ตอนนี้ชื่อของ ฟรองซัวส์ ฟียง อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ในวัย 62 ปี และเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ดูจะครองพื้นที่หน้าสื่อส่วนใหญ่ในแดนน้ำหอม แต่ไม่ใช่จากการถูกมาดหมายเป็นตัวเต็งที่จะได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำฝรั่งเศสคนต่อไปเหมือนตอนเปิดตัวช่วงแรกๆ ในปลายปีที่ผ่านมา หากแต่เป็นเรื่องอื้อฉาวของตัวนายฟียง นักการเมืองมากประสบการณ์ผู้มีแนวคิดอนุรักษนิยมสายกลาง ที่ถูก “เลอ การ์ อองแชนเน” สื่อสิ่งพิมพ์แนวเสียดสี เปิดประเด็นคุ้ยข้อมูลเบื้องลึกออกมาแฉ

โดยอ้างว่าฟียงตั้งภรรยาและลูก 2 คน มาเป็นผู้ช่วยตนเองสมัยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภา โดยใช้เงินหลวงจ่ายค่าตอบแทนให้แก่บุคคลทั้ง 3 ที่เป็นเงินถึงเกือบ 900,000 ยูโร (กว่า 33.3 ล้านบาท)

ทว่า ภรรยาและลูกทั้งสองคนของนายฟียงไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจริง ที่สื่อฝรั่งเศสเรียกว่าเป็น “งานอุปโลกน์” ของฟียง

แม้เจ้าตัวจะยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ว่าไม่เป็นความจริง และโต้กลับว่านี่เป็นเกมการเมืองที่หวังจะเตะสกัดเขาไม่ให้ได้ก้าวเข้าไปกุมบังเหียน “ปาเลส์ เดอ เลลีเซส์” ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็ตาม

แต่ประเด็นนี้กำลังเป็นมรสุมการเมืองลูกใหญ่ที่สั่นคลอนอย่างหนักต่อการลงสนามแข่งขันเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ใกล้งวดเข้ามาทุกขณะของนายฟียงไปแล้ว เห็นได้จากความนิยมที่ถดถอยลงของฟียงในตอนนี้

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวฝรั่งเศสได้เห็นความพยายามอย่างหนักของฟียง ในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ตนเองได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี หลังจากฟียงเผชิญแรงกดดันภายในพรรค โดยเฉพาะจากฝ่ายขวาจัด ที่ให้มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครไปเป็นคนอื่นแทน ซึ่งมีการเล็งไปที่ตัว นายอแลง จุปเป อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 71 ปี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบอร์โดซ์ โดยก่อนหน้านั้นโพลชี้ว่า จุปเปเป็นที่นิยมชื่นชอบของชาวฝรั่งเศสมากกว่าฟียง

แต่สำหรับพวกแนวคิดขวากลางในพรรครีพับลิกันมองว่าจุปเปมีท่าทีต่อปัญหาผู้อพยพและประเด็นปัญหาทางด้านสังคมอื่นๆ ที่อ่อนกว่าแนวทางของฟียง จึงเทเสียงมาทางฟียงมากกว่า ก่อนที่ฟียงจะมาสะดุดขาตนเองกรณีสร้างงานอุปโลกน์ให้ภรรยาและลูก

แต่อย่างไรก็ดี ที่สุดฟียงก็ยังได้รับตั๋วจากพรรคให้เป็นตัวแทนไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากจุปเปประกาศถอนตัวไป พร้อมกับการวิพากษ์ฟียงส่งท้ายต่อกรณีอื้อฉาวที่ฟียงสร้างเอาไว้ ซึ่งย่อมมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของพรรคไปด้วย

ดูเหมือนวิบากกรรมทางการเมืองของฟียงจะยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ล่าสุด ฟียงยังถูกสื่อเจ้าเดิม เลอ การ์ อองแชนเน ออกมาแฉเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ว่า เขาไม่ได้แจ้งต่อสำนักงานความโปร่งใสแห่งรัฐถึงเรื่องเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจำนวน 50,000 ยูโร (ราว 1.85 ล้านบาท) ที่เขากู้ยืมมาจาก นายมาร์ก ลาเดรต์ เดอ ลาชาร์รีแยร์ เศรษฐีนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ผู้ที่เคยได้รับรางวัลทรงเกียรติสูงสุดของประเทศในปี 2011 ที่ในห้วงเวลานั้นฟียงยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และ นายลาเดรต์ เดอ ลาชาร์รีแยร์ ยังเคยถูกตำรวจแผนกคดีการเงินสอบปากคำในข้อกล่าวหาจ่ายเงินให้กับภรรยาของนายฟียงถึง 100,000 ยูโร ในการทำหน้าที่วิจารณ์หนังสือ ขณะที่ภรรยาของนายฟียงทำงานให้กับ “ลา เรอวู เดส์ เดิงซ์ มงด์ส” แม็กกาซีนด้านวรรณกรรมที่เป็นของ ลาเดรต์ เดอ ลาชาร์รีแยร์

ต่อกรณีนี้ทนายความของฟียงรี่ออกโรงแก้ต่างให้ทันทีว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรายงานเรื่องการกู้ยืมเงินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรู้ และเงินที่ลูกความของตนกู้ยืมมาก็ได้มีการชำระคืนไปครบถ้วนแล้ว

ดูท่ามรสุมการเมืองที่รุมเร้านายฟียงจะไม่สงบลงง่ายๆ ที่ไม่เพียงเขาอาจเผชิญการถูกสอบสวนอย่างเป็นทางการกรณีงานอุปโลกน์ ที่คาดว่าเขาจะต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษาในวันที่ 15 มีนาคมนี้เท่านั้น ปมฉาวใหม่กรณีเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยก็อาจยิ่งฉุดรั้งความนิยมเชื่อมั่นในตัวฟียงให้ถดถอยลงไปมากกว่านี้อีกด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายฟียงในการเลือกตั้งรอบแรกที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เมษายนที่จะถึงนี้ วัดได้จากโพลสำรวจของหลายสำนักที่ออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนชี้ว่า มารี เลอ เปน หัวหน้าพรรคเนชั่นแนลฟรอนต์ (เอฟเอ็น) ที่เป็นพวกขวาจัด มีแนวคิดอนุรักษนิยมสุดโต่ง และ เอ็มมานูเอล มาครง ผู้สมัครอิสระหนุ่ม วัยเพียง 38 ปี กลายมาเป็น 2 ตัวเต็งที่ถูกคาดหมายว่าจะทะลุผ่านเข้าไปชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งรอบ 2 ที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ หลังจากในการเลือกตั้งรอบแรกไม่มีผู้สมัครคนใดคว้าชัยชนะไปด้วยเสียงสนับสนุนเด็ดขาดที่จะคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีไปครองได้ในทันทีเลย

จากเดิมที่มีชื่อของฟียง เป็นตัวเต็งแถวหน้า!