เผยแพร่ |
---|
การประกันระหว่าง ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ กับ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณา อดิศร แม้ดูคล้ายกับจะเป็นเรื่องของปัจเจก เป็นเรื่องส่วนตัว
แต่ในความเป็น”ส่วนตัว”ก็ดำเนินไปอย่างเป็น”ตัวแทน”
เห็นได้จากวาจาของ ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ อ้างสถานะว่าเป็นคนรุ่นเดียวกับบิดาของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
นี่ย่อมเป็นท่วงทีที่ ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ ชอบอ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องประวาทีกับบุคคลซึ่งอยู่ในวัยระนาบเดียวกันกับ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ในบรรยากาศแห่งการหาเสียงในห้วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือน มีนาคม 2562 ใครก็ตามที่เกาะติดเวทีดีเบตประชันวิสัยทัศน์ในทาง การเมืองก็จะรับรู้ได้
โดยเฉพาะคนจากพรรคอนาคตใหม่ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ล้วนเคยประสบมาแล้ว
เพียงแต่ครานี้เป็น ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในระหว่างการประชุมรัฐสภา
จากมุมมองของผู้อาวุโสอย่าง ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ ภาพของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ปรากฏ ณ เบื้องหน้า ดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็น”ละอ่อน”อย่างยิ่ง
ละอ่อนทั้งอายุ ละอ่อนทั้งประสบการณ์และความจัดเจนในทางการเมือง
จึงมองข้าม”ช็อต”ไปยัง”บิดา”อย่างเป็นด้านหลัก
เพียงแต่มิได้ยกคำกล่าวที่ว่า ผมอาบน้ำร้อนมาก่อน ผมมีความรู้มามากกว่า เพราะว่าเกิดก่อน ผ่านร้อนผ่านหนาวในทาง การเมืองมาอย่างเจนจบ
เมื่อมองผ่านภาพของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไปยังภาพของ อานนท์ ภาพของรุ้ง ภาพของเพนกวิน ภาพของฟอร์ด ทัตเทพ ภาพของน้องอั๋ว
จึงแทบไม่แตกต่างไปจากการมองเห็นภาพของ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เลย
เหมือนกับปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของรุ่น เป็นเรื่องของวัยซึ่งมีความแตกต่างกัน
นั่นเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ยังมีองค์ประกอบอื่นอีก
เพราะหากพิจารณาไปแล้วนั่นเป็นเรื่องของ”ความคิด”ซึ่งมิได้เป็นข้อจำกัดของ”วัย” หากแต่เป็นเรื่องของความรู้
เป็นเรื่องของความคิดเก่า เป็นเรื่องของความคิดใหม่