ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ลึกแต่ไม่ลับ |
ผู้เขียน | จรัญ พงษ์จีน |
เผยแพร่ |
ห้วงเวลา 3 เดือนนับจากนี้ไป ถ้าไม่มีสถานการณ์ “พิเศษ” อื่นใดเข้าแทรกซ้อน ชื่อผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ที่จะขึ้นมาผงาดแทน “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช คือ “บิ๊กแกละ” พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบกคนปัจจุบัน
ทำไมต้องชื่อ “บิ๊กแกละ”
ถ้าเป็นอย่างนั้น “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกจะอยู่ตรงไหน?
นี่เป็นคำถามที่ตามมา
ก่อนเฉลยต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์
เชื่อว่าทุกคนยังจดจำเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
“บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ โค่นรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” โดยมี “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 ในขณะนั้น และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งคุมกำลังหลักร่วมทุ่มพลังอย่างเต็มที่
ปฏิวัติเสร็จเรียบร้อย “บิ๊กบัง” ปูนบำเหน็จให้ “บิ๊กป็อก” เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.
แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่าเส้นทางของ “บิ๊กป็อก” ที่เข้าสู่ตำแหน่ง “ผบ.ทบ.” กลับกลายเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์ เพราะไม่ได้แรงหนุนจากสายวงศ์เทวัญหรือหน่วยรบพิเศษ
“บิ๊กป็อก” จับมือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งสายบูรพาพยัคฆ์ และ “บิ๊กตู่” น้องรัก สร้างพลังต่อรองสู้กับสายวงศ์เทวัญและรบพิเศษ
“บิ๊กบัง” ซึ่งเป็น ผบ.ทบ. คนแรกที่มาจากหน่วยรบพิเศษ มีสัมพันธ์แนบแน่นกับ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” พี่ใหญ่แห่งหน่วยรบพิเศษ มีชื่อ ผบ.ทบ. อยู่ในใจแล้วแต่กระนั้นไม่สามารถทัดทานพลังของ “3 ป.” ได้จึงต้องมอบตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้ “บิ๊กป็อก” อย่างจำใจ
ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา “บิ๊กป็อก” ปูฐานอำนาจด้วยการจัดนายทหารในสาย “บูรพาพยัคฆ์” ให้เป็นกำลังหลักสำคัญ
จาก “บิ๊กป็อก” ซึ่งครองตำแหน่ง ผบ.ทบ. 3 ปี มาเป็น “บิ๊กตู่” อีก 4 ปี สองพี่น้องช่วยกันถักทอพลัง โดยมี “บิ๊กป้อม” คุมจังหวะจนฐานอำนาจแน่นหนากว่ายุคใดๆ
“3 ป.” วาง “บิ๊กหมู” ให้คุมตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน นอกจากเป็นการมอบรางวัลที่ช่วยสนับสนุนโค่นรัฐบาล “ปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ยังเป็นเพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องบิ๊กตู่นั่งตำแหน่ง “ผบ.ทบ.”
นับถึงวันนี้สาย “บูรพาพยัคฆ์” ยึดกองทัพบกไว้เหนียวแน่นรวมแล้ว 9 ปีเต็มๆ
ฉะนั้น ถ้าให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่ามาจากสายรบพิเศษ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่ โอกาสที่ฐานกำลัง “บูรพาพยัคฆ์” จะถูกเขย่าจนโยกคลอนมีสูงยิ่ง
ที่สำคัญ “บิ๊กเจี๊ยบ” จะอยู่ในตำแหน่งนานถึง 2 ปี กว่าจะเกษียณในปี 2561
เวลา 2 ปีในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ย่อมสร้างทั้งอำนาจและบารมีได้เต็มๆ
เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์อย่างนี้ น่าจะเป็นคำตอบ ทำไม ผบ.ทบ. คนใหม่ ต้องเป็น”บิ๊กแกละ”
ไม่เพียงเพราะ “บิ๊กแกละ” จะเป็นผู้สืบทอดสาย “บูรพาพยัคฆ์” หากยังเป็นน้องรักของ “3 ป.”
อีกทั้งในวันปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 “บิ๊กแกละ” ซึ่งในเวลานั้นยังเป็น “พ.อ.พิสิทธิ์” ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นำกำลังร่วมโค่นรัฐบาล “ทักษิณ” ภายใต้การบังคับบัญชาของ “บิ๊กป็อก” แม่ทัพภาคที่ 1
พ.อ.พิสิทธิ์ ได้โบนัสรับตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. จากนั้นเข้าคุมกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ซึ่งเป็นหน่วยกำลังสำคัญ ไต่ขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 รับยศ พล.ท. เดือนมีนาคมปีที่แล้วคว้าโบนัสอีกรอบเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก กินตำแหน่ง พล.อ.
อีก 5 เดือนถัดมา พล.อ.พิสิทธิ์ เจอแจ๊กพ็อตขึ้นเป็นเสนาธิการกองทัพบก เข้าไลน์ “5 เสือ ทบ.”
ในการแต่งตั้งครั้งล่าสุดที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ถ้า พล.อ.พิสิทธิ์ ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แม้มีเวลานั่งในตำแหน่งเพียงแค่ปีเดียว แต่เท่ากับฐานอำนาจ “บูรพาพยัคฆ์” ยังฝังแน่นในกองทัพบก
ฉะนั้น เหตุผลในการปูนบำเหน็จ “บิ๊กแกละ” เป็น “ผบ.ทบ.” จึงดูเป็นเรื่องเหมาะสมอย่างยิ่งในสายตาของ “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่”
“บิ๊กแกละ” คว้าเก้าอี้ ผบ.ทบ. แล้ว “บิ๊กเจี๊ยบ” จะไปไหน
ทางเลือกมีไม่มาก ดีที่สุดน่าเป็น “ปลัดกลาโหม”
จึงมีคำถามอีกว่า หลังปี 2560 ไป สายบูรพาพยัคฆ์จะสืบทอดอำนาจต่ออีกหรือไม่
คำตอบ สืบทอดแน่นอนถ้าไม่มีเหตุแทรกซ้อน ชื่อ ผบ.ทบ. คนต่อไปหลังบิ๊กแกละ ต้องเป็น “บิ๊กเข้” พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาคที่ 1 คนปัจจุบัน
“บิ๊กเข้” คือทายาท “บูรพาพยัคฆ์” ซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นทั้งบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม
ก่อนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 อยู่ในสายเดียวกับ “บิ๊กตู่” เคยเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพน้อยที่ 1
ส่วน บิ๊กตู่เล็ก “พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นทายาท “บูรพาพยัคฆ์” อีกคนที่น่าจับตา
ในระหว่างการชุมนุมคนเสื้อแดง พล.ต.กู้เกียรติ ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ มีบทบาทสำคัญมากในการดูแลรักษาความสงบ
ผลงานของ พล.ต.กู้เกียรติ เข้าตา “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม”
การวาง “บิ๊กตู่เล็ก” เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากเป็นการจัดวางให้เข้าที่เข้าทาง เหมือนรอเสียบเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แทน “บิ๊กเข้” จะเข้าอยู่ในไลน์ “5 เสือ ทบ.” รอคิว “ผบ.ทบ.” ปี 2560
ต้องดูว่าการโยกย้ายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ “บิ๊กตู่เล็ก” จะคว้าตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 แทน “บิ๊กเข้” หรือไม่
ถ้าโผออกตามนั้น “บิ๊กตู่เล็ก” จะเข้าไลน์จ่อคิว 5 เสือ ทบ. ยาวถึงปี 2563 พร้อมจ่อเสียบ “ผบ.ทบ.”
แต่กระนั้นก็ไม่ควรมองข้าม “เสธ.แดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานบอร์ดกองสลากฯ
“เสธ.แดง” เป็นหนึ่งในคนสนิทของ “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” ที่อาจย้อนกลับเข้ามาชิงดำเป็น “แม่ทัพภาคที่ 1” และกลายเป็นแคนดิเดต “ผบ.ทบ.” อีกคนก็เป็นได้