ต่างประเทศอินโดจีน : กระเป๋าของมาดาม

จํารอสมาห์ มันเซอร์ กันได้หรือไม่?

รอสมาห์ คืออดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย

เธอกลายเป็น “สายล่อฟ้า” ชั้นดี ระดมเอาสารพัดความกราดเกรี้ยวของสาธารณชนที่นั่น เมื่อครั้งที่ผู้เป็นสามียังดำรงตำแหน่งผู้นำมาเลเซียอยู่ก่อนหน้าจะแพ้เลือกตั้งพลิกความคาดหมายในปี 2018

ที่ขึ้นชื่อลือชาอย่างยิ่งในหมู่สามัญชนชาวมาเลเซียทั้งหลายคือ ความเป็น “นักช้อป” ประเภทซื้อแหลกลาญ ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า

ตอนที่ถูกจับกุมตั้งข้อหาคอร์รัปชั่นร่วมกับผู้เป็นสามีหลังแพ้เลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกบ้านพักหรูหรา ยึดกระเป๋าถือ “แบรนด์เนม” ระดับท็อปของโลกมากกว่า 500 ใบ กับเครื่องเพชรนิลจินดาสารพัดอีกมากกว่า 12,000 ชิ้นมาเป็นของกลาง

มูลค่ามากกว่า 270 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยก็เกินกว่า 8,400 ล้านบาท

ว่ากันเฉพาะกระเป๋าถือยี่ห้อ “แอร์เมส” รุ่น “เบอร์กิ้น” นั้น ผู้สันทัดกรณีบอกว่า ราคาเริ่มต้นที่ 9,000 ดอลลาร์ หรือตกประมาณ 280,000 บาทไทย

คิดแค่ 500 ใบในราคาเริ่มต้น ก็ปาเข้าไป 140 ล้านบาทแล้ว

 

ในชีวประวัติ “อย่างเป็นทางการ” ที่บันทึกไว้เมื่อปี 2013 รอสมาห์บอกว่า เธอเป็น “นักบัญชีที่มีพรสวรรค์” แล้วยังเริ่มเก็บเงินเก็บทองมาตั้งแต่ยังเป็นสาว

เธออ้างว่า “แอสเซสซอรี่” หลายต่อหลายอย่างนั้น เธอได้มาเป็น “ของขวัญ” แถมยังอ้างด้วยว่า เคยบันทึกเสียงเพลงมาอัลบั้มหนึ่ง ทำรายได้ให้เธอ “หลายล้าน”

แต่ที่ประวัติส่วนตัวไม่ได้บันทึกไว้ก็คือ อัลบั้มเงินล้านที่ว่านั้น ไม่ได้ขายให้กับคนทั่วไป แต่เป็นรายได้จากการที่บรรดา “รัฐมนตรีทั้งหลาย” ในคณะรัฐบาลนาจิบ (จำต้อง) ซื้อ

เมื่อถูกจับ เธออ้างอิงที่มาของความร่ำรวยของตัวเองที่ว่าไว้ ก่อนตบท้ายว่า

“ฉันซื้อของพวกนั้นด้วยเงินตัวเอง ผิดตรงไหน?” เธอว่า

“ในฐานะที่เป็นผู้หญิง และเป็นภริยาของผู้นำ จำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูดี เนี้ยบและดูแลภาพลักษณ์ มันน่าอายนะ ที่จะให้ชาติอื่นๆ มาล้อเอาสนุกกับภริยานายกฯ มาเลย์ที่ไม่เอาไหน”

รอสมาห์ถูกตั้งข้อหาเรียกร้องสินบนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 3 ข้อหา, ข้อหาฟอกเงินอีก 12 ข้อหา กับข้อกล่าวหาไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินเพื่อเสียภาษีต่อเจ้าพนักงานอีก 5 ข้อหา สิริรวม 20 ข้อหาพอดิบพอดี

 

คดีของรอสมาห์เพิ่งเริ่มพิจารณากันในศาลกัวลาลัมเปอร์เมื่อเร็วๆ นี้

แต่แล้วเจ้าแอร์เมส เบอร์กิ้น ทั้งกว่า 500 ใบนี่แหละที่ทำให้รอสมาห์กลายเป็นข่าวอีกครั้ง

เพราะมูฮัมหมัด ชาฟี อับดุลลาห์ ทนายประจำตัวของรอสมาห์ ยื่นคำร้องต่อศาล

กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้ว่า “ไม่แสดงความเคารพต่อข้าวของโดยสิ้นเชิง”

บรรยายให้ศาลรับรู้ด้วยว่า ตำรวจที่ไม่เคารพที่ว่า เล่นเอาเมจิกกันน้ำที่เขียนติดทนนาน มาเขียนหมายเลขกำกับกระเป๋าถือของกลางไว้ทุกใบ “ถือเป็นการจัดการกับของมีค่าโดยประมาท” อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหลายล้านดอลลาร์

รอสมาห์ไปพบหมายเลขที่ว่านี้ ระหว่างไปตรวจสอบของกลางซึ่งเก็บไว้ที่ห้องนิรภัยของธนาคารแห่งชาติมาเลเซีย ขณะเตรียมแนวทางต่อสู้คดี

“รัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบโดยการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว หรือไม่ก็จัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทดแทนกันได้มาทดแทน” ทนายความของรอสมาห์สรุป

ได้ผลจริงๆ เรื่องนี้กระหึ่มโลกโซเชียลมาเลเซียตามความคาดหมาย ส่วนใหญ่ลงความเห็นเชิงประชดประเทียดทำนองว่า

“มาดามแกเห็นเข้าคงลมใส่เนอะ”

ยกเว้นรายหนึ่งที่รู้สึกสะใจ สมใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้เอามากๆ ไม่ได้โพสต์ถึง “มาดาม” แต่อย่างใด แต่โพสต์ให้กำลังใจตำรวจสั้นๆ ว่า

“กู๊ดจ๊อบ!” ทำได้เยี่ยมจริงๆ!

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่