ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / EXTRACTION ‘บู๊ล้างผลาญ’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

EXTRACTION

‘บู๊ล้างผลาญ’

 

กำกับการแสดง Sam Hargrave

นำแสดง Chris Hemsworth Rudhraksh Jaiswal Randeep Hooda Neha Mahajan

Priyanshu Painyuli

 

ช่วงหลายเดือนที่มีการกักตัวและแยกระยะห่างของคนทั้งโลก ทำให้ผู้คนจับเจ่าอยู่ในบ้านช่องห้องหอ และสถานบันเทิงกลายเป็นเขตต้องห้ามขณะนี้ เน็ตฟลิกซ์ออกหนังบู๊ล้างผลาญที่ปกติน่าจะได้ดูบนจอใหญ่เต็มตามาให้ดูเป็นหนังใหม่

ใช้นักแสดงระดับแถวหน้ามาคนเดียว ซึ่งมีชื่อเสียงรับประกันว่ามีแฟนคอยติดตาม คือ คริส เฮมส์เวิร์ธ เทพเจ้าธอร์ขว้างค้อนจากจักรวาลของมาร์เวล ซึ่งมีทั้งซูเปอร์ฮีโร่เดี่ยวและรวมดาวซูเปอร์ฮีโร่ในชุด Avengers

อันที่จริง เทพเจ้าธอร์นั้นมีที่มาจากปกรณัมเก่าแก่ของชาวนอร์ส ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของไวกิ้ง ธอร์จึงเป็นเทพเจ้าผมทอง หล่อเหลาแบบเทพบุตรในอุดมคติด้วยภาพลักษณ์ของคริส เฮมส์เวิร์ธ

และคริส เฮมส์เวิร์ธ คือพระเอกบู๊ล้างผลาญคนใหม่ของเราสำหรับหนังที่มีแต่แอ๊กชั่นเป็นเนื้อเป็นหนังล้วนๆ ตามหลังพระเอกบู๊อย่างฌอง-คล็อด แวนแดมม์ ซิลเวสเตอร์ สตัลโลน อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ หรือแม้แต่เลียม นีสัน ซึ่งออกจะแก่เกินแกงไปแล้ว

และดูจากเนื้อเรื่องแล้ว หนังเรื่องนี้มีท่าว่าจะเป็นหนังม้วนเดียวจบ ไม่ต้องมีภาคต่อๆ มาตามมาอีกเป็นแฟรนไชส์

 

เรื่องเริ่มที่มุมไบ นครอันคลาคล่ำและมีเอกลักษณ์หลายอย่างของอินเดีย แต่ในที่นี้เป็นโลกของอาชญากรรม การขัดผลประโยชน์ และการหักหน้าและแก้แค้นกันเป็นส่วนตัวของสองเจ้าพ่อใหญ่

โอวี มหาจัน (รุธรักษ์ ไจสวัล) ลูกชายของเจ้าพ่อค้ายาในมุมไบ ถูกลักตัวไปเรียกค่าไถ่โดยเจ้าพ่อค้ายาในเมืองดัคกาของบังกลาเทศชื่ออามีร์ (ปรียันชู ปาอินยูลี)

แต่มหาจันผู้พ่อ เจ้าพ่อค้ายาของมุมไบ ไม่มีเงินจะจ่ายค่าไถ่ให้ได้ เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในคุก และทรัพย์สินถูกอายัดไว้หมด เขาจึงใช้ลูกน้องชื่อซาจู (รันดีป ฮูดา) ให้หาทางช่วยลูกชายของเขาโดยมีชีวิตของลูกชายซาจูเป็นเดิมพัน

หนทางที่จะนำตัวเด็กชายมหาจันออกจากสถานการณ์อันตราย คือการว่าจ้างทีมปฏิบัติการพิเศษมืออาชีพแต่นอกกฎหมายไปเอาตัวออกมา

นั่นคือชื่อเรื่อง และเป็นพล็อตทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ด้วย

ซึ่งนำเข้าสู่การแนะนำให้รู้จักพระเอกของเรา…ไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ)

 

แม้แต่ชื่อพระเอก ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาในช่วงการดำเนินเรื่อง มีตัวละครที่เพิ่งรู้จักเขาบอกว่า หน้าตาอย่างเขาไม่น่าชื่อ “ไทเลอร์” เลย และนามสกุลก็แปลก เพราะแปลว่า “คราด” หรือเครื่องมือทำสวนที่ใช้กวาดเศษใบไม้

ซึ่งก็เป็นประเด็นให้เราสะดุดใจถึงตัวตนของตัวละครตัวนี้ไม่น้อย

ความเป็นพระเอกปรากฏให้เห็นตั้งแต่แรกที่เราได้รู้จักตัวละครตัวนี้ ซึ่งดูเหมือนเอาแต่กินเหล้าและไม่สนใจความเป็นไปของโลกภายนอกเลย ขณะพักผ่อนอยู่กับเพื่อนร่วมงานบนยอดหน้าผาสูงลิ่ว ที่มองลงไปเห็นห้วงน้ำเบื้องล่างลิบๆ

โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง พระเอกของเราฝากขวดเบียร์ในมือไว้กับเพื่อน แล้วเดินอาดๆ ไปที่หน้าผา ทิ้งตัวลอยละลิ่วโดดลงไปโดยไม่รีรอลังเลหรือแม้แต่หยุดมองสักนิด ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของผู้ชายอีกคนที่เพิ่งจะมองลงไปเบื้องล่างอย่างหวาดเสียว

ไทเลอร์ไม่ยอมโผล่ขึ้นบนผิวน้ำอีกนาน จนออกจะน่าเป็นห่วงสำหรับคนข้างบน

แต่กล้องก็พาเราลงไปใต้น้ำ มองเห็นเขานั่งขัดสมาธิหลับตาทำสมาธิอยู่ก้นท้องน้ำ…เก๋อะไรยังงั้น…เป็นพระเอกซะไม่มี…

นี่คือภาพจากเทรลเลอร์หรือหนังตัวอย่างฉายซ้ำไปซ้ำมาเพื่อเรียกลูกค้า และผู้เขียนได้ดูหลายรอบก่อนดูหนังจริงค่ะ

 

เราได้รู้จักพระเอกแล้ว และตัดมาสู่กระท่อมสับปะรังเคกลางป่าซึ่งเป็นบ้านที่เขาอยู่ตัวคนเดียว เหมือนสัตว์บาดเจ็บที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอก

เพื่อนร่วมงานเอางานชิ้นนี้มาให้เพราะไทเลอร์เป็นมือดีที่สุดระดับพระกาฬที่จะหาได้สำหรับงานเสี่ยงภัยสุดยอด เนื่องจากไทเลอร์ทำงานแบบที่ไม่อินังขังขอบกับชีวิตของตนเอง

ต่อจากนั้น หนังก็พาเราไปที่เมืองดัคกาของบังกลาเทศล้วนๆ เลยค่ะ

ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะมากจากชาวบังกลาเทศ ที่ว่าภาพที่หนังนำเสนอนั้นคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง แต่ก็เอาเถอะค่ะ ถ้าเราถือว่าโลกของหนังเป็นอีกโลกหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนจริงทุกสิ่งสรรพ ก็อย่าไปซีเรียสกับข้อปลีกย่อยมากนักก็ได้นะคะ

เคยมีหนังเรื่องหนึ่งมาถ่ายทำที่กรุงเทพฯ ภาพที่ออกมาถูกสับเละว่าไม่สมจริงเลย ถ่ายฉากไล่ล่าอยู่ที่มาบุญครองหลัดๆ ไหนมาโผล่ที่รัชดาฯ เข้าได้ ถ้าจะดูเอาความสมจริงแบบเป๊ะๆ กัน ก็ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่หาข้อค่อนขอดกันได้

และเมื่อหนังพาเราเข้าไปสู่เมืองดัคกาและแผนการช่วยพาเด็กที่ถูกลักพาออกจากรังของเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลในวงการใต้ดิน

แต่แล้วยังไม่ทันไร แผนการก็ผิดพลาดไปหมด เนื่องจากมีการหักหลังกัน แถมยังต้องหลบหนีจากกองกำลังติดอาวุธของบ้านเมืองซึ่งตกอยู่ในกำมือของเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลเสียด้วย

ความเป็นพระเอกก็ปรากฏชัดในคราวนี้เลย เนื่องจากไทเลอร์ไม่ยอมทิ้งภารกิจช่วยเด็กชาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและเขาต้องเสี่ยงภัยอยู่ตามลำพังท่ามกลางอันตรายรอบด้าน

 

นี่เป็นหนังบู๊ล้างผลาญล้วนๆ เลยค่ะ บู๊สะใจแฟนหนังประเภทนี้แน่นอน ทั้งยิงกันหูดับตับไหม้ด้วยอาวุธสังหารขนาดหนัก ฉากไล่ล่า ขับรถตะบึงชนทุกสิ่งที่ขวางหน้า การต่อสู้ประชิดตัว ฯลฯ สารพัดจะบู๊ละค่ะ แถมมีฉากที่ถ่ายทำต่อเนื่องนานร่วมสิบนาที แบบที่สามารถย้อนกลับไปดูซ้ำได้ ไม่เหมือนกับเวลาดูหนังในโรง เนื่องจากดูในเน็ตฟลิกซ์

ดูจนเหนื่อยเลยค่ะ ไม่ใช่หนังประเภทที่ผู้เขียนชอบ แต่ก็มีองค์ประกอบหลายอย่างของหนังแอ๊กชั่นที่ไม่ชวนยี้จนเกินไป และแคแร็กเตอร์ของเด็กชายลูกเจ้าพ่อมุมไบก็เป็นตัวละครที่สมควรได้รับการช่วยให้รอดจากเงื้อมมือมารค่ะ

ดูเพลินๆ ฆ่าเวลาไปในช่วงเก็บตัวอยู่กับบ้านค่ะ