โดย ปรัชญา นงนุช

เป็นกองทัพดาวรุ่งในยุค “คสช.” คุมสถานการณ์บ้านเมือง เป็นเรือนข้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ หนีไม่พ้นกองทัพภาคที่1 เปรียบมือขวา คสช.

แม้เดือนก.พ.จะเป็นเดือนแห่งความรัก แต่ดูเหมือนจะทำให้เก้าอี้ คสช. รัฐบาล สะเทือนไม่น้อย โดยเฉพาะเหตุการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ประสานขอกำลังทหารร่วม โดยให้ทำหน้าที่อยู่รอบนอกวัดเท่านั้น เพื่อคัดกรองคน คุมมือที่สามจ้องป่วน

หลัง ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ออกคำสั่ง ม.44 คุมพื้นที่วัดและบริเวณโดยรอบ สแกนคนเข้าออก ตรึงกำลังดีเอสไอเข้าตรวจค้น

ภายใต้การนำของ ‘บิ๊กแดง’ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1 ที่ต้องจัดกองกำลังในหน่วยขึ้นตรง ทบ. เข้าดูแลพื้นที่ โดยตั้งให้ ‘บิ๊กหนุ่ย’ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ตท.22 รองแม่ทัพภาคที่1 เป็นผบ.บก.ควบคุมกำลังในส่วนทหาร และให้ พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผอ.กองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) เป็นผบ.เหตุการณ์ฝ่ายทหาร

ล่าสุด พล.ท.อภิรัชต์ และ พล.ต.ธรรมนูญ เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมคสช.ด้วย ในการรายงานผลและแผนการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย

โดย ‘บิ๊กแดง’ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม คสช. แต่ร่วมหารือวงย่อยก่อนประชุม‬ คสช. กับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เท่านั้น จึงเป็นอีกช่วงเวลาที่ ‘บิ๊กหนุ่ย’ ได้แสดงฝีมือให้’บิ๊กตู่’และผู้นำทัพ คสช. เห็น

จึงเป็นการเสริมบทบาทของ ‘บิ๊กหนุ่ย’ ขึ้น เป็นอีกความหวังสายบูรพาพยัคฆ์ที่จะเติบโตขึ้นต่อจาก ตท.20 หลังเป็นทัพเสริม ‘บิ๊กโอ’ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ตท.20 รองแม่ทัพภาคที่1 ในการดูแลงานรักษาความปลอดภัยและการจราจรรอบสนามหลวงมาแล้ว

จึงเป็นจุดสำคัญชี้วัดว่า งานนี้ใครจะได้ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่1 หรืออย่างน้อยเป็นแม่ทัพน้อยที่1 เพื่อจ่อชิงแม่ทัพภาคที่1 ในอนาคต

หาก ‘บิ๊กตู่เล็ก’ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่1 น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ ของ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่1 ตามลำดับ ที่เป็นแนวนโยบายของ ‘บิ๊กเจี๊ยบ ‘พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.

งานที่ “สนามหลวง – ธรรมกาย” จึงเป็นงานวัดกึ๋นของทั้ง ‘บิ๊กโอ’ และ ‘บิ๊กหนุ่ย’ ว่าบทสรุปนี้ ผลงานจะชี้วัดอะไรได้บ้างในอนาคต ที่มีผลต่อตำแหน่งหน้าที่

หากวัดความอาวุโส และเส้นทางการเติบโตแล้วนั้น ‘บิ๊กโอ’ มีแต้มนำ ‘บิ๊กหนุ่ย’ เพราะเป็น ตท.20 และสายวงศ์เทวัญ แบบ ‘บิ๊กแดง’ ในวันที่สายนี้กลับมา Comeback อีกครั้ง โดยทั้งคู่ เกษียณพร้อมกันปี2564

ช่วงเวลานายทหารที่เกษียณปี2563-2564 คือ ตท.20 ‘บิ๊กแดง’ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ‘บิ๊กตู่เล็ก’ พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 เกษียณปี 2563 และ ‘บิ๊กณัฐ’พล.ต.ทณัฐ อินทรเจริญ รอง เสธ.ทบ. อีกน้องรักที่ใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’ เกษียณปี2564 จึงทำให้ตำแหน่งของ ตท.20 และ 22 มีไม่พอแคนดิเดท

อีกทั้ง ‘บิ๊กติ่ง’ พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ตท.22 รองแม่ทัพภาคที่1 ที่เกษียณช้าสุดคือปี2565 ก็เป็นอีกความหวังของสายบูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือราชินี ที่จะเติบโตในกองทัพภาคที่1 และ ทบ. เป็นเพื่อนรักกับ ‘บิ๊กหนุ่ย’ ด้วย ซึ่งตอนนี้ติดเรียนหลักสูตรของ วปอ. ในฐานะประธานรุ่น59

แม้จะเรียน วปอ. แต่ก็แบ่งเวลามาทำงาน ดูงานกิจการพลเรือนทั้งหมดของกองทัพภาคที่1 มีทั้งงานลับงานเปิดเผย แม้ไม่ได้รับงานหลักแบบ’บิ๊กโอ-บิ๊กหนุ่ย’ และเป็นหน่วยเสริมงานทั้งหมด ที่ขาดไม่ได้

“ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต ที่เป็นเกลียวคือผอมลง ส่วนหัวเป็นน็อตคืออะไร คิดทันเปล่า” พล.ต.สันติพงศ์ กล่าวยิ้มแย้ม

บทพิสูจน์สำคัญครั้งนี้จึงอยู่ที่ ‘บิ๊กแดง’ จะจัดตำแหน่งเหล่านี้อย่างไร เพราะอีกเพียงครึ่งปีก็จะต้องมีการโยกย้ายปลายปีช่วงเดือนก.ย.อีกแล้ว

อีกเกณฑ์การปรับย้ายนอกจาก อาวุโส เติบโตตามขึ้นแล้ว หนีไม่พ้นผลงานที่เกิดตลอดรอบปี การกระจายงานของ ‘บิ๊กแดง’ ครั้งนี้ จึงมีความสำคัญยิ่ง ที่จะวัดให้เห็นผลว่าใคร “เหมาะสม” จริงๆ ลบคำปรามาสลงว่าเลือกคนของตัวเอง

ในส่วนของ ‘บิ๊กแดง’ ก็ได้รับแรงหนุนจากคนใกล้ชิดนายกฯเช่นกัน ลุ้นให้ขึ้นชิง ผบ.ทบ. ในอนาคตเลยทีเดียว ด้วยสไตล์การทำงานที่เด็ดขาด และเป็นอีกความหวังของทหารสายวงศ์เทวัญ และเป็นอีกนายทหารที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ ไว้วางใจ ตั้งแต่ให้ขึ้นนั่ง ผอ.กองสลากฯ มาแล้วนั่นเอง

ล่าสุดคือเป็นร่วมตัวแทนฝ่ายรัฐบาล กับ ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ ‘เสธ.ไก่อู’ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำนักนายกฯ เข้าเจรจาพูดคุยกับแกนนำกลุ่มต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ที่ชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาล จนถึงขั้นจับกุมแกนนำมาพูดคุยในค่ายทหาร ทำให้เกิดเสียงต่อต้านรัฐบาลขึ้น

ด้วยบุคลิกของบิ๊กแดงที่เป็น “สายบู้” อยู่แล้ว ได้เดินพร้อมแกนนำ แต่งกายชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เข้าพูดคุยกับชาวบ้านที่ชุมนุมต้านการสร้างโรงไฟฟ้า พร้อมส่งชาวบ้านขึ้นรถหลังการเจรจาเรื่องการทบทวนEIA-EHIAด้านสิ่งแวดล้อมได้ผล ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย

เป็นปกติที่ ‘บิ๊กแดง’ ต้องแสดงบทบาทนี้ เพราะเป็นพื้นที่หลังกองบัญชาการกองทัพภาคที่1 และด้วยตำแหน่งระดับแม่ทัพ ยศพลโท และตำแหน่งใกล้เคียงกับตำแหน่งฝ่ายตำรวจ ที่เป็น ผบ.ตร. มาดูแลพื้นที่และเจรจา

อีกทั้งสะท้อนว่ารัฐบาลส่งผู้ใหญ่ฝ่ายรัฐบาล-คสช. มาพูดคุย ‘บิ๊กแดง’ จึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่เพียงนายกฯไว้วางใจเท่านั้น

ส่วน ‘บิ๊กณัฐ’ ก็เดินเครื่องเปิดเวทีคนไทยหัวใจเดียวกัน รับฟังความเห็นสร้างความปรองดอง รวม 4 รุ่น ใน 4 กองทัพภาค เสริมงานคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ของ’บิ๊กป้อม’พี่เลิฟด้วย

หากมองยาวๆ แต่ละฝ่ายต่างปั้น”ดาวเด่น”ของตนขึ้น เพื่อส่งไม้ต่อในอนาคต ทั้ง ‘บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่’ และ ‘บิ๊กแดง’ ผู้คุม ทภ.1 ในสภาวะที่ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย ให้อิสระแต่ละกองทัพภาคปรับย้าย หรือนี่จะเป็นด้วยเหตุผลที่มองกันว่า ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ขาลอย ด้วย

เพราะเป็น ผบ.ทบ. รบพิเศษ ที่มีสลักรายล้อมทั้งสาย’บูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ’ แต่ก็ชี้ให้เห็นเอกภาพของกองทัพบกมากขึ้น ไม่ใช่สายใดครองอำนาจทั้งหมด เช่นก่อนหน้านี้ ที่อะไรๆก็สาย”บูรพาพยัคฆ์”ไปเสียหมด จนเกิดเสียงในทบ. ว่า “ทบ.จะแตกแล้ว”

จึงเป็นห้วงเวลาที่ ‘สถานการณ์’ จึงสร้าง ‘วีรบุรุษ’ นั่นเอง !!