เผยแพร่ |
---|
การที่ #24มิถุนายน ติดอันดับเทรนด์ของทวิตเตอร์ มิได้เป็นปรากฏ การณ์อันอยู่เหนือความคาดหมาย
เพราะ”24 มิถุนายน”มากด้วย”ปริศนา”มากด้วย”คำถาม”
เป็นเรื่องที่อาจยาวไกลอย่างยิ่งเมื่อวางเทียบอยู่กับ 6 ปีรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เมื่อวางเทียบอยู่กับ 10 ปีเหตุ การณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ยิ่งกว่านั้น ปฏิบัติการของทหารและตำรวจที่พยายามออกสกัดขัดขวางการเคลื่อนไหวของ”คนรุ่นใหม่”ยิ่งเท่ากับเป็นการเร้ากระตุ้น
เร้ากระตุ้นให้เกิดความพยายามในลักษณะ #ตามหาความจริง
ความสงสัยอย่างยิ่งยวดก็คือ ทั้งๆที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านแห่งยุคสมัยจากสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นประชาธิปไตย
แล้วเหตุใดทหาร ตำรวจภายใต้ร่มเงาแห่งรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จึงไม่ยอมให้มีการ #ตามหาความจริง
หรือ”ประชาธิปไตย”กลายเป็นของ”ต้องห้าม”
อาจกล่าวได้ว่า นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมา ไม่เคยมีครั้งใดที่จะการอ่านประกาศและแถลงการณ์ด้วยความคึกคัก
แม้ว่าจะเสมอเป็นเพียงการจำลองผ่านกระบวนการอย่างที่เรียกว่า “โฮโลแกรม”ก็ตาม
แม้ว่าจะอ่าน ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บนถนนราชดำเนิน มิได้อ่าน ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เหมือนกับที่บังเกิดขึ้นจริงในเหตุการณ์เมื่อ 88 ปีก่อนก็ตาม
เมื่อการอ่านได้สอดประสานเข้ากับ”เทคโนโลยี”ใหม่ อดีตจึงมีความแจ่มชัด
ก่อให้เกิดความหวาดพรั่นเป็นอย่างสูงกับบุคคลบางกลุ่ม
การอ่านคำประกาศอันเป็น”แถลงการณ์”บ่งบอกเนื้อแท้แห่งการเปลี่ยนรูปการปกครองของประเทศจึงกลายเป็น”พิธีกรรม”อันขลังขรึมและก่อผลสะเทือน
แม้จะผ่านเหตุการณ์ 88 ปีของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มาแล้วแต่บรรยากาศแห่งการฟื้นความทรงจำก็ยังดำรงอยู่
ดำรงอยู่ในทาง”ความคิด” ดำรงอยู่ในทาง”การเมือง”
ดำรงอยู่ในทาง”ปริมาณ”และค่อยๆสะสมเพื่อที่จะนำไปสู่การยกระดับไปสู่”คุณภาพ”ใหม่
คุณภาพใหม่ทาง”ความคิด” คุณภาพใหม่ทาง”การเมือง”
นี่คือสิ่งที่ฝ่ายซึ่งพยายามสกัดและขัดขวาง นึกไม่ออกและคาดไม่ถึงว่าจะพัฒนาและเติบใหญ่มาได้ระดับนี้