ปาร์ก วอน ซุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2022 ตัดสินใจฆ่าตัวตายอย่างน่าสลดใจ

ร่างของปาร์กถูกพบบนภูเขาในกรุงโซล 1 วันหลังจากอดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชนถูกอดีตเลขาฯ แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกนายปาร์กคุกคามทางเพศ นับเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ถูกกล่าวหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศ ในประเทศที่มีสังคมผู้ชายเป็นใหญ่แห่งนี้

จดหมายลาของปาร์กที่เขียนทิ้งเอาไว้ที่บ้านพัก ถูกพบในเวลาต่อมา ระบุขอโทษทุกๆ คนในชีวิต แต่ก็ไม่ได้ระบุถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด

“ผมต้องขอโทษทุกๆ คน ผมขอบคุณทุกๆ คนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต” ปาร์กระบุ พร้อมทั้งขอให้นำกระดูกไปบรรจุรวมไว้ที่สุสานของพ่อและแม่ของตน

“ผมขอโทษไปยังครอบครัวของผม ขอโทษไปยังคนที่ผมทำให้ต้องเจ็บปวด” ปาร์กเขียน

“ลาก่อนทุกๆ คน”

 

ปาร์กมีเส้นทางการเมืองที่สดใส ในฐานะนักการเมืองแถวหน้าของพรรคประชาธิปไตย พรรคสายกลางซ้าย ที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในเวลานี้ ก่อนจะได้รับเลือกให้นั่งเป็นนายกเทศมนตรีกรุงโซล เมืองที่มีประชากรคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของประชากรทั้งประเทศอาศัยอยู่ และดำรงตำแหน่งมานานเกือบ 10 ปีแล้ว

ปาร์กชนะเลือกตั้งมาแล้ว 3 ครั้ง มีนโยบายสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงความเท่าเทียมทางสังคม และมีความตั้งใจที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ แทนที่ประธานาธิบดีมุน แจ อิน ในการเลือกตั้งในปี 2022 นี้

การตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง มีขึ้นหลังจากอดีตเลขานุการส่วนตัวยื่นฟ้องว่านายปาร์กก่อเหตุคุกคามทางเพศ นับเป็นคดีในกระแส #MeToo ล่าสุดที่ส่งผลให้ชายที่มีชื่อเสียงหลายคนในหลายวงการต้องถูกดำเนินคดี

 

จากเอกสารที่อ้างว่าเป็นของเหยื่อที่ทำงานเป็นเลขาฯ ของนายปาร์ก ตั้งแต่ปี 2015 ระบุว่า “นายกเทศมนตรีกรุงโซลคุกคามทางเพศและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเวลางาน” หนึ่งในนั้นคือการบังคับให้เธอกอดนายปาร์กในห้องนอนที่ติดกับห้องทำงานในสำนักงานนายกเทศมนตรี

นอกจากนี้ เอกสารยังระบุว่า แม้หลังเลิกงาน นายปาร์กยังส่งภาพเซลฟี่ของตัวเองที่ใส่เพียงกางเกงในตัวเดียวมาให้พร้อมกับข้อความที่ไม่เหมาะสมผ่านแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ

“ฉันต้องล้างสมองตนเอง แบกรับความกลัวและความอับอายเอาไว้ ทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของกรุงโซล ตัวฉันเอง และนายกเทศมนตรีปาร์ก”

 

นายปาร์กก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองในฐานะนักศึกษาที่ออกมาประท้วงการปกครองเผด็จการทหารในยุคของประธานาธิบดีปาร์ก ชุง ฮี

ปาร์กเคยถูกจำคุกฐานเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านอำนาจเผด็จการ ก่อนจะก้าวไปสู่อาชีพทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน

ปาร์กว่าความให้กับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงทศวรรษที่ 90 และสามารถว่าความชนะคดีคุกคามทางเพศคดีแรกในประเทศได้ กลายเป็นการตัดสินคดีครั้งประวัติศาสตร์ที่เป็นบรรทัดฐานในเวลาต่อมา

ปาร์กเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไร People”s Solidarity for Participatory Democracy องค์กรที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปแวดวงธุรกิจที่มีครอบครัวมหาเศรษฐีไม่กี่ครอบครัวครองอิทธิพลอยู่

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิสนับสนุนการเป็นอาสาสมัครและบริการสังคม ที่เติบโตกลายเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดองค์กรหนึ่งในเกาหลีใต้ ที่มีสาขาขายสินค้าและรับบริจาคลักษณะเดียวกันกับร้านปันสุขในประเทศไทย

 

การเสียชีวิตของปาร์กนั้น หมายความว่าการสืบสวนคดีคุกคามทางเพศของปาร์กจะต้องถูกปิดลงโดยอัตโนมัติ

ขณะที่ประชาชนชาวเกาหลีใต้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแตกออกเป็นสองฝ่าย ส่วนหนึ่งแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของนายปาร์กเอง

กับอีกส่วนหนึ่งก็มองว่าการเลือกจบชีวิตตัวเองนั้นเป็นการหนีปัญหาที่ตนก่อเอาไว้หรือไม่

แต่อย่างน้อยคดีที่เกิดขึ้นกับคนดังระดับประเทศในครั้งนี้

คงจะส่งผลสะเทือนในสังคมเกาหลีใต้ไม่มากก็น้อย