แก่ไปมั้ย ? ‘โจ ไบเดน’ ส่องความฟิต และย้อนอดีตผู้นำที่ครองตำแหน่งตอนอายุมาก

พิศณุ นิลกลัด

โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา มีอายุครบ 78 ปี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

รัฐธรรมนูญของอเมริกาบัญญัติไว้ว่า ประธานาธิบดีคนใหม่จะรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เวลาเที่ยงตรงของปีถัดไป

ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีวันที่ 20 มกราคม 2021 โจ ไบเดน จะมีอายุ 78 ปี 61 วัน

มีนักข่าวเคยถามโจ ไบเดน ช่วงหาเสียงว่า โดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีไบเดนว่าสติสตังฟั่นเฟือนเพราะอายุมาก และพร้อมรึเปล่าที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

โจ ไบเดน ยิ้มและตอบว่า “Watch me, Mr. President. Watch me.” “ดูผมแล้วกัน ท่านประธานาธิบดี ดูผมแล้วกัน” พร้อมกวักมือท้าทาย

ย้อนไปเมื่อสมัยประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีคนที่ 40 ที่ดำรงตำแหน่ง 2 สมัย ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 1981 ถึง 20 มกราคม 1989 ตอนอายุเกือบ 70 ปี และอำลาตำแหน่งตอนอายุเกือบ 78 ปี (เกิด 6 กุมภาพันธ์ 1911)

สมัยที่เรแกนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตอนอายุเกือบ 70 ปี คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่าเรแกนอายุเยอะ

ส่วนโจ ไบเดน จะเข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกตอนอายุ 78 ปี 61 วัน มากกว่าโรนัลด์ เรแกน อำลาตำแหน่งสมัยสุดท้ายซะอีก

แม้จะอายุใกล้ 80 ปี แต่ไบเดนก็ยังดูกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว เหมือนชายวัย 60 ต้นๆ

สมัยนี้ การมีร่างกายฟิต ไม่อ้วน กลายเป็นภาพลักษณ์สำคัญของผู้บริหาร

ส่วนพุงพลุ้ย ดูมาดเสี่ยนั้น เป็นรูปร่างผู้บริหารที่ดูล้าสมัยไปแล้ว

ผู้นำระดับโลก และนักการเมืองคนสำคัญๆ สมัยใหม่ ออกกำลังกาย ดูแข็งแรง ไม่อ้วน เพราะร่างกายที่แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นในตำแหน่งหน้าที่ พร้อมสู้กับงานหนัก และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี น่าเชื่อถือ ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ

พร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ ในฐานะผู้นำประเทศ

ในวันที่โจ ไบเดน กล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน เขาวิ่งเหยาะๆ บนเวทีด้วยความกระฉับกระเฉง หลังจากกมลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา ประกาศเชิญโจ ไบเดน ขึ้นเวที

เมื่อ 6 ปีที่แล้วบารัค โอบามา ได้ทำคลิปวิ่งในทำเนียบขาว ภายใต้แคมเปญ Let”s Move เพื่อกระตุ้นให้เด็กในอเมริกาหันมาออกกำลังกาย ตอนนั้น โจ ไบเดน ในวัย 72 ปีเป็นรองประธานาธิบดีได้วิ่งด้วย

เปรียบเทียบโจ ไบเดน ในวัย 78 ปี ดูกระฉับกระเฉงไม่ต่างจากเมื่อ 6 ปีก่อนเลย

โจ ไบเดน ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน มีทั้งวิ่ง ขี่จักรยาน และเข้ายิม ยกเวต ชอบออกกำลังกายด้วยเครื่องพายเรือที่เรียกว่า Rowing Machine (โรวลิ่ง แมชีน) และเพลาทอน ไบก์ (Pelaton Bike) ซึ่งเป็นเครื่องปั่นจักรยานที่กำลังฮิตมากอยู่ในตอนนี้ เพราะหน้าจอสามารถเห็นภาพสดๆ ของคลาสจักรยานที่มีครูกำลังสอนอยู่สดๆ โดยมีนักเรียนในคลาส ทำให้คนขี่เพลาทอน ไบก์อยู่ที่บ้าน รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่ในคลาสปั่นจักรยานจริงๆ

สมัยเป็นนักเรียนไฮสกูล โจ ไบเดน เป็นนักเบสบอล และนักอเมริกันฟุตบอลทีมโรงเรียน

เขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลและคอเลสเตอรอลสูง

นอกจากนี้ ประวัติของพ่อ-แม่โจ ไบเดน ก็มีอายุยืน แม่เสียชีวิตตอนอายุ 92 ปี ส่วนพ่อเสียชีวิตตอนอายุ 86 ปี

ดังนั้น จึงไม่น่ากังวลว่า โจ ไบเดน จะดำรงตำแหน่งไม่ครบ 4 ปี เพราะวันนั้นเขาเพิ่งจะอายุ 82 ปี!!!

ก่อนหน้าที่จะทราบผลการเลือกตั้งว่าโจ ไบเดน หรือโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี มีการศึกษาที่น่าสนใจจากคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยหลายสถาบัน ได้แก่ UCLA, University of Hawaii, University of Illinois at Chicago, University of Macau และ University of North Carolina ว่าโจ ไบเดน หรือโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีอายุขัยถึงเท่าไหร่

ผลการคาดการณ์ออกมาว่า โจ ไบเดน น่าจะมีอายุยืนยาวถึง 96.8 ปี ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตอนนี้อายุ 74 ปี ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีอายุ 88.6 ปี โดยวิเคราะห์จากผลการตรวจสุขภาพที่แพทย์ประจำตัวของทั้งสองคนรายงานอย่างเป็นทางการ (หากรายงานจากแพทย์เป็นความจริง) ประกอบกับอายุของพ่อ-แม่ทั้งคู่ที่อายุเกิน 80 ปี

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ผ่านๆ มา มีอายุยืน เพราะได้รับการดูแลสุขภาพโดยคณะแพทย์ระดับแถวหน้าของโลก

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ยังมีชีวิตอยู่และอายุมากที่สุดคือจิมมี่ คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีคนที่ 39 (1977-1981) ซึ่งปัจจุบันอายุ 96 ปี

ส่วนโจ ไบเดน มีอายุมากเป็นอันดับ 2 รองจากจิมมี่ คาร์เตอร์

ตอนนี้ โจ ไบเดน มองข้ามช็อตไปไกลถึงการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในวัย 82 ปี โดยผู้สื่อข่าวถามโจ ไบเดน ว่า มองถึงความเป็นไปได้ที่จะดำรงตำแหน่ง 8 ปีหรือไม่

โจ ไบเดน ตอบว่า “Absolutely!” “แน่นอนอยู่แล้ว”

รัฐธรรมนูญสหรัฐไม่ได้กำหนดวาระของประธานาธิบดีไว้อย่างชัดเจน แต่หลังจากที่ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน และประธานาธิบดีโทมัส เจฟเฟอร์สัน อยู่ในตำแหน่ง 8 ปี โดยไม่สมัครรับเลือกตั้งสมัยที่ 3 ก็ทำให้เกิดธรรมเนียมปฏิบัติสืบมาว่า ผู้นำสหรัฐจะอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกัน

ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดนนั้น มีข่าวรายงานว่าวางแผนลงสมัครประธานาธิบดีในปี 2024 ซึ่งไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

แต่ไม่มีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนไหนทำมาก่อน