่องต่างๆ

แต่การพูดเรียกแทนตัวเองว่า “ลุงตู่” และใช้คำว่านะจ๊ะในไลฟ์สดของการแถลงข่าว อาจเป็นครั้งแรก

“ลุงตู่ห่วงใยทุกคนนะจ๊ะ รักทุกคนนะจ๊ะ…” บิ๊กตู่กล่าว เมื่อรู้ว่ากำลังออกไลฟ์สด

“พูดนะจ๊ะก็มีปัญหา” บิ๊กตู่เปรย

 

พล.อ.ประยุทธ์มีความผูกพันและความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์อย่างที่สุด นอกเหนือจากการที่เป็นทหาร

และถือเป็นนายทหารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรู้จักมาตั้งแต่ทรงยังเป็นพระบรมโอรสาธิราชฯ

จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์มีวันนี้ และเป็นนายกฯ ที่มีเก้าอี้ที่มั่นคงแข็งแรง ผ่านร้อนผ่านหนาว นำทัพการปกป้องสถาบัน ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของขบวนการล้มเจ้า ภายใต้ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน

จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังคงใช้สัญลักษณ์รูปเสือ ทั้งในโปรไฟล์โทรศัพท์มือถือและแอพพลิเคชั่นไลน์ เพราะความที่เป็นทหารเสือฯ

เพราะทหารเสือฯ ก็จะเรียกตัวเองว่าเสืออย่างภาคภูมิใจ แม้วันนี้จะเป็นเสือเก่า เสือแก่แล้วก็ตาม

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้โปรไฟล์รูปเสือ ส่งผลให้ทีมงานก็ใช้รูปเสือเช่นกัน

ด้วยความที่มีเสือหลายตัว เลยทำให้เกิดการเรียกขาน พล.อ.ประยุทธ์ในหมู่ทีมงานที่ทำงานใกล้ชิดในทำเนียบรัฐบาลว่าลุงเสือ ที่เป็นอันรู้กันว่าหมายถึงลุงตู่

โดยลุงเสือจะเน้นการสั่งงานแบบไลน์ตรงส่วนตัวมากกว่าไลน์กลุ่ม ยกเว้นที่สั่งเป็นนโยบาย ก็จะใส่ในไลน์กลุ่ม

ไลน์กลุ่ม ไม่ใช่มีแค่ไลน์กับทีมหน้าห้อง ทีมฝ่ายเสนาธิการ ทีมโฆษกเท่านั้น แต่มีไลน์กับ รมต.แต่ละคน และ ผบ.เหล่าทัพ รวมถึงระดับแม่ทัพภาคด้วย

ไลน์หรือข้อความ เอสเอ็มเอสเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ใกล้ชิดลูกน้องมากขึ้น และใกล้ชิดกับฝ่ายทหาร ที่แม้ไม่ค่อยเจอหน้า แต่ในฐานะ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคงติดตามงาน

ทั้งการส่งภาพหรือข้อความมาชม พร้อมสติ๊กเกอร์ และการสั่งงานด้วยข้อความ

ที่ส่วนใหญ่ถ้าส่งมาทางข้อความหรือไลน์ จะเป็นการชื่นชมและขอบคุณมากกว่า เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดี พล.อ.ประยุทธ์มักจะโทร.มาเองมากกว่า

 

ในภาพรวมแล้ว พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดี เพียงแต่อารมณ์เริ่มไม่ค่อยดีเมื่อโดนนักข่าวทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาประจำปี แม้ฉายา “ตู่ ไม่รู้ล้ม” จะเป็นแนวเชิงบวก แต่ฉายารัฐบาล “Very กู้” แล้ว นายกฯ ไม่ค่อยแฮปปี้

แถมฉายาของ รมต.หลายคนก็เรียกได้ว่า แรงและเจ็บแสบ ส่งผลให้นายกฯ หน้านิ่ง พูดถึงฉายาว่า สื่อก็สนุกสนานกันไป และให้ฟังประชาชนตั้งฉายาสื่อบ้าง

แต่ก็สะท้อนได้ถึงความไม่พอใจในการตั้งฉายา ที่เมื่อปีที่แล้วโดนตั้งฉายาอิเหนาเมาหมัด ก็เคยทำให้อารมณ์เสียมาแล้ว

แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามประเพณีของนักข่าวสายการเมือง ที่จะตั้งฉายาทุกปีกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะ 5 ปีที่เป็นนายกฯ จากรัฐประหาร สื่อก็งดตั้งฉายามาตลอด

 

ขณะที่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ดูเหมือนนิ่งสงบ แผ่วลง แต่สถานการณ์ทางการเมืองแถวทุ่งดอนเมือง ส่อเค้าจะเกิดความขัดแย้งขึ้นอีกยุค

หลังจากที่บิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีต ผบ.ทอ. เขียนความในใจ ส่งต่อกันในหมู่นายทหารที่ใกล้ชิด แสดงความเป็นห่วงกองทัพอากาศในยุคของบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.

หลังพบว่า มีการปรับเปลี่ยน แก้ไขในสิ่งที่ พล.อ.อ.มานัตได้วางแนวทางเอาไว้ในหลายโครงการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา

ทั้งนี้เพราะ พล.อ.อ.แอร์บูลต้องการทำให้รอบคอบ และรอบด้านมากขึ้น ขณะที่ พล.อ.อ.มานัตอาจจะมองในอีกแง่มุมหนึ่ง

โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนการทำงานของบริษัทอุตสาหกรรมการบิน หรือ TAI ของกองทัพอากาศ ที่จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ และโครงการต่างๆ ในงบประมาณปี 2564

เป็นการสะท้อนถึงระยะห่างระหว่าง พล.อ.อ.มานัต กับ พล.อ.อ.แอร์บูล แม้ว่า พล.อ.อ.มานัต รุ่นพี่ ตท.20 นายเรืออากาศ 27 จะเป็นคนเสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล รุ่นน้อง ตท.21 นนอ.28 ให้เป็น ผบ.ทอ. แบบม้ามืดก็ตาม

บรรดาลูกทัพฟ้าเริ่มรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิในทุ่งดอนเมืองที่เริ่มระอุมากขึ้น และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ หากไม่พบปะพูดคุยกัน

เพราะทุ่งดอนเมืองถิ่นทัพฟ้า เคยร้อนระอุในยุค นนอ.01 ที่แกนนำรุ่นขัดแย้งกัน เรื่องการชิงอำนาจ ชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ. ทั้งในยุคบิ๊กอู๊ด พล.อ.อ.วรนาถ อภิจารี บิ๊กเต้ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล และบิ๊กกันต์ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์

และมายุค นนอ.05 ในยุคของบิ๊กหม่อม พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ ผบ.ทอ. ต่อด้วย พล.อ.อ.อมร แนวมาลี เป็น ผบ.ทอ.

ในเวลานั้นมีชิงอำนาจกันเข้มข้น ทั้งบิ๊กถ่าง พล.อ.อ.ธำรงค์ เจริญรัชต์ และ พล.อ.อ.ธนนิตย์ เนียมทันต์

แต่ที่สุด พล.อ.อ.ธนนิตย์ได้เป็น ผบ.ทอ. นั่ง 2 ปี ก่อนที่ต่อมา พล.อ.อ.ธนนิตย์ได้ย้ายสลับตำแหน่งบิ๊กแก้ว พล.อ.อ.ธีรศิลป์ คัมภีรญาณนนท์ และบิ๊กแต๋ง พล.อ.อ.อำพล อินทรไทยวงศ์ และบิ๊กแดง พล.อ.อ.อุดมศักดิ์ มหาวสุ เพื่อนร่วมรุ่น นนอ.05 จนนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างหนัก

จนในที่สุด ในการโยกย้าย พล.อ.อ.ธนนิตย์ก็เลือก พล.อ.อ.สนั่น ทั่วทิพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. กลายเป็นตาอยู่ ได้เป็น ผบ.ทอ.มาแล้ว แม้จะไม่ได้มาจาก 5 เสืออากาศก็ตาม

 

มายุคนี้ ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ พล.อ.อ.มานัตไม่เลือกบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ. เพื่อน นนอ.27 เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ แต่เลือก พล.อ.อ.แอร์บูลจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ.ขึ้นมาโดยไม่มีใครคาดคิด

แล้วย้าย พล.อ.อ.ธรินทร์ไปเป็นรองปลัดกลาโหม ที่ส่งผลให้เพื่อน นนอ.27 และเพื่อน ตท.20 ไม่พอใจอย่างมาก

ในครั้งนั้น พล.อ.อ.มานัตไม่ต้องการให้รุ่นเดียวกันเป็น ผบ.ทอ.มากกว่า 1 คนตามธรรมเนียม และมองว่า พล.อ.อ.แอร์บูลน่าจะสานต่อสิ่งที่ตนเองได้ทำไว้

โดยใช้เหตุผลว่ามีคุณสมบัติ 10Q และ 6 ประการ คือ ความฉลาด-ความคิดสร้างสรรค์-ความมีคุณธรรมจริยธรรม-ความมีวินัย-ความขยันหมั่นเพียร-ความมีจิตวิญญาณและความจงรักภักดี

พล.อ.อ.มานัตกลับไปจันทบุรี หวังไปกอบกู้บ้านเกิด ทำสวนผลไม้ แต่ที่สุดก็ต้องกลับมาเกาะติดความเคลื่อนไหวใน ทอ. ที่คาดกันว่า โยกย้ายเมษายน 2564 อาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่

เพราะ พล.อ.อ.แอร์บูลต้องปรับแก้อะไรหลายอย่าง เพื่อลดปัญหา ลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยุค พล.อ.อ.มานัต

แต่ไม่มีใครรู้ว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดระยะห่างระหว่าง พล.อ.อ.มานัต และ พล.อ.อ.แอร์บูล จากที่เดิมก็ไม่สนิทกันเท่าใดนักอยู่แล้ว

ท่ามกลางข่าวสะพัดถึงการแท็กทีมของ ตท.21 และ ตท.22 ลูกทัพฟ้า ที่มาเป็นทีมงานของ พล.อ.อ.แอร์บูล

บรรดาลูกทัพฟ้ารอลุ้นกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา หากไม่มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน

ถ้าปล่อยลุกลามบานปลาย ก็ต้องมาถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่เข้าสักวัน