เราทุกคนมีความเป็นฮิตเลอร์ในตัว? / เราต่างถูกไอเดียครอบงำ? : ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๗๐)

น่าประหลาด สิ่งที่ฆ่ามนุษย์หมายเลขหนึ่ง กลับเป็นไอเดีย

เหมือนที่มีคนบอกว่า การฆ่าคนตายหนึ่งคนเป็นอาชญากรรม แต่การปูพรมทิ้งระเบิดฆ่าคนเป็นแสน กลับไม่มีความผิด มันเป็นเพียงสงคราม หรือเป็นเพียงไอเดีย

ไอเดีย ซึ่งเล็กๆ บอบบาง เหมือนหนึ่งไม่มีพิษสงอะไรเลยนี้ มันทำลายได้ทั้งโลก

สิ่งที่ทำให้ฉันตกตะลึง ในคำว่าซ้ายขวา คือเครื่องหมาย สวัสติกะ ซึ่งมีหันซ้ายกับหันขวา มันต่างกันแค่หันทิศต่างกัน แต่ความรู้สึกที่ให้แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน มันต่างกันมากอย่างไม่น่าเชื่อ หันซ้าย ให้ความรู้สึกสุขสงบ แต่หันขวา ให้ความรู้สึกชั่วร้าย หายนะ

เป็นเวลาร่วมหมื่นปีมาแล้ว ที่จริงสวัสติกะ เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล การมีโชค และมีทั้งหันซ้ายหันขวา หันซ้ายใช้กันมากในพุทธศาสนา ส่วนหันขวาใช้กันมากในศาสนาฮินดู

โดยไอเดีย ศาสนาฮินดูก็มีความดุร้ายกว่าพุทธ เพราะพวกเขามีพระศิวะ เจ้าแม่กาลี พระผู้เป็นเจ้าแห่งการทำลายล้างโลก ฉันเห็นอิทธิพลของฮินดูแทรกซึมเข้ามาในพุทธ นิกายมหายาน แต่ในหินยาน ไม่มีความโหดร้ายเหล่านี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ศาสนาฮินดูก็ไม่มีความชั่วร้าย เพียงแค่เห็นร่องรอยบางอย่างทางไอเดีย เป็นเพียงแค่ตัวอ่อน เป็นเพียงแค่ไข่

แต่มันโดนผลักอีกนิด ขยับอีกหน่อย โดยนาซี เพิ่มความร้อนอีกหน่อย เติมน้ำอีกนิด ทันใดนั้นเอง สวัสติกะหันขวา ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก กลายเป็นสุดยอดของความอุบาทว์ มันฟักตัว

ฉันอดคิดเล่นๆ ไม่ได้ว่า หากพรรคนาซีตัดสินใจใช้สวัสติกะหันซ้าย แทนที่จะหันขวา ผลของมันอาจจะแตกต่างกัน นาซีอาจไม่โหดร้าย อาจไม่ตัดสินใจทำอะไรมากมายเหมือนที่พวกเขาได้ทำ

หากฉันเดินทางย้อนกาลเวลา และไปขยับแก้แค่นิดเดียวนี้ สงครามโลกครั้งที่สองอาจไม่เกิด ถึงเกิดก็อาจไม่รุนแรง

ฉันแค่คิดเล่นๆ เราเรียกสิ่งนี้ว่าคอนเซ็ปต์ เราเรียกว่าไอเดีย แม้จะคลิกเดียว แต่มีผลสุดจะประมาณได้ ฉันพิสูจน์ว่ามันจริง หรือพิสูจน์ว่ามันไม่จริงไม่ได้ ได้เพียงแต่ตั้งข้อสังเกต

ฉันรู้แต่ว่า วันนี้เครื่องหมายสวัสติกะหันขวา กลายเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะบาปกรรมที่นาซีทำไว้ ใหญ่หลวงเกินไป

ความดีของนาซี ก็คือบาปกรรมมหันต์ที่พวกเขาทำไว้นี่เอง คือทำให้มนุษย์รู้สึกตัว ได้เห็นสิ่งนี้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้นมนุษย์ก็จะยังไม่รู้ หลายไอเดียยังเป็นแค่ไข่อยู่เลย

๔ มีวันหนึ่ง ฉันดูหนังชีวประวัติของฮิตเลอร์ ฉันทนดูไม่ได้ ไม่ใช่เพราะฉันเกลียดเขา แต่เพราะหนังสร้างจากคนที่เกลียดเขา ทำให้ภาพที่ออกมาไม่สมจริง มันกลับกัน หากนี่คือหนังชีวประวัติของเขา ควรทำให้เห็นความเป็นมนุษย์ของเขา ไม่ใช่ทำออกมาแล้วกลายเป็นภาพไม่จริง ล้อเลียน สะท้อนให้เห็นแต่ความเป็นคนชั่วร้ายของเขา

แม้แต่ฉันที่เกลียดเขา ก็ไม่ได้เกลียดเขาจนลืมไปว่าเขาเป็นมนุษย์ ฉันเชื่อว่า ฮิตเลอร์ตัวจริง ก็เป็นคนที่มีความอบอุ่นกับเพื่อน กับคนที่เขารัก เขาเป็นคนมีเสน่ห์ เฉลียวฉลาด มีเหตุผล

ที่จริง เขาเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และต่อต้านสิ่งเหล่านี้

เขาเป็นมังสวิรัติ และสงสารสัตว์ เขาเป็นคนออกกฎหมายป้องกันการรังแกสัตว์

ความคิดของเขา พฤติกรรมของเขาเกี่ยวกับหลายเรื่อง เป็นความคิดที่ล้ำยุค

ในชีวิตของเขา เขาไม่เคยไปค่ายกักกันพวกยิวเลย ไม่เคยไปดูห้องรมก๊าซชาวยิว สิ่งเหล่านี้ หากเขาเห็น เขาคงเป็นลม ทนดูไม่ได้ แต่เขาเป็นคนสั่งการจริง เพราะเรื่องใหญ่ระดับนี้ หากผู้นำอย่างเขาไม่สั่งการ ใครจะกล้าทำ เขาสั่งการ โดยไม่ยอมเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่เคยไปดู ที่จริงยืนอยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้ เพราะมันเป็นเพียงแค่ไอเดีย

ไอเดียจึงเป็นความโหดร้ายสูงสุด และไอเดียจึงล้างโลกได้ เพราะมันช่างบอบบาง อ่อนหวาน เรียบง่ายอะไรปานนั้น คนเคร่งศาสนาอย่างที่สุด ก็สามารถทำลายโลกได้

สวัสติกะมีหันซ้าย กับหันขวา หันนิดเดียวเท่านั้นเอง

๕ สมมุติโลกนี้ไม่มียิว เขาก็ไม่ได้ฆ่าพวกเขา ฮิตเลอร์ก็ไม่ได้ชั่วร้ายพิเศษอะไร เป็นเพียงเผด็จการคนหนึ่ง

แต่แม้จะเป็นบาปกรรมข้อเดียว แต่ข้อนี้คือการฆ่าคนหกล้านคน ข้อเดียวแต่เป็นหกล้านข้อหา มันมหึมาจนสุดจะประมาณได้

หากนี่เป็นสงคราม สองฝ่ายถืออาวุธเข้าเข่นฆ่ากัน แล้วมีคนตายหกล้านคน ก็ถือว่าโหดร้ายมาก นี้ก็เป็นไอเดียที่ชั่วร้าย แต่หากกวาดต้อนคนที่ไม่มีอาวุธ มีเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เข้าไปฆ่าในห้องรมก๊าซ เหมือนฆ่ามดปลวก มันเป็นไอเดียที่โหดร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เป็นยกกำลัง

ชีวประวัติของฮิตเลอร์ หากจะสร้างให้ดี ควรทำให้เห็นความเป็นมนุษย์ของเขา ให้เห็นความดีบางอย่างของเขา ให้เห็นความชั่วร้ายของไอเดีย และท้ายสุด เห็นถึงบาปกรรมที่ตามสนอง ในบั้นปลายแห่งชีวิต เขาจะค่อยๆ เสื่อม มันมาในทุกทิศทาง เขาแพ้เพราะกรรมตามสนอง มันไม่ได้เล่นงานเขาเพียงคนเดียว แต่เล่นงานทั้งพรรค เล่นงานทั้งประเทศเยอรมนี เด็กผู้หญิง เด็กสาวที่เต้นเย้วๆ ชูธงนาซี ท้ายสุดก็โดนทหารรัสเซียข่มขืนจนย่อยยับ

หลายคนต้องฆ่าตัวตาย เพราะไม่เหลืออะไรอีก

๖ นิยายไซไฟเรื่องหนึ่ง เล่าถึงนักวิทยาศาสตร์ที่ส่งยานอวกาศไปสำรวจและเก็บแร่ธาตุจากดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งในระบบสุริยจักรวาลของเรา ความน่าสนใจอย่างที่สุดอยู่ที่ ผู้ควบคุมยานไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ หากแต่เป็นปลาหมึก

ปลาหมึกตัวนี้ ได้รับการเพิ่มเติมทางสติปัญญา ด้วยการแปลงพันธุกรรม ได้รับการฝึกสอน จนสามารถควบคุมยานได้ มันกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ เหนือกว่าหุ่นยนต์ ในยานเพียงต้องการน้ำจำนวนหนึ่ง มีสาหร่าย มีไออะตอม และมีปลา มีลูกโซ่แห่งอาหาร เหมือนเป็นมหาสมุทรเล็กๆ และด้วยพลังงานแห่งแสงอาทิตย์ ปลาหมึกตัวนี้ก็อยู่ได้อย่างสบาย

แต่ยานนี้ก็ถูกกำหนดให้ไปแบบ one way เพราะการเดินทางไปแล้วไม่กลับ สร้างง่ายกว่ามาก ลงทุนน้อยกว่า

ที่น่าตื่นตะลึงคือชาวโลก มีหลายคนที่เกิดความอ่อนไหว ออกมาต่อต้าน เพราะสงสารปลาหมึก พวกเขาเห็นว่านี่เป็นการทารุณสัตว์ เพราะปลาหมึกเลือกเองไม่ได้ มันถูกบังคับ และเป็นการส่งมันไปตาย มนุษย์มีสิทธิอะไรไปเป็นเจ้าชีวิตอย่างนั้น ทำไมส่งมันไปแบบไปแล้วไม่อาจกลับ

ความอ่อนไหวในการส่งนักอวกาศ เป็นประเด็นหนึ่งที่ฉันสนใจมาช้านาน เพราะอวกาศนั้นเป็นดินแดนอันตรายยิ่งนัก ยิ่งกว่าปีนภูเขาสูง หรือดำน้ำลึก ขนาดกีฬาอันตรายเหล่านั้น ทุกคนที่เล่น ก็ล้วนยอมรับว่า นี่คือกีฬาอันตราย ที่คนทำอาจตายได้ คนปีนเขาสูงทุกคนก็รู้ตัว และยอมรับ

แต่ทำไมอวกาศที่อันตรายกว่าสิบเท่า และมีสาระกว่ามาก เพราะมนุษย์จะได้ประโยชน์โดยรวม แต่ผู้คนกลับเหมือนไม่อยากยอมรับ เวลานักอวกาศตายสักคน กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผู้คนคร่ำครวญ และเดินขบวน ต่อต้านการออกอวกาศ มันขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง ที่จริงกองทัพนักอวกาศร้อยคนที่ส่งไป เราควรพร้อมยอมรับแต่แรกเลยว่า ครึ่งหนึ่งในนี้ ไปแล้วอาจไม่ได้กลับ คนเหล่านี้คือหน่วยกล้าตาย

การไม่ยอมรับความจริงแค่นี้ คือจุดจบของโครงการอวกาศ

อยากไปดินแดนที่อันตรายเป็นสิบเท่าของยอดเขาเอเวอเรสต์ แต่ไม่ต้องการตายเลยแม้แต่คนเดียว นี้เป็นหนึ่งในความคิดวิปริต

แต่นี่คือปลาหมึก

คนที่สงสารปลาหมึก ที่ถูกส่งไปอวกาศ และกำลังทำงานพิเศษ หากสงสารปลาหมึกจริง น่าจะเริ่มจากการรณรงค์ไม่ให้กินปลาหมึก

เพราะชาวโลกกินปลาหมึกเป็นอาหาร เรากินปลาหมึกเป็นพันล้านตัวต่อปี

แม้แต่นักข่าว ที่ต่อต้านการส่งปลาหมึกออกอวกาศ เขาก็ไม่ใช่มังสวิรัติไม่ใช่หรือ เขาก็กินเป็ด ไก่ เนื้อสัตว์ไม่ใช่หรือ มนุษย์กินกุ้ง หอย ปู ปลาไม่ใช่หรือ

น่าประหลาดยิ่งนัก ท้ายสุดก็หมายความว่า เราทุกคนมีความเป็นฮิตเลอร์ในตัว เราทุกคนเป็นนาซี เราถูกครอบงำโดยไอเดีย เราสั่งฆ่า แล้วเราก็ยืนอยู่ห่างไกลที่สุด เท่าที่จะห่างได้