ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 ธันวาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | โลกทรรศน์ |
ผู้เขียน | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ |
เผยแพร่ |
ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเป็นใครระหว่างนักการเมืองพลเรือนหรือนักการเมืองในเครื่องแบบ ผู้นำการเมืองไทยย่อมมีโลกทรรศน์และชีวทัศน์เหมือนกัน
ดังนั้น ผู้นำใหม่หรือเก่าย่อมทำอะไรไม่ได้มากนักภายใต้โครงสร้างการเมืองเดิม
ในเวลาเดียวกัน ชนชั้นนำก็ยังเป็นคนกลุ่มเดิม ที่ประกอบด้วยชนชั้นนำทางการเมืองส่วนบนพีระมิดอำนาจและพันธมิตรทุนใหญ่
ถึงกระนั้นก็ตาม เราควรมองไปข้างนอกและมองไปข้างหน้าอย่างน้อยในปีหน้าว่า โลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง
หากมองโลกข้างนอก อาจช่วยให้รัฐเล็กๆ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาทบทวนตัวเองในสภาพของรัฐที่มีศักยภาพต่ำลง ทรัพยากรสูญสลาย ทว่า เป็นรัฐอันอุดมไปด้วยโรค ทั้งโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดใหญ่โควิด
และโรคติดหล่มอุดมการณ์การเมืองก่อนกำเนิดรัฐชาติ
นาโต้รีพอร์ต 2030
อันว่า นาโต้รีพอร์ต หรือ NATO Report 2030 ที่ว่านี้เป็นรายงานที่จัดเตรียมโดยกลุ่มคนที่เป็นคนมีปัญญา และข้อเสนอจำนวน 138 ชุดที่ผลิตขึ้นมาในช่วงระหว่างการเพิ่มขึ้นของปัญหามากมายต่อข้อเสนอและความสำคัญขององค์การ NATO (North Atlantic Treaty Organization) ปีที่แล้ว (2019) จากประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ที่ถูกกล่าวหาว่า สมองตาย
จากนาโต้รีพอร์ตฉบับนี้ ตั้งต้นกันว่า จีนไม่ได้เป็นคู่ค้าผู้อ่อนโยน ดังที่ชาติตะวันตกคาดหวังไว้ในเวลาเดียวกัน
รายงานชี้ว่า การทะยานขึ้นแห่งศตวรรษของสหภาพยุโรป (Century of EU) และองค์การนาโต้ที่ต้องปรับเปลี่ยน เนื่องจากกิจกรรมของจีนในทวีปอาร์กติก (Arctic) (ขั้วโลกเหนือ) และแอฟริกาและการลงทุนอย่างหนักด้านโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป
มีรายงานเสนอว่า การตอบสนองบางส่วนของนาโต้ที่ควรทำคือ นาโต้ควรรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีเหนือจีน ปกป้องโครงข่ายคอมพิวเตอร์และโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศพันธมิตร ประเทศสามารถผลักดันความผูกพันใกล้ชิดมากขึ้นกับประเทศที่อยู่นอกนาโต้ (non-NATO) หรือเช่น ออสเตรเลีย และเน้นการต่อต้านมากขึ้นในอวกาศที่ที่จีนกำลังพัฒนาทรัพย์สินของตนในห้วงอวกาศ
มีปฏิกิริยาต่อรายงานนาโต้รีพอร์ตที่น่าสนใจได้แก่ คำวิจารณ์ของเลขาธิการ Jens Stoltenberg กล่าวว่า
“…การทะยานขึ้นของจีนได้ถามแก่เรา เป็นความท้าทายสำคัญต่อความมั่นคงของเรา…จีนกำลังลงทุนอย่างมหาศาลด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ โดยอาวุธนั้นมีความใกล้เคียงต่อนาโต้ ทั้งที่จากทวีปอาร์กติกถึงทวีปแอฟริกา จีนนั้นไม่ได้แบ่งปันคุณค่าใดๆ ของเทคโนโลยีอาวุธแก่นาโต้…และ (จีน ขยายความโดยผู้เขียน) พยายามขู่ขวัญประเทศอื่นๆ…”
น่าสนใจมาก มีการเสนอให้นาโต้ศึกษาค้นคว้าเอกสารสำคัญต่างๆ หลายชิ้น เอกสารสำคัญอ้างถึงเอกสารทางยุทธศาสตร์หลักของนาโต้ชื่อว่า Strategic concept ซึ่งปรากฏในรายงานนาโต้รีพอร์ตซึ่งประเมินว่าอาจนำมาใช้กับการทะยานขึ้นของจีนในยุโรป
นานาความตึงเครียด
ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจอื่นๆ ในนาโต้รีพอร์ต ซึ่งแนะนำว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต้พบปะกันบ่อยขึ้นและจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งต่อบทบาทของเลขาธิการนาโต้ให้เป็น ผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศ แม้ว่ายุคสมัย America First ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สิ้นสุดลง
อีกทั้งชาวยุโรปทั้งหลายให้การต้อนรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ได้ Atlanticist หรือผู้นิยมแอตแลนติสอย่างนายโจ ไบเดน ทว่า ความตึงเครียดต่างๆ ในประเด็นความสามารถของนาโต้ที่จะกระทำการต่างๆ ยังคงมีอยู่ต่อไป
การที่มีความโกรธแค้นของผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปต่อการตัดสินใจของตุรกีในการจัดซื้อระบบอาวุธของรัสเซียเมื่อไม่นานนี้ จนมาถึงข้อสงสัยต่างๆ นานาต่อสหรัฐอเมริกาด้านความผูกพันและยึดมั่นของประเทศต่างๆ ในยุโรปด้านร่วมการป้องกันตนเอง
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความมั่นคงของยุโรปสั่นคลอนมากในช่วงนี้เพราะพันธมิตรสำคัญของนาโต้อย่างตุรกีกลับแปรพักตร์ไปใกล้ชิดกับรัสเซีย โดยการสั่งซื้อระบบอาวุธต่างๆ ของรัสเซีย แทนที่จะซื้อจากสหรัฐอเมริกา
ในเวลาเดียวกัน ข้อสงสัยความผูกพันระหว่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่อระบบป้องกันทางทหารร่วมก็ยังเกิดขึ้นในแวดวงผู้นำทางนโยบายในยุโรปมาตลอด
อาจกล่าวได้ว่า บทบาทหลักของนาโต้ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1949 เพื่อสกัดกั้นการคุกคามทางทหารของสหภาพโซเวียตสมัยสงครามเย็นถูกตั้งคำถามมากๆ ในช่วงหลังนี้
จนกระทั่งนาโต้เรียกร้องตรงไปที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสมัยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ให้ทำอะไรมากขึ้นในยุโรป แทนที่จะทำอะไรมากมายในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรของนาโต้ในยุโรปตะวันออกซึ่งกำลังหวาดกลัวรัสเซียเมื่อรัสเซียทำการผนวกดินแดนไครเมีย (Crimea) จากประเทศยูเครน (Ukraine) มาเป็นของรัสเซีย
ผลอันนี้เท่ากับได้ปรับย้ายทรัพยากร (กำลังทหารและบุคลากรด้านการทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยีทางการทหาร และงบประมาณ ฯ เป็นต้น) ออกจากหน้าที่หลักของนาโต้ในการป้องกันทวีปยุโรป
ยุโรปและอื่นๆ ในอนาคต
กล่าวโดยสรุป ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ การแบกรับภาระทั้งงบประมาณและทรัพยากรต่อองค์การนาโต้ของชาติใหญ่ในยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ปัญหาคนต่างชาติและการย้ายถิ่น อีกทั้งความไม่แน่นอนเมื่อ Brexit เกิดขึ้นเต็มที่ ยุโรปในปัจจุบันและอนาคตยุ่งยากอยู่ไม่น้อย
ทว่า สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมของยุโรปหนักหนาสาหัสกว่าที่คิด และระบบต่างๆ จะรองรับได้เมื่อโรคระบาดใหญ่โควิดเข้าโจมตียุโรปอย่างรุนแรง
รัฐมนตรีคลังของอังกฤษคนปัจจุบันเพิ่งแถลงต่อสื่อมวลชนว่า เศรษฐกิจอังกฤษตกต่ำที่สุดในรอบ 300 ปี
เศรษฐกิจฝรั่งเศสก็ยิ่งย่ำแย่แล้วโรคระบาดใหญ่ยิ่งทำให้ฝรั่งเศสทรุดหนักยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้เอง องค์การระหว่างประเทศด้านความมั่นคงทางทหารซึ่งมีประเทศสมาชิกถึงประเทศอย่างนาโต้จึงต้องทบทวนตัวเองและปรับวิสัยทัศน์ใหม่ไปอีกอย่างน้อย 10 ปีคือปี 2030
ทว่า ข้อเสนอต่างๆ ที่ผลิตด้วยกลุ่มคน ที่เรียกว่า “คนฉลาด” ได้หยิบยกเรื่องที่องค์การระหว่างประเทศด้านการทหารต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด คือ การทะยานขึ้นของจีนในยุโรปและต่อยุโรปที่มิได้มีแค่สงครามการค้าและเทคโนโลยีเท่านั้น
ดังนั้น โลกในปี 2021 นาโต้กลไกการทหารของยุโรปคงต้องทำงานหนักทีเดียว
บทความของผมไม่ได้ต้องการเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะไทยกับความเปลี่ยนแปลงและบทบาทของนาโต้และยุโรป
ทว่า เราควรทบทวนยุทธศาสตร์และกิจการต่างประเทศของไทยในภูมิภาคเอเชียที่มีจีนเป็นผู้เล่นหลักอย่างเข้าใจและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค
โลกในปี 2021 ท้าทายไทย ยิ่งพลวัตภายในดังว่า ยิ่งท้าทายครับ