จรัญ พงษ์จีน : ตรวจสนามเลือกตั้ง อบจ. ตัววัดกระแสระดับชาติ?

จรัญ พงษ์จีน

ไฟต์หยุดโลก ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่างแชมป์เก่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ค่ายรีพับลิกัน กับ “โจ ไบเดน” ผู้ท้าชิงเดโมแครต ส่งเข้าประกวด ขณะเขียนต้นฉบับ ผลนับคะแนนออกมาสูสีก้ำกึ่ง ยังไม่รู้ใครแพ้-ชนะ

แม้จะเป็นศึกแดนไกล แต่คอการเมืองในบ้านเรานั่งลุ้นระทึก ให้ความสนใจไม่แพ้ศึกเลือกตั้งในประเทศ

จากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ตีกรรเชียงกลับมาดู “ศึกเลือกตั้งท้องถิ่น” ในเมืองไทย หลังถูก “คสช.” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จับขังลืม ล็อกกุญแจ ล่ามโซ่มาซะเป็นเวลานาน

อั้นไม่อยู่ จำใจต้องปล่อยผี…น้ำไหลเอื่อยตามกระแส นกบินกลับเกาะ ไฟเขียวให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับ “องค์การบริหารส่วนจังหวัด” หรือ “นายก อบจ.” นำร่อง 76 จังหวัดไปก่อน ยกเว้นสนาม “กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา”

เปิดรับสมัครไปเรียบร้อยแล้วระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นโอกาสอีกครั้งของประชาชนพลเมือง หลังสิทธิเสรีภาพถูกจำกัดมาเป็นเวลานาน 6 ปีกว่า

ในวาระดังกล่าว นอกจากเลือกตั้ง “นายก อบจ.” 76 ที่นั่งแล้ว ยังซื้อเหล้าแถมเบียร์ เลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด หรือ “ส.จ.” โดยกำหนดโควต้า ส.จ.ตามสัดส่วนประชากร สิริรวมทั้งหมด 2,268 ตำแหน่ง

รัฐบาล “บิ๊กตู่” เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นอกจากคืนสิทธิอันชอบธรรมสู่ชาวบ้านแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาความอดอยาก ความยากจนทางอ้อม ไม่ต้องตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แจกเงินเยียวยา สารพัดโครงการเพียงผู้เดียว

เพราะศึกเลือกตั้งนายก อบจ.-ส.จ. ตามสภาพบังคับ ผู้สมัครต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยรูปแบบสารพัด เม็ดเงินในการหาเสียงไหลเข้าสู่ระบบรากหญ้าโดยอัตโนมัติ ไม่น้อยกว่า 3-5 หมื่นล้านบาท ช่วยฟื้นฟู เสริมใยเหล็กสภาพคล่องเศรษฐกิจในปีหน้าให้กลับมาแดนบวกได้มหาศาล

เรียกว่าชาญฉลาดเป็นเหมือนกันนี่หว่า ใครว่าโง่ เปิดร้านขายรองเท้ายังเจ๊ง ก็ขอให้คิดใหม่ได้แล้ว

แค่วันสองวันแรกของการเปิดรับสมัคร บรรยากาศคึกคัก เห็นภาพความตื่นตัวของผู้สมัครและผู้สนับสนุน ซึ่งทาง “กกต.” ออกประกาศเตือนว่า การหาเสียงจะต้องดูมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 เป็นหลัก

คือห้ามหาเสียงคล้ายกับการหาเสียง ส.ส. ห้ามซื้อเสียง ห้ามแสดงมหรสพ

โดยเฉพาะข้อปฏิบัติต่อพรรคการเมือง ที่ต้องพึงระวัง คือ “ข้าราชการการเมือง-สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร-สมาชิกวุฒิสภา-ผู้บริหารท้องถิ่น-สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่สามารถหาเสียงช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งได้”

แต่เชื่อว่า ข้อห้ามดังกล่าว ตามมาตรา 34 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น น่าจะมีนักเลงดีแหกด่านมะขามเตี้ย ทำผิดกันอุตลุด มั่วไปหมดแน่ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้บัญญัติโทษอื่นไว้ชัดเจนสำหรับผู้กระทำความผิดหรือผู้สมัครว่าจะต้องได้รับโทษอย่างไร

 

ทีนี้ตามไปดูสนามเลือกตั้ง อบจ. หัวเมืองใหญ่ทุกภาค เหนือ อีสาน ใต้ กลาง ปรากฏว่า “บิ๊กเนม” ลงดวลเดือดกันหลายจังหวัด เริ่มที่สนามที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “นครราชสีมา” ช้างชนช้าง ค่ายผู้สนับสนุนระดับห้าดาว ประกอบด้วย “สาธิต ปิตะวรา” จากคณะก้าวหน้า ตามด้วย “ยลดา หวังศุภกิจโกศล” กลุ่มร่วมสร้างโคราชโฉมใหม่ ภริยาของรัฐมนตรีสังกัดพรรคภูมิใจไทย และ “นพ.สำเริง แหยงกระโทก” หรือ “หมอแยง” จากกลุ่มรักษ์โคราช ลูกข่ายในคาถาชาติไทยพัฒนา

“มหาสารคาม” คาบนี้ถึงพริกถึงเกลือ สู้กันยิบตา 4 ราย “ทองหล่อ พลโคตร” อดีต ส.ส. “คมคาย อุดมพิมพ์” นายก อบจ.เก่าอิงค่ายภูมิใจไทย “ดร.ศรีเมือง เจริญศิริ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ค่ายเพื่อไทยส่งเข้าประกวด

“บึงกาฬ” จังหวัดเล็ก แต่พริกขี้หนู “นิพนธ์ คนขยัน” อดีตนายก อบจ.หลายสมัย ป้องกันแชมป์ มี “แว่นฟ้า ทองศรี” ภริยา “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย กับ “อภิเดช รักษาโสม” ลูกเขย ส.ส.บึงกาฬค่ายเพื่อไทย

“อุบลราชธานี” ก็ใช่ย่อย “เชษฐา ไชยสัตย์” ได้เบอร์ 1 “น.ส.นายกแอนสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ” หมายเลข 2 “บัณฑิต วิลามาศ” เบอร์ 3

“ภาคเหนือ” เปิดเวทีที่ “จ.เชียงใหม่” วัดดวงดวลกันตัวต่อตัว มวยถูกคู่ ระหว่าง “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” หรือ “ส.ว.ก๊อง” พะยี่ห้อเพื่อไทย กับ “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” อดีตนายก อบจ.เก่า ชื่อชั้นบารมีพอฟัดพอเหวี่ยง

“เชียงราย” สู้กัน 3 คน ระหว่าง “มงคล ดวงแสงทอง” อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม กับ “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” อดีต ส.จ. และ “น.ส.วีสาระดี เตชะธีรวัฒน์” ลูกสาว “วิสาร” ส.ส.หลายสมัย สวมปลอกแขนเพื่อไทย

“ภาคกลาง” หลายจังหวัด มวยดังลงชิงชัย ป้องกันแชมป์ แค่ปลายจมูกปทุมธานี ดุเดือดเลือดท่วมจอแน่ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” หรือ “บิ๊กแจ๊ด” อดีต ผบช.น. ที่เปิดตัวหาเสียงมานาน ชน “ชาญ พวงเพ็ชร์” อดีตนายก อบจ.

“นครปฐม” บ้านใหญ่ “สะสมทรัพย์” ส่งทายาท “จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์” ลงชิงชัยสนามเล็ก แย่งแชมป์กับ “ชัชวาล จันทะสาร” และ “กองโท พเยาว์ เนียะแก้ว”

“ภาคใต้” ร้อนระอุหลายจังหวัด เริ่มที่ “สงขลา” มวยถูกคู่ ระหว่าง “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” ทีมสงขลาประชารัฐ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง พปชร.ภาคใต้ กับ “ว่าที่ ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ์” ทีมสงขลาประชาธิปัตย์

สามแรงแข็งขัน ช่วยกันผลักดัน ทั้ง “ถาวร เสนเนียม-นิพนธ์ บุญญามณี-เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายก ชาย”

หัสเดิมประชาธิปัตย์วางตัว “พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” อดีตนายตำรวจชื่อดังเป็นตัวยืน แต่เกิดเหตุขัดข้องบางประการ ต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกอย่างกะทันหัน ถ้าเป็นสมัยก่อนๆ ใครลงก็สบายมาก

แต่ พ.ศ.2563 กระแสประชาธิปัตย์ไม่บูมสนั่นเหมือนเก่า ขณะที่เลือกตั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว “พลังประชารัฐ” กวาดที่นั่ง ส.ส.มาได้หลายเขต ศึกเลือกตั้ง อบจ.รอบนี้ แพ้-ชนะน่าจะต้องถ่ายรูป

“จ.ตรัง” น่าดูชมมากเหมือนกัน “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” หัวหน้าทีมกิจปวงชน ได้รับฉันทานุมัติให้เป็นตัวตายตัวแทนของ “กิจ หลีกภัย” พี่ชายนายหัวชวน ที่วางมือ แต่ดันไม่ง่าย เมื่อ “สาวุฒิ วงศ์หนองเตย” น้องชายของ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ประชาธิปัตย์ตลอดกาลมาเหมือนกัน ลงชิงดำ

“นครศรีธรรมราช” เป็นอีกสนามที่นัวเนีย เป็นงูกินหาง “อำนวย ยุติธรรม” น้องชายของ “สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.พลังประชารัฐ ชนกับ “กนกพร เดชเดโช” มารดาของ “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.ประชาธิปัตย์

อาทิตย์นี้เรียกน้ำย่อยกันเบาๆ กับศึกเลือกตั้งนายก อบจ. คัดเฉพาะเมืองใหญ่ แค่ช่วงโค้งสมัคร ตอนหาเสียงใกล้เลือกตั้ง คงดังระเบิดเถิดเทิงมากขึ้น