“กลุ่มลับ” โซเชียลรัสเซีย ต้นเหตุวัยรุ่น “ฆ่าตัวตาย”

สํานักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลรัสเซียต้องเร่งหาทางจัดการกับ “กลุ่มลับ” ในโลกออนไลน์จำนวนมากหลังมีรายงานว่า กลุ่มซึ่งเรียกกันว่าเป็น “กลุ่มแห่งความตาย” นั้นโน้มน้าวให้วัยรุ่นรัสเซียฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก

กลุ่มที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในสังคมรัสเซีย เป็นกลุ่มในเครือข่าย “วีเค” สื่อสังคมออนไลน์ลักษณะเดียวกับ “เฟซบุ๊ก” มีผู้ควบคุมสมาชิกกลุ่มโดย “ที่ปรึกษา” ซึ่งจะมีขั้นตอนโน้มน้าวให้กลุ่มวัยรุ่นปลิดชีวิตตัวเอง

การมีอยู่ของกลุ่มดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจหลัง “โนวายา กาเซตา” หนังสือพิมพ์ต่อต้านรัฐบาลของรัสเซีย เผยแพร่บทความสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เมื่อปี 2016

ส่งผลให้ล่าสุดนาย “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย แสดงความกังวล และเรียกร้องให้นำตัวคนที่โน้มน้าวให้เยาวชนฆ่าตัวตาย มาลงโทษ

พร้อมทั้งเรียกร้องให้กำหนดโทษให้หนักมากขึ้นกว่าโทษจำคุก 3 ปีที่มีอยู่

 

หนังสือพิมพ์โนวายา กาเซตา ระบุว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2015 ถึงเดือนเมษายน 2016 มีวัยรุ่นหลายสิบราย จากทั้งหมด 130 ราย ฆ่าตัวตายโดยแรงกดดันจากสมาชิกกลุ่มในวีเค

“ฟิลิปป์ บูเดคิน” ที่ปรึกษาในกลุ่มแห่งความตายกลุ่มหนึ่งที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในข้อหาโน้มน้าวให้วัยรุ่นรัสเซียฆ่าตัวตายไป 15 ราย ระบุถึงวิธีการดึงดูดวัยรุ่นที่บูเดคินเรียกว่าเป็น “ขยะย่อยสลาย” และ “พวกไร้ประโยชน์ต่อสังคม” ว่าใช้วิธีการสร้างกลุ่มและสร้างเนื้อหาที่ชวนให้หดหู่ ดึงให้เหยื่อดำดิ่งไปสู่บรรยากาศพิเศษบางอย่าง เมื่อเหยื่อคลิกร่วมกลุ่มแล้วจะถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และให้ทำ “ภารกิจ” เช่น การทำร้ายตัวเองแบบแผลงๆ อย่างการกรีดผิวหนังให้เป็นแผล เป็นต้น

“ผมแค่อธิบายให้คนบางคนเข้าใจว่าทำไมความตายจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” บูเดคินระบุ และว่า “พวกเขาคือคนตัดสินใจ ไม่มีใครบังคับ”

และ “บูเดคิน” ยืนยันว่าการกระทำของเขาก็เป็นเพียงแค่การ “ทำความสะอาดสังคม” เท่านั้น

รายงานของหนังสือพิมพม์ “โนวายา กาเซตา” ระบุว่า “กลุ่มแห่งความตาย” เหล่านี้บางกลุ่มไปถึงขั้นข่มขู่แบล๊กเมล์เหยื่อที่เป็นสมาชิก ด้วยการระบุว่าจะตามไล่ล่าคนที่รักหากเหยื่อปฏิเสธที่จะทำ “ภารกิจ”

 

การค้นพบกลุ่มลับในสื่อสังคมออนไลน์วีเค สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมรัสเซียอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียเป็นชาติที่มีอัตราเยาวชนฆ่าตัวตายสูงถึง 20 รายต่อจำนวนเยาวชนทุกๆ 100,000 คน ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ซึ่งนับเป็นอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 3 เท่า

“แอนนา คูซเนตโซวา” ผู้ตรวจการด้านสิทธิเด็กของประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า เมื่อปี 2016 จำนวนเยาวชนที่ก่อเหตุฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเกือบ 57 เปอร์เซ็นต์หลังจากลดลงเมื่อปี 2015 และการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนั้นก็เกิดขึ้นเพราะปรากฏการณ์ “กลุ่มแห่งความตาย” นั่นเอง

ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังแพร่ไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน โดยรัฐบาลยูเครนเองก็ได้รับการแจ้งเตือนถึงจำนวนเยาวชนฆ่าตัวตายที่ “เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ด้วย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยูเครน ได้ปิดกั้นการเข้าถึงกลุ่มในสื่อสังคมออนไลน์แล้วจำนวน 500 กลุ่มในเดือนที่ผ่านมา และระบุด้วยว่า ตำรวจได้รับแจ้งกรณีเด็กหนีออกจากบ้านวันละ 70 คดีในจำนวนนี้ 20-30 เปอร์เซ็นต์เป็นสมาชิก “กลุ่มแห่งความตาย”

แม้ว่ากลุ่มดังกล่าวดูเหมือนจะมีผลกระทบกับสังคมในวงกว้างทั้งในรัสเซียและยูเครน แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า “ปรากฏการณ์” ดังกล่าวอาจไม่ส่งผลกระทบกว้างขวางอย่างที่เห็น บางรายวิพากษ์วิจารณ์คูซเนตโซวา ว่าโหมกระพือในประเด็นดังกล่าวมากเกินไปจนกลายเป็นการสร้าง “นิทาน” เกินจริงจากการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเพียงไม่กี่ราย

 

เว็บไซต์ “เมดูซา” เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นอ้างความเห็นของ “เยฟเกนี อันเดรเยฟ” นักประชากรศาสตร์ของรัสเซียที่ระบุว่า นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่มีการตื่นตูมเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเยาวชนที่เพิ่มจำนวนขึ้น และสถิติไม่ได้สนับสนุนแนวโน้มดังกล่าว

“รอสสแตต” หน่วยงานสถิติแห่งชาติตีพิมพ์สถิติระบุว่าในปี 2016 มีชาวรัสเซียรวมทุกช่วงอายุ ฆ่าตัวตายจำนวน 22,839 ราย ลดลงจากปี 2015 ที่มีจำนวน 24,982 ราย ขณะที่ตัวเลขล่าสุดนั้นเหลือน้อยกว่าครึ่งจากจำนวนคนฆ่าตัวตายในปี 2005 ที่มีจำนวนถึง 45,800 ราย

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ประเด็นการฆ่าตัวตายนั้นไม่เป็นที่พูดถึงในสังคมรัสเซียเท่าไรนัก หนึ่งเพราะความยากลำบากในการแก้ปัญหา

ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ของสำนักโพลอิสระอย่าง “เลวาดา” พบว่า ประเด็นที่สังคมรัสเซีย “รับไม่ได้” ที่จะนำมาพูดคุยกันในครอบครัวหนึ่งในนั้นคือปัญหา “การฆ่าตัวตาย”

ปัญหาที่นับเป็นประเด็นที่ชาวรัสเซียรับไม่ได้ที่จะพูดคุยกันเป็นอันดับสอง รองจาก “ปัญหาทางเพศ” เท่านั้น