เผยแพร่ |
---|
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเข้มข้นในพื้นที่ของกรุงเทพฯไม่ เพียงแต่นำไปสู่การจับกุมตัวแกนนำระดับ นายอานนท์ นำพา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายภาณุพงศ์ จาดนอก ทันทีเท่านั้น
หากแต่ยังทำให้บทบาทของสื่อ”ออนไลน์”ได้ทะยานไปอยู่ในจุดอันเป็นกระแส”หลัก”ของสังคมสื่อโดยอัตโนมัติ
ใครที่เป็นแฟนานุแฟนของสื่อประเภทหนังสือพิมพ์อาจได้รับรู้แต่บรรยากาศของการชุมนุมตลอดวันที่ 14 ตุลาคม จากอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล
อย่างเก่งก็ก่อนเวลา 21.00 น. แต่หลังจากนั้นก็อยู่ในความยึดครองของ”สื่อใหม่”โดยบริบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไลฟ์สดของแต่ละสำนักระลอกแล้วระลอกเล่า
ไม่ว่าจะเป็นการประกาศสลายการชุมนุมของ นายอานนท์ นำพา ในตอน 02.00 น. ไม่ว่าจะเป็นการประกาศสถานการณ์ฉุก เฉินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตอน 04.00 น.
ทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเช้า แต่มีความคึกคักในลักษณะเรียลไทม์ครบถ้วนในสื่อออนไลน์
จากสถานการณ์อันเกิดขึ้นตลอดทั้งวันของการเคลื่อนไหวเดินเท้าโดย”คณะราษฎร 2563” ไม่เพียงแต่ได้สร้างมิติใหม่ในทางการเมือง ขึ้นมาให้ได้เห็นอย่างสดๆต่อหน้าต่อตาเท่านั้น
หากที่สำคัญยังเป็นรูปธรรมอันจำหลักหนักแน่นอย่างที่สุดของภาวะถอยร่นของ”สื่อเก่า”ในสนามการข่าว
ไม่มีอีกแล้วคอลัมน์”ก่อนขึ้นแท่น”อันบ่งบอกสะท้อน”เวลา”
บนสายพานข่าวที่ไม่มีการหยุดยั้งจึงตัดบทบาทของ”สื่อเก่า”อย่างหนังสือพิมพ์ออกไปจากวงจรโดยปริยาย ด้านที่เข้ามาแทนที่ ย่อมเป็นบทบาทของ”สื่อใหม่”
ไม่ว่าจะเป็น”ทวิตเตอร์” ไม่ว่าจะเป็น”ยูทูบ” ไม่ว่าจะเป็น”ไลน์” ไม่ว่าจะเป็น”อินสตาแกรม” สามารถสนองความเรียกร้องต้องการใน ด้าน”ข่าว”ได้ตลอดเวลา
คำว่า”ตลอดเวลา”จึงสัมพันธ์กับ”ทันข่าว ทันเหตุการณ์”ที่สุด
ความน่าสนใจยังมิได้อยู่ที่ความรวดเร็วฉับไวของข่าวที่ปรากฏด้าน “ออนไลน์”เท่านั้น หากที่สำคัญได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในด้านของการชุมนุมมวลชน
โดยพื้นฐาน คือ การสร้าง”ประชาคม”ในพื้นที่”ออนไลน์”
ขณะเดียวกัน มีการเปลี่ยนพื้นที่จาก”ออนไลน์”ไปอยู่ในพื้นที่ที่เป็นจริงขึ้นมาในลักษณะคู่ขนานกัน
ทุกสายตาจึงเฝ้ามองสถานการณ์วันที่ 15 ตุลาคมเขม็ง