ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

จัดอันดับ 3 เก๋ง-ราคาประหยัด

‘เซเลริโอ-มาร์ช-มิราจ’

 

สถานการณ์ยอดขายรถยนต์เมืองไทยเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเนื่องจากติดลบน้อยลง โดยเดือนกรกฎาคม ขายได้ 59,335 คัน ลดลง 26.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 43.6% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 15.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ส่วนปริมาณรวม 7 เดือนแรกของปีนี้ขายได้ 387,939 คัน ลดลง 35.9% รถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 42.2% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 31.7%

ภาพรวมเจ้าตลาดยังเปลี่ยนไม่มากนัก สถิติ 7 เดือน โตโยต้านำเป็นเจ้าตลาด ตามมาด้วยอีซูซู และฮอนด้า

แต่หากแยกเซ็กเมนต์ตลาดเก๋งเป็นของฮอนด้า ต่อด้วยโตโยต้า และนิสสัน ส่วนปิกอัพเป็นของอีซูซุ มีโตโยต้าเป็นที่ 2 และมิตซูบิชิรั้งอันดับ 3

ด้วยยอดขายเดือนกรกฎาคม ที่เริ่มติดลบน้อยลง ทำให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มองว่าสืบเนื่องจากการที่รัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ และมีแนวโน้มดีขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปี

รวมถึงมีงานคาร์โชว์ 2 งานใหญ่ ทั้งมอเตอร์โชว์และบิ๊กมอเตอร์เซลส์ ช่วยกระตุ้นยอด ไม่นับรวมที่ค่ายรถต่างๆ อัดแคมเปญกันดุเดือด เพื่อประคองยอดขาย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจแม้จะกระเตื้องขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้โดยเฉพาะปัญหา “โควิด” ที่หลายประเทศกลับมาระบาดรอบ 2 และมีหลายประเทศที่ติดกับไทยก็โดนแล้วด้วย

ยิ่งเมื่อไทยเริ่มทดลองเปิดให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในบางจังหวัด จึงยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

 

แม้สภาพเศรษฐกิจที่ยังตึงๆ แต่สำหรับบางคนที่จำเป็นต้องใช้รถ บางทีก็อาจต้องซื้อมาใช้ ทั้งเพื่อความสะดวกสบาย หรือป้องกันโควิด เพราะไม่ต้องการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ

“ยานยนต์สุดสัปดาห์” จึงคัดเลือกรถเล็ก 3 รุ่น ที่ราคาถูกสุดในตลาดมาให้เป็นตัวเลือก อย่างน้อยก็ผ่อนถูกๆ หรือหากใครพอมีเงินสดมากหน่อย ซื้อสดเลยก็ไม่ว่ากัน

เริ่มที่รุ่นแรก “ซูซูกิ เซเลริโอ” เก๋งเล็ก 5 ประตู เครื่องยนต์ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ซึ่งก่อนหน้าสร้างความฮือฮาเมื่อประกาศปรับลดราคาค่อนข้างเยอะ ทำให้กวาดยอดขายไปได้พอสมควร

เพราะรุ่นเริ่มต้นเกียร์ธรรมดา ราคาเพียง 318,000 บาท

ส่วนหากใครไม่ถนัด อยากสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติ มีให้ลือก 2 รุ่น ราคา 398,000 บาท และ 427,000 บาท

เห็นราคาที่ลดลงมาทำให้ยอดขายช่วงปลายปีที่แล้วถึงเดือนมิถุนายนกวาดไป 2,432 คัน เติบโตถึง 262% โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน เดือนเดียวทำยอดได้ 466 คัน เติบโต 444% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้แคมเปญเดือดผ่อนเริ่มต้นไม่ถึง 2 พันบาท แถมขับฟรีอีก 3 เดือน

แม้รูปลักษณ์ภายนอก-ภายในจะเน้นเรียบง่าย เส้นสายไม่หวือหวา เรียกว่าเป็นรถที่ซื้อมาเพื่อใช้งานจริงๆ แต่กระนั้นในตลาดพอมีชุดแต่ง ชุดประดับยนต์ออกมาให้เลือกบ้าง

เรียกว่าพอแต่งหน้าทาปากแล้วถือว่าไปวัดไปวาได้

ส่วนการขับขี่แน่นอนว่าด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เน้นในเมืองเป็นหลัก แต่ไปต่างจังหวัดหากไม่รีบร้อนเกินไป เหยียบสัก 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสบายๆ หรือบางจังหวะจะเค้นบ้าง อะไรบ้าง พอทำความเร็วได้อยู่

อีกประการคือความประหยัดเหนือกว่าอีโคคาร์เกือบทุกรุ่นในตลาด ด้วยเครื่องยนต์ที่เล็กกว่านั่นเอง

ใครสนใจรถรุ่นนี้แนะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ เพราะรุ่นเกียร์ธรรมดาออปชั่นน้อยไปสักนิด ซึ่งก็ตามราคาแหละครับ

 

ถัดมากับ “นิสสัน มาร์ช” อีโคคาร์รุ่นแรกของประเทศไทย อายุอานามครบ 1 ทศวรรษพอดี แต่นิสสันตัดใจหยุดสายพานการผลิตไม่ได้ เนื่องจากยังมียอดขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดนิยมเกียร์ธรรมดากันมาก จนต้องไมเนอร์เชนจ์มาแล้วหลายรอบ

ถึงแม้จะมีอีโคคาร์รุ่นใหม่อย่าง “นิสสัน โน้ต” เก๋งเล็ก 5 ประตู และรุ่นล่าสุด “นิสสัน อัลเมร่า” เครื่องยนต์เทอร์โบออกมาแล้วก็ตาม

เนื่องจากรูปร่างหน้าตายังดูทันสมัยอยู่ แถมมีเจ้าของหลายคนแต่งเลียนแบบ “มินิ” ดูดีทีเดียว

เครื่องยนต์ทรงพลังขึ้นกว่าเซเลริโอ ด้วยขุมพลัง 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร

รูปร่างกะทัดรัดเหมาะกับการขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่นิยมใช้ชีวิตอาศัยในคอนโดมิเนียม เดินห้างสรรพสินค้าบ่อยๆ หาที่จอด หรือเลี้ยวเข้าซอยแคบๆ ได้ง่าย

แต่ไปต่างจังหวัดก็ไม่ขี้เหร่ เพราะนิสสันเคยจัดทริปขับขึ้นดอยมาแล้ว แถมเครื่องยนต์ทรงพลังเกินตัว ไปต่างจังหวัดหากมีพื้นที่ถนนยาวๆ กดถึง 150-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สบาย

มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ สนนราคาเริ่ม 420,000-510,000 บาท

โดยรุ่นเกียร์ธรรมดานั้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกค่อนข้างน้อย ต้องซื้อเพิ่มเองหลายอย่าง ทั้งวิทยุ แถมกระจกเป็นแบบมือหมุน หากใครไม่ซีเรียสเพราะอยากหาเครื่องเสียงดีๆ มาติดเองก็ไม่ว่ากัน

ส่วนเรื่องอะไหล่และชุดแต่งหายห่วง ด้วยมียอดขายสะสมเยอะพอสมควร ทำให้ชุดแต่ง ชุดของเล่นออกมาเพียบไปหมด

 

ปิดท้ายด้วยรถเล็กราคาถูกสุดในตลาดที่ “มิตซูบิชิ มิราจ” ที่ล่าสุดปรับหน้าตาใหม่สวยสดใสกว่าเดิมเยอะมาก เพราะกระจังหน้าใหม่แบบ “Advanced Dynamic Shield Design”

เบาะหนังสังเคราะห์และผ้า ดีไซน์พิเศษ พร้อมภายในตกแต่งวัสดุแบบ Piano Black และ Carbon Print

ในจำนวน 3 รุ่นที่คัดมานี้ มิราจถือว่าใส่ฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาเยอะสุด อาทิ ระบบเสริมความปลอดภัย ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน โดยใช้คลื่นเรดาร์ตรวจจับวัตถุด้านหน้าในระยะไม่เกิน 4 เมตร หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ

ทั้งมีระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก

เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร แต่ด้วยตัวรถขนาดเล็กและค่อนข้างเบา หากใช้ความเร็วสูงต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นสักหน่อย

ด้วยฟีเจอร์ที่อัดเข้ามาเยอะที่สุดใน 3 ตัวเลือก ราคาจึงสูงขึ้นมาหน่อย

เกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 474,000 บาท ส่วนเกียร์อัตโนมัติมี 3 รุ่นย่อย ราคา 509,000-619,000 บาท

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)

• ลงทะเบียนเข้างาน รับต้นไม้ฟรี (จำนวนจำกัด) ลิงก์ลงทะเบียน   
• ลงทะเบียน workshop ฟรี ลิงก์ลงทะเบียน