E-DUANG : สถานะ”คนๆเดียว”ผ่าน”วิชชาธรรมกาย”

บทสรุปที่ว่าปัญหา”ธรรมกาย” เป็นปัญหาอันเนื่องแต่”คนๆเดียว”เริ่มจางหายไป

ไม่ว่าจะจากปาก”ดีเอสไอ” ไม่ว่าจะจากปาก”ตำรวจ”

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง จำนวนกว่า 300 คดีที่วางอยู่เบื้องหน้ามีจุดเริ่มต้นมาจาก พระไชยบูลย์ สุทธิผล ในฐานะเจ้าอาวาสและในฐานะประธานมูลนิธิ

แต่จากปฏิบัติการนับแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ กระทั่งวันที่ 10 มีนาคม หลายคนคงเริ่มได้”บทสรุป”

ปัญหามีจุดเริ่มจาก พระไชยบูลย์ สุทธิผล

แต่ก็ต้องยอมรับว่า การดำรงอยู่ของ พระไชยบูลย์ สุทธิผล มิได้เป็นการดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็น “ปัจเจก”แท้ๆ

ตรงกันข้าม เป็นการดำรงอยู่อย่างมี”ผลสะเทือน”

ไม่เพียงแต่สะเทือนต่อ พระเผด็จ ทัตตชีโว หากแต่ยังสะเทือนต่อ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส

แม้ว่า พระไชยบูลย์ สุทธิผล จะเป็น”คนๆเดียว”

 

เหตุใดจึงมีเสียงทักท้วงบทสรุปที่ว่า ปัญหา”ธรรมกาย”เป็นปัญหาอันมาจาก”คนๆเดียว”ว่า

อาจผิดพลาด คลาดเคลื่อน

เพราะในความเป็นจริง คนๆหนึ่งมีสถานะอันแน่นอนของตน 1 เป็นสถานะของคนๆนั้น

อาจเรียกว่า พระไชยบูลย์ อาจเรียกว่า พระเผด็จ

ขณะเดียวกัน 1 ยังมีสถานะเป็นสมาชิกอยู่ใน”สังคม”ที่ตนสังกัดอยู่

ไม่ว่าโดย”อาชีพ” ไม่ว่าโดย”วัตรปฏิบัติ”

เมื่อเป็น “อาชีพ” ย่อมเป็นการดำรงอยู่อย่างมีสถานะมีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง

หากเป็นพระก็อาจเป็น”ธรรมกถึก” อาจเป็น”เจ้าอาวาส”

เมื่อมีสถานะ เมื่อมีตำแหน่ง ก็หมายความว่าการดำรงอยู่ของเขาวางอยู่บนพื้นฐานของความจัดเจน เชี่ยวชาญ

และมีตำแหน่งแน่นอนในทาง “ความคิด”

 

การดำรงอยู่ของ พระไชยบูลย์ สุทธิผล การดำรงอยู่ของ พระเผด็จ ทัตตชีโว มิได้ดำรงอยู่อย่างว่างโหวง ไร้รากฐาน

คนแรกเป็น”เจ้าอาวาส” คนหลังเป็น”รองเจ้าอาวาส”

ยิ่งกว่านั้น ทั้ง 2 ยังดำรอยู่อย่างเป็นผู้สืบทอดความคิดอย่างที่รู้กันว่า “วิชชาธรรมกาย”

จาก”หลวงพ่อสด” จาก”คุณยายจันทร์”

เวลา 40 กว่าปีของการก่อตั้ง”วัดพระธรรมกาย”และใช้เป็นจุดศูนย์กลางของการเผยแผ่ความคิด ความเชื่อ ผ่านการลงมือปฏิบัติปรากฏเป็นรูปธรรมอันเด่นชัด

ไม่เพียงแต่เห็นจาก”ถาวรวัตถุ”บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่

หากแต่ยังมี “ปริ้มาณ” ของ”ศิษยานุศิษย์”มิได้จำกัดเพียงเรือนร้อยหรือเรือนพัน

หากเป็นเรือนหมื่น เรือนแสนและเรือนล้าน

ทั้งยังมิได้มีเพียง”ในประเทศ” หากแต่ยังขยายพื้นที่ ขยายสาขาไปใน”ต่างประเทศ”