เสียงจาก “ดุสิตโพล” 2 ระลอกซ้อน ย้ำภาพ “รัฐบาลขาลง”

เสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาล คสช. มาถึงห้วงเวลา “ขาลง” ดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ

มีปรากฏการณ์สนับสนุนหลายเรื่อง

ทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกองเชียร์ หรือคนในขั้วการเมืองเดียวกัน

การใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งห้ามนั่งท้ายรถกระบะและแค็บของรถปิกอัพที่ออกมาก่อนสงกรานต์ ก่อนจะถอยกรูด สั่งอนุโลมให้นั่งได้

ข้อเรียกร้องให้ “ปลดล็อก” เปิดให้เคลื่อนไหวการเมืองได้ หลังจากรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ ซึ่งทำให้ประธาน กกต. เองก็ยังเห็นว่าจำเป็น

แต่รัฐบาลยืนยันความจำเป็นด้านความมั่นคง ยังไม่ปลดล็อก

ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่คนที่สนับสนุน คสช. ยังมีความเห็นแตกต่าง

ก่อนที่มีข่าวออกมาในวันที่ 24 เมษายน ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการซื้อเรือดำน้ำจีนไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน

โดยไม่มีการแถลงข่าวด้วยเหตุว่า เป็นเรื่อง “ลับ”

การออกคำสั่งตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญ 2557 ในวันที่ 5 เมษายน เพื่อให้อำนาจ คสช. สรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนที่จะให้สรรหาตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ประกาศใช้ในวันที่ 6 เมษายน ก่อนจะออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งเดิม

จนถึงกรณี “หมุดหาย” ที่รัฐบาลไม่มีคำตอบให้กับสังคม ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

ขณะที่โพลต่างๆ ที่เคยส่งเสียงสะท้อนชื่นชมรัฐบาล ทั้งการบริหารงาน ความนิยม น้ำเสียงเริ่มแปรเปลี่ยน

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “การเรียกร้อง/ประท้วง ณ วันนี้” เมื่อวันที่ 16 เมษายน กลายเป็นข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น

ถามว่า ประชาชนคิดว่าสถานการณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ณ วันนี้เป็นอย่างไร? ส่วนใหญ่ตอบว่า ค่อนข้างน่าเป็นห่วง 29.24% เพราะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ทั้งนักการเมืองและประชาชน การใช้อำนาจตัดสินใจโดยไม่รับฟังเสียงรอบด้าน ฯลฯ

อันดับ 2 ยังไม่น่าเป็นห่วง 26.49% เพราะเชื่อมั่นนายกฯ ยังควบคุมสถานการณ์ได้ การทำงานของรัฐบาลย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฯลฯ

อันดับ 3 น่าเป็นห่วง 24.88% เพราะจากข่าวต่างๆ ที่นำเสนอในช่วงนี้ รัฐบาลถูกกดดันจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ฯลฯ

อันดับ 4 ไม่เป็นห่วง 19.39% เพราะเป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาลที่จะต้องเจอปัญหาในการทำงาน รัฐบาลชุดนี้มีอำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ฯลฯ

ถามถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ประชาชนคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนอะไรถึงรัฐบาล

อันดับ 1 61.85% การจำกัดสิทธิเสรีภาพมากเกินไป อาจเกิดการต่อต้าน ไม่ยอมรับ

อันดับ 2 53.92% สถานการณ์บ้านเมืองเข้มข้นมากขึ้น การทำงานของรัฐบาลเป็นที่จับตามอง 58.11%

อันดับ 3 ความเห็นที่ต่างกันมีผลกระทบต่อความนิยม และภาพลักษณ์ของรัฐบาล

ถามว่า รัฐบาลควรทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ ผลสำรวจพบคนส่วนใหญ่ 70.13% ตอบว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเปิดกว้าง ชี้แจงเหตุผลชัดเจน ตรงไปตรงมา

อันดับ 2 66.91% ตอบว่า ต้องมุ่งมั่น จริงใจ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรียงลำดับความสำคัญของปัญหาที่จะแก้ไข

อันดับ 3 60.04% บังคับใช้กฎหมายในการแก้ปัญหาอย่างเข้มงวด จริงจัง เหมาะสมกับสภาพการณ์

โพลดังกล่าว ทำให้กระแสเรื่องรัฐบาลน่าเป็นห่วงแพร่สะพัดออกไป

ต่อมา วันที่ 23 เมษายน สวนดุสิตโพล เปิดเผยถึงผลการสำรวจเรื่องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในสายตาประชาชน ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2560 สรุปผลได้ดังนี้

1. สิ่งใด? หรือเรื่องใด? ที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้น

อันดับ 1 คือการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น 70.51% เพราะมีการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ต่อเนื่อง จริงจัง มีผลงานให้เห็นชัดเจน รัฐบาลให้ความสำคัญ ฯลฯ

อันดับ 2 บ้านเมืองเป็นระเบียบ สงบสุข ไม่มีการชุมนุมประท้วง 65.33% เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น บ้านเมืองไม่วุ่นวาย ฯลฯ

อันดับ 3 การบริหารบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง 62.56% เพราะประเทศจะได้พัฒนา ทันสมัย พัฒนาในทางที่ดีขึ้น สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ประชาชนอยู่ดีกินดี ฯลฯ

2. สิ่งใด? หรือเรื่องใด? ที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ลดลง

อันดับ 1 ได้แก่ เรื่องเศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก 76.50% เพราะทำให้การค้าการลงทุนหยุดชะงัก ค่าครองชีพแพง ประชาชนตกงาน ต้องกู้หนี้ยืมสิน รายได้ไม่พอจ่าย ฯลฯ

อันดับ 2 คือเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เช่น เก็บภาษี กฎหมายจราจร 73.46% เพราะทำให้ประชาชนต้องลำบาก มีกระแสต่อต้าน ไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดการคัดค้านโจมตีรัฐบาล ฯลฯ

อันดับ 3 คือเรื่องเผด็จการ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น 68.36% ใช้อำนาจมากเกินไป ประชาชนไม่ค่อยมีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมทางการเมืองน้อย ฯลฯ

3. โดยภาพรวม ณ วันนี้ ประชาชนมีความนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้นหรือลดลง ผลการสำรวจพบว่า อันดับ 1 คือ นิยมชมชอบเท่าๆ เดิม 44.77% เพราะมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ทำงานด้วยความเสียสละ ฯลฯ อันดับ 2 นิยมชมชอบลดลง 29.40% เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ เศรษฐกิจไม่ดี สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ฯลฯ และอันดับ 3 นิยมชมชอบมากขึ้น 25.83% เพราะยังมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจที่จะดำเนินการตามโรดแม็ป ทำงานรวดเร็ว มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน ฯลฯ

4. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คือ

อันดับ 1 เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง คุณภาพชีวิตของประชาชน 80.70%

อันดับ 2 ดำเนินงานตามโรดแม็ป จัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย 71.58%

และอันดับ 3 ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ 69.97%

ปฏิกิริยาจากรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีขาลง เพราะรัฐมนตรีทุกกระทรวงทุ่มเทการทำงานทุกอย่าง

ยังมองไม่เห็นว่าไม่มีอะไรที่ไม่ก้าวหน้า แต่ถ้าหากเห็นส่วนไหนที่รัฐบาลยังไม่ดำเนินการ ขอให้สื่อไปหามาว่าอะไร แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้กำกับดูแลด้วยตนเอง และรัฐมนตรีทุกกระทรวงก็ทำงานหนัก

เป็นท่าทียืนยันจากรัฐบาล

ขณะที่เสียงสะท้อนตรงไปตรงมาจากโพลสวนดุสิตเดินไปในอีกทิศทางหนึ่ง

น่าติดตามว่าโพลชื่อดังอื่นๆ จะเสนอผลการสำรวจอย่างไรหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็น “กรุงเทพโพลล์” จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ, “นิด้าโพล” จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), ซูเปอร์โพล โดย ดร.นพดล กรรณิการ์ และอื่นๆ

และการเสนอผลการสำรวจของโพลสวนดุสิต จะตามมาด้วยอะไรหรือไม่??!