ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 ตุลาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ |
ผู้เขียน | ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ |
เผยแพร่ |
ถ้าใครยังจำได้ ที่ผ่านมาเราเคยเล่าถึงกล้วยธรรมดาๆ ที่ถูกเอามาทำเป็นงานศิลปะและจัดแสดงในเทศกาลงานศิลปะระดับโลกอย่างอาร์ต บาเซิล (Art Basel) ที่ชายหาดไมอามี โดยหอศิลป์ร่วมสมัย Perrotin และขายไปในราคาสูงสุดถึง 150,000 เหรียญสหรัฐ (หรือราว 4 ล้านกว่าบาท)
เจ้ากล้วยที่ว่านี้เป็นผลงานศิลปะของเมาริซิโอ คัตเตลาน (Maurizio Cattelan) ศิลปินชาวอิตาเลียนเจ้าของฉายา “จอมป่วนแห่งโลกศิลปะ”
ที่หยิบเอากล้วยหอมที่หาซื้อมาจากร้านขายของชำในไมอามีเอามาติดบนผนังด้วยเทปกาวผ้า และตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า
Comedian, (2019) (https://bit.ly/2RP9dN9)
ล่าสุด การป่วนโลกศิลปะของคัตเตลานก็ได้รับการตอกย้ำว่า กล้วยธรรมดาๆ ที่เอามาติดผนังนั้นสามารถเป็นศิลปะได้จริงๆ ไปอีกขั้น ด้วยการที่พิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ นิวยอร์ก (Solomon R. Guggenheim Museum New York) นำผลงาน Comedian, เข้าไปรวมในคอลเล็กชั่นสะสมของพิพิธภัณฑ์แล้ว
ซึ่งผลงานชิ้นนี้ถูกบริจาคโดยผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับผลงาน “Comedian” ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของศิลปินกับประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่ นอกจากนี้มันก็แค่สร้างความกดดันเล็กๆ น้อยๆ ให้กับฝ่ายจัดเก็บงานของเราก็เท่านั้นเอง” ริชาร์ด อาร์มสตรอง (Richard Armstrong) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์กล่าว
ในความเป็นจริงแล้ว “Comedian,” ที่ขายให้นักสะสมนั้น ไม่มีแม้แต่กล้วยหรือเทปกาวใดๆ ทั้งสิ้น
สิ่งที่คนซื้อจะได้รับไปนั้นก็คือ “ใบรับรองความถูกต้องของผลงาน” ซึ่งเป็นเอกสาร 14 หน้า ที่เป็นรายการคำแนะนำพร้อมแบบแปลนที่ชี้แนะว่ากล้วยควรจะติดตั้งและจัดวางยังไง เท่านั้นเอง
ลีนา สตริงการี (Lena Stringari) หัวหน้าฝ่ายดูแลผลงานของพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์กล่าวว่า รายการคำแนะนำนั้นค่อนข้างง่ายที่จะปฏิบัติตาม และค่อนข้างตอบข้อสงสัยของเราได้อย่างกระจ่างแจ้ง
เช่น ต้องเปลี่ยนกล้วยบ่อยแค่ไหน (ราว 7 ถึง 10 วัน)
หรือตำแหน่งที่จะติดอยู่ตรงไหน (175 ซ.ม.เหนือพื้น)
“จากเหล่าบรรดางานศิลปะทั้งหมดที่ฉันเคยเจอมา ผลงานชิ้นนี้น่าจะเป็นอะไรที่จัดการง่ายที่สุด เพราะมีแค่กล้วยกับเทปกาวผ้าเท่านั้นเอง”
เอาจริงๆ ก่อนหน้านี้พิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งต่างก็เคยต้องรับมือกับงานศิลปะที่เปราะบาง เสื่อมสลายง่าย และไม่อยู่คงทนยาวนานมาแล้วทั้งนั้น
ผลงานหลายชิ้นทำจากอาหารที่เน่าเสียง่าย ไม่ว่าจะเป็นผลงาน Untitled (Ghardaïa) (2009) แบบจำลองย่อส่วนของเมืองแอลจีเรียที่สร้างขึ้นจากคูสคูส (อาหารของชนเผ่าเบอร์เบอร์ ทำจากแป้งเซโมลินา ธัญพืช และแป้งสาลี เป็นที่นิยมมากในประเทศโมร็อกโก, ตูนิเซีย, ลิเบีย, แอฟริกาตะวันตก และฝรั่งเศส) ของศิลปินชาวฝรั่งเศส เคเดอร์ อัลเทีย (Kader Attia)
หรือผลงาน Tortillas Construction Module (1998) แผ่นแป้งตอร์ติญ่าเสียบต่อกันเป็นงานประติมากรรมของศิลปินเม็กซิกัน ดาเมียน ออร์เตกา (Damiïn Ortega)
หรือผลงาน Hang It All (2006) ผลไม้ที่ถูกเสียบบนที่แขวนเสื้อโค้ตของศิลปินโคลอมเบีย เกเบรียล เซียรา (Gabriel Sierra)
หรือผลงาน Artist”s Breath (1960) (ลมหายใจของศิลปิน) ที่ใช้ของที่เสื่อมสภาพง่ายอย่างลูกโป่งบรรจุลมหายใจของศิลปินไว้ข้างใน ของศิลปินชาวอิตาเลียน ปิเอโร มันโซนี (Piero Manzoni) ซึ่งในที่สุดลูกโป่งที่ว่าก็แฟบและเสื่อมสภาพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในเวลาไม่นาน
หรือผลงาน Untitled (Sculpture That Eats) (1968) ของศิลปินอิตาเลียน จิโอวานนี อัลเซลโม ประติมากรรมรูปแท่งหินสี่เหลี่ยมคล้ายเสา ส่วนปลายเสาโปะด้วยหัวผักกาดหอม ประกบทับด้วยแผ่นหินสี่เหลี่ยมแล้วมัดด้วยลวด ถ้าผักกาดหอมแห้งเหี่ยวจนหดตัวและร่วงโรยลง แผ่นหินที่ถูกมัดไว้ด้วยกันก็จะร่วงหล่นลงพื้น
ดังนั้น ประติมากรรมชิ้นนี้จึงต้องถูก “ป้อน” ผักกาดหอมสดใหม่เข้าไปอยู่เสมอ เพื่อให้คงสภาพอยู่ได้ มันเลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ประติมากรรมที่กิน (ผักกาด) ได้”
หรือผลงาน Apple (1966) ของโยโกะ โอโนะ ที่เป็นแอปเปิลวางอยู่บนฐานแสดงงานพลาสติกใส ซึ่งเจ้าแอปเปิลที่ว่านั้นก็ถูกซื้อมาจากร้านขายของชำใกล้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) ที่จัดแสดงผลงานนั่นเอง
และแอปเปิลที่ค่อยๆ เหี่ยวเฉาเน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ก็จะถูกเปลี่ยนใหม่สองสามครั้งในช่วงเวลาสี่เดือนของการจัดนิทรรศการ
ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เองก็ไม่เป็นกังวลถ้าแอปเปิลศิลปะที่ว่านี้จะถูกมือดีที่ไหนมาหยิบฉวยไป
เพราะเมื่อถูกหยิบออกไปจากฐานวาง มันก็จะกลายเป็นแอปเปิลธรรมดาๆ ไปในทันที
สําหรับงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับความคิด บางครั้งวัสดุที่ใช้สร้างงานไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพเดิมไปจนจบนิทรรศการ
เพราะถึงแม้ตัววัตถุจะเสื่อมสลายและถูกทิ้งไป แต่ความคิดยังคงอยู่
และผลงานก็สามารถถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในอนาคตตามคำสั่งของศิลปินได้ …ถึงแม้ศิลปินผู้นั้นจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม
การใช้วัตถุที่มีอายุสั้นและไม่คงทนถาวรในงานศิลปะเช่นนี้ มักจะสัมพันธ์กับแนวความคิดเกี่ยวกับความตายและการเสื่อมสลายของชีวิตนั่นเอง
“เมื่อคุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับศิลปะคือความคิดมากกว่าวัสดุ เมื่อนั้นก็ไม่สำคัญว่าวัสดุนั้นจะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน งานศิลปะหลายชิ้นเปลี่ยนแปรสภาพไปจากเดิมอย่างมาก หน้าที่ของพิพิธภัณฑ์คือการพยายามเก็บรักษามันเอาไว้ตลอดไป”
เมลิซา ชู (Melissa Chiu) ผู้อำนวยการของ Hirshhorn Museum and Sculpture Garden กล่าว
สําหรับกล้วยศิลปะ หรือ Comedian, นั้นเป็นผลงานที่แสดงถึงตัวตนของโลกศิลปะ และคำถามที่ว่า ใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าอะไรสามารถเป็นศิลปะได้ และต้องใช้จำนวนเงินมหาศาลขนาดไหนที่จะจ่ายให้กับมัน
หอศิลป์ร่วมสมัย Perrotin ตัวแทนผู้ขายผลงานกล้วยศิลปะไปสามชิ้นในงานอาร์ต บาเซิล ไมอามี กล่าวว่า “Comedian, เป็นผลงานที่มีองค์ประกอบอันเรียบง่ายที่สุด ที่สามารถนำเสนอภาพสะท้อนอันซับซ้อนที่สุดของมนุษย์ออกมาได้”
ยังไม่มีการเปิดเผยจากทางพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ว่าจะจัดแสดงผลงานกล้วยศิลปะนี้เมื่อไหร่ แต่เมื่อพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดง สตริงการีกล่าวว่า เธอสามารถรับมือได้ไม่ยากจากรายการคำแนะนำที่ได้มา
“ฉันไม่คิดว่าในรายการนั้นมีตรงไหนที่บอกว่าเราต้องหากล้วยขนาดเท่าไหร่ หรือหามาจากไหน ไอเดียนั้นมีแค่ว่ามันต้องเป็นกล้วย และแนะนำไปซื้อกล้วยมาเท่านั้น ถ้าถามว่าจะไปหากล้วยมาจากไหน ฉันคิดว่าเราก็แค่ไปซื้อมาจากร้านขายของชำเท่านั้นแหละ”
ข้อมูลจาก https://nyti.ms/3cdRxUN, https://bit.ly/35XTsvn, https://mo.ma/3iZhoSQ