หนุ่มเมืองจันท์ : Live-Life ครั้งแรกของ Facebook-Live

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

หลังจากประกาศว่าจะทำ facebook live มานานเกือบปี

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผมก็ได้ลงมือทำในสิ่งที่พูดเสียที

และเมื่อจบรายการ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นก็คือ…

เฮ้ย…ทำไมเพิ่งทำ

น่าจะทำตั้งนานแล้ว

เพราะเป็นการทำงานที่สนุกมากครับ

ไม่รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว

 

รูปแบบรายการเป็นการสัมภาษณ์นักธุรกิจหรือผู้บริหารคล้ายๆ กับรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ที่เคยแพร่ภาพทางช่องเวิร์คพอยท์

ผมหยุดรายการนี้ไปนานประมาณปีครึ่ง

เชื่อไหมครับว่าพอหยุดปั๊บ เรตติ้งช่องเวิร์คพอยท์ก็ขึ้นพรวด-ขึ้นพรวดเลยครับ

จนวันนี้ช่วงไพรม์ไทม์เขาแซงช่อง 3 ไปแล้ว

นี่คือคุณูปการที่ผมทำให้กับช่องเวิร์คพอยท์

ก่อนจะทำรายการ ผมก็เกริ่นเรื่องนี้กับคนในแวดวงหลายคน

คุยกับ “วู้ดดี้” เขาก็บอกคำเดียวว่า “ทำเลย”

มีปัญหาอะไรให้บอก

คุยกับ “กร” ชลากรณ์ ปัญญาโฉม แห่งเวิร์คพอยท์ เขาก็พูดแบบเดียวกัน

“พี่ทำเลย”

ทุกคนเชียร์หมด

ไม่มีใครค้านสักคนเดียว

ผมก็รำป้อไปป้อมาอยู่พักใหญ่ จนวันหนึ่งก็ตัดสินใจ

…ลุย

และเมื่อรายการนี้เคยเริ่มต้นกับ “เวิร์คพอยท์”

“เวิร์คพอยท์” ก็ต้องรับผิดชอบ

แขกรับเชิญคนแรกของผมจึงเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิตอลทีวี

“ชลากรณ์ ปัญญาโฉม”

นอกจากคุ้นเคยกันมานานแล้ว ยังเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพราะช่องเวิร์คพอยท์มาแรงแซงช่อง 3 ไปแล้ว

และรายการ The Mask Singer ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการโทรทัศน์ไทยเพิ่งจบไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560

ประเด็นกำลังฮ็อต

“กร” นั้นเคยให้สัมภาษณ์สื่อสิ่งพิมพ์มาหลายเล่ม

แต่เขาไม่เคยให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์หรือ facebook live กับใครมาก่อน

เพราะสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นก็คงไม่สัมภาษณ์เขา

ส่วนคนทำงานช่องเวิร์คพอยท์ก็คงเขินๆ ที่จะสัมภาษณ์คนกันเอง

คุณสมบัติสดและซิงเช่นนี้

ช่างเหมาะกับการเปิดตัว facebook live “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” อย่างยิ่ง

เรานัดดีเดย์กันวันจันทร์ที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

ตอน 1 ทุ่ม

 

ผมชวน “มิ้นท์” พิมสิริ ทองร่มโพธิ ที่เคยเป็นพิธีกรร่วมมาทดลอง facebook live ด้วยกัน

นอกจากจะไปจัดรายการที่ห้องประชุมของ “เวิร์คพอยท์” แล้ว

เรายังขอให้ “กร” เลี้ยงข้าวด้วย

และจะถือเป็นวัฒนธรรมของรายการนี้ต่อไป

คือ นอกจากจะบุกไปหา “แขกรับเชิญ” ถึงถิ่นแล้ว

เราจะให้เขาเลี้ยงข้าวด้วย

ผมชอบการสัมภาษณ์แขกรับเชิญแบบ facebook live มาก

เพราะไม่เป็นทางการอย่างยิ่ง

ไม่ต้องทำผม ไม่ต้องแต่งหน้า ไฟส่องหน้าก็ไม่แรง

ไม่ต้องแกล้งเป็นไม่รู้จัก “แขกรับเชิญ”

ถ้าคุ้นเคยกันเราก็คุยแบบคนที่สนิทกัน

ไม่ต้องเรียก “คุณ”

facebook live ตัด “พิธีกรรม” ทางทีวีออกหมด

เป็นรายการที่ “ดิบ-ดิบ” หน่อย

ไม่เนี้ยบเหมือนรายการโทรทัศน์

ที่สำคัญ “คนดู” สามารถมีส่วนร่วมในการสนทนาได้

เสียงไม่ดังก็บอกมา

จะคุยหรือตั้งคำถามกับแขกรับเชิญหรือผู้ดำเนินรายการก็ได้

ขนาดผมใช้ “นิ้วกลาง” เลื่อนไอแพด คนดูก็ยังถามเลยครับ

facebook live เป็นรูปแบบการทำรายการแบบ “ทูเวย์”

ไม่ใช่ “วันเวย์” เหมือนโทรทัศน์

 

ผมวางประเด็นไว้ 3 เรื่อง คือ

1. เรื่องการทำสถานีโทรทัศน์ ทำอย่างไรจึงแซงช่อง 3

2. รายการ The Mask Singer

และ 3. การใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ facebook live ของ “เวิร์คพอยท์”

คนส่วนใหญ่ไม่เคยฟัง “กร” ให้สัมภาษณ์มาก่อน

เขาไม่รู้ว่าคนนี้เก่งมาก

ทั้งเรื่องวิธีคิด และการใช้ “ตัวเลข” สถิติมาวิเคราะห์รายการ

อย่างเช่น เขาบอกว่าต้องแปร “ตัวเลข” ที่เราเจอให้กลายเป็น “อารมณ์” ให้ได้

“ตัวเลข” เรตติ้งบอกว่าคนกรุงชอบรายการนี้

เราก็ต้องวิเคราะห์ว่า “คนกรุง” ชอบอะไรในรายการ

หรือที่ “กร” ใช้คำว่า “อารมณ์”

จากนั้นจะได้นำ “อารมณ์” ที่ค้นเจอมาทำเป็นรายการใหม่ได้

…คมมาก

เราคุยกันอย่างสนุกสนาน

เหมือนนั่งคุยกับ “เพื่อน”

ถามแบบสบายๆ

ตอบแบบสบายๆ

ผมรู้สึกได้เลยว่าพอเรารู้สึกสนุกในการคุย

คนดูก็สนุกด้วย

แป๊บเดียว เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง แต่ประเด็นที่เตรียมมายังไม่หมด

คนดูก็เชียร์ให้คุยต่อ

จากเดิมที่เคยคิดว่าจะ live ไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ปรากฏว่ายิ่งคุย ยิ่งสนุก

กว่าจะจบรายการ

1 ชั่วโมงครึ่งครับ

…”ฟิน” มาก

 

หลัง facebook live เสร็จ

ผมรู้สึกเลยว่ามาถูกทางแล้ว

เกิดอาการเลือดสูบฉีดทางจิตวิญญาณ

มีความสุขและสนุกมาก

เพราะ facebook live ไม่ต้องเน้นเรื่องโปรดักชั่นหรือการถ่ายทำที่ผมไม่เชี่ยวชาญ

แต่ให้ความสำคัญกับเนื้อหาและอารมณ์สบายๆ ในการซักถาม

แบบนี้เข้าทาง

นอกจากนั้น ยังทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับมาเป็น “นักข่าว” ใหม่อีกครั้ง

ได้ซักได้ถามเต็มที่โดยไม่ต้องยึด “พิธีกรรม” ทางทีวี

ที่สำคัญ facebook live วัดผลได้ทันที

เราสามารถเห็นยอดคนดูและคนเข้าถึง

อย่างครั้งแรก มีคนดูตอน live ประมาณ 16,000 คน

มาดูตามย้อนหลังแค่วันเดียวเพิ่มเป็น 23,000 คน

ส่วนยอดคนเข้าถึง 101,000 คน

แสดงความเห็น 353 คน

ตัวเลขใช้ได้ทีเดียวครับ

ตอนนี้วางแผนแล้วครับจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป

ถ้าจัดรายการสัปดาห์ละครั้งผมคิดว่าหนักไป

ไม่ “สุขนิยม”

ตอนแรกจึงคิดว่าน่าจะเป็น “จันทร์” เว้น “จันทร์”

เวลา 1 ทุ่ม

ครั้งต่อไปจึงเป็นจันทร์ที่ 17 เมษายนนี้

ถามว่าทำไมต้อง “วันจันทร์”

คำตอบก็คือ “จำง่าย” ครับ

“วันจันทร์”

กับ “หนุ่มเมืองจันท์”